กาญจนบุรี-ร่วมจุดเทียนเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ ร.5
ภาพ/ข่าว:รักษพล พุ่มพฤกษ์ ขอบคุณ:ประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี
พสกนิกรชาวจังหวัดกาญจนบุรีร่วมจุดเทียนเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระปิยมหาราช” ที่พระองค์มีต่อปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้
วันนี้ (23 ต.ค.62) เวลา 19.20 น. ที่ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี อ.เมือง จังหวัดกาญจนบุรี นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในพิธีจุดเทียน เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พร้อมด้วย นางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี นายบวรศักดิ์ วานิช นายสมยศ ศิลปีโยดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี เข้าร่วมพิธี โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีประธานในพิธีได้กล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีต่อปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ของปวงชนชาวไทย จากนั้นได้ร่วมกันจุดเทียนแสงเทียนสว่างไสวไปทั่วบริเวณ และร่วมกันยืนสงบนิ่งเพื่อน้อมรำลึก ในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นเวลา 57 วินาที ต่อจากนั้นได้ร่วมชมวิดิทัศน์ “ปิยมหาราชรำลึก” น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี พระมหากษัตริย์ ผู้กอปรด้วยคุณูปการอันใหญ่หลวง ต่อปวงอาณาประชาราษฎร์ และผืนแผ่นดินไทย ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ และพระราชกรณียกิจที่สำคัญ ได้แก่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการเลิกทาสและไพร่ในประเทศไทย โดยให้ไพร่เสียเงินแทนการถูกเกณฑ์ ซึ่งพระองค์ทรงเลิกทาสแบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากออกกฎหมายให้ลูกทาสอายุครบ 20 ปีเป็นอิสระ จนกระทั่งออกพระราชบัญญัติเลิกทาส ร.ศ. 124 (พ.ศ. 2448) ซึ่งปล่อยทาสทุกคนให้เป็นอิสระและห้ามมีการซื้อขายทาส นอกจากนี้ยังได้มีการป้องกันการเป็นอาณานิคมของจักรวรรดิฝรั่งเศสและจักรวรรดิอังกฤษ การประกาศออกมาให้มีการนับถือศาสนาโดยอิสระในประเทศ นอกจากนี้ได้มีการนำระบบจากทางยุโรปมาใช้ในประเทศไทย ได้แก่ระบบการใช้ธนบัตรและเหรียญบาท ใช้ระบบเขตการปกครองใหม่ เช่น มณฑลเทศาภิบาล จังหวัด และอำเภอ และได้มีการสร้างรถไฟ สายแรก คือ กรุงเทพฯ ถึง อยุธยา
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/