ประจวบคีรีขันธ์-ชาวบ้านยื่นหนังสือ ให้เร่งแก้ปัญหาที่ดินทับซ้อน
ภาพข่าว:พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา
ชาวบ้านตำบลอ่าวน้อยยื่นหนังสืออธิบดีกรมป่าไม้ ให้เร่งแก้ปัญหาที่ดินทับซ้อน
วันที่ 8 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรวบ เปรมประสิทธิ์ ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมคณะกรรมการสภาฯ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และตัวแทนประชาชน 40 คน เดินทางเข้าพบ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ และนายอรรณพ ชัยพรธนรัตน์ ผู้อำนวยการส่วนกำหนดเขตที่ดินป่าไม้ ณ ห้องประชุม 1 กรมป่าไม้ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามผลการแก้ไขแผนที่ท้ายกฎกระทรวงป่าสงวนแห่งชาติ ป่ากุยบุรี ในส่วนที่ทับซ้อนกับแผนที่นิคมสร้างตนเองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายพรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เขต 2 นายดิเรก จอมทอง คณะทำงานพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ประสานงาน
นายรวบ เปรมประสิทธิ์ กล่าวว่า นับตั้งแต่การก่อตั้งนิคมฯ ในปี พ.ศ.2512 ตนและสมาชิกสภาฯ อีกหลายพันคนได้เฝ้าติดตามการแก้ปัญหามาโดยตลอด จนมาปี พ.ศ.2557 เมื่อครั้งที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินร่วมกับผู้แทนกรมป่าไม้และกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ได้ลงพื้นที่ตำบลอ่าวน้อยเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและวางกรอบแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่ทับซ้อน ส่วนราชการได้แต่งตั้งคณะทำงานและประชุมหารือกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกหลายครั้งและแจ้งว่าจะดำเนินแก้ไขปัญหานี้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว แต่จนถึงขณะนี้ ปี พ.ศ.2562 กรมที่ดินก็ยังไม่อาจออกโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชน โดยให้เหตุผลว่า ต้องรอให้ทางกรมป่าไม้ดำเนินการแก้ไขแผนที่ท้ายกฎกระทรวงป่าสงวนแห่งชาติ ป่ากุยบุรี ในส่วนที่ทับซ้อนกับแผนที่นิคมสร้างตนเองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และออกกฎกระทรวงประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ป่ากุยบุรี ใหม่ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ให้แล้วเสร็จก่อนเท่านั้น
สภาองค์กรชุมชนตำบลอ่าวน้อย จึงได้เข้าขอคำปรึกษาจากนายวิชิต และคณะทำงานพรรคเพื่อไทย ก่อนจัดตั้งคณะทำงานและจัดเวทีประชุมเสวนาสัญจรไปตามหมู่บ้านต่างๆ ในเขตตำบลอ่าวน้อยที่เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งหมด 4 เวที เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึง กันยายน 2562 มีตัวแทนเข้าร่วมการประชุมรวมทั้งหมดกว่า 500 ครัวเรือน พบว่ามีผู้แจ้งรายละเอียดและมอบสำเนาเอกสารสิทธิ์ที่ดินหนังสือแสดงการทำประโยชน์ น.ค.3 เกิน 700 แปลง คิดเป็นพื้นที่รวมประมาณ 10,000 ไร่ จึงจำเป็นต้องเดินทางมามอบหนังสือแสดงเจตจำนง เพื่อขอความกรุณาจากท่านอธิบดีกรมป่าไม้ ให้ทำการการตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งรัดการแก้ปัญหาให้กับประชาชนผู้เดือดร้อน
ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาที่ดินที่หน่วยงานภาครัฐจัดสรรให้ราษฎรทับซ้อนกับเขตที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ มีมากกว่า 1,000 แปลง ทั่วประเทศ ซึ่งกรมป่าไม้ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งรัดแก้ปัญหานี้มาโดยตลอดแต่อาจจำเป็นต้องใช้เวลาในการดำเนินการตามลำดับความสำคัญ เร่งด่วนและความซับซ้อนของปัญหา ต่อกรณีเขตพื้นที่ทับซ้อนเขตนิคมสร้างตนเองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์นี้ ทางกรมป่าไม้ มีฐานข้อมูลอยู่แล้วและโดยหลักการของส่วนราชการที่ถือปฏิบัติคือ หากที่ดินใดที่เคยกำหนดเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติและหน่วยงานรัฐนำไปจัดสรรเพื่อประโยชน์แก่ราษฎรแล้วนั้น ไม่มีเหตุผลใดที่ทางกรมป่าไม้จะเรียกคืนมาเป็นของรัฐอีก ดังนั้นจึงขอให้ทางสภาองค์กรชุมชนตำบลอ่าวน้อย คลายความกังวลกับเรื่องนี้ได้ รายละเอียดและข้อมูลต่างๆ ที่ได้แนบมาพร้อมหนังสือในวันนี้ทางกรมป่าไม้ จะรับไว้และนำมาพิจารณาประกอบกับข้อมูลที่กรมป่าไม้มีอยู่แล้วและจะเร่งรัดดำเนินการติดตามแก้ไขปัญหาให้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ หากมีความคืบหน้าจะเร่งแจ้งให้ทางสภาองค์กรชุมชนตำบลอ่าวน้อย ทราบต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/