ประจวบคีรีขันธ์-นำสิ่งของช่วยชาวเมียนมาประสบภัยน้ำท่วมหนัก

ภาพ/ข่าว:พิสิษฐ์ รื่นเกษม

กู้ภัยประจวบฯนำสิ่งของช่วยชาวเมียนมาประสบภัยน้ำท่วมหนัก

          เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 62นายสมเกียรติ เอ่าจี่มิด ที่ปรึกษาฝ่ายต่างประเทศ สมาคมส่งเสริมพัฒนาการค้าการลงทุนประจวบ – มะริด เปิดเผยว่า หลังจากพื้นที่ อ.ตะนาวศรี จ.มะริด ประเทศเมียนมา ประสบภัยน้ำท่วมหนักจากน้ำป่าไหลหลากติดต่อกันหลายวัน ทำให้ส่งผลกระทบด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว ผ่านจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ กับ จ.มะริด ล่าสุดสถานการณ์เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ สำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวจากด่านสิงขรไป อ.ตะนาวศรี และ จ.มะริด ระยะทาง 180 กิโลเมตร สามารถเดินทางได้ตามปกติวันที่ 19 สิงหาคม นี้
             มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ใช้รถออพโรด 15 คัน นำสิ่งของบริจาค เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่มบรรจุขวด เดินทางจากด่านสิงขรไป อ.ตะนาวศรี เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวเมียนมา โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยและเมียนมาอำนวยความสะดวกในการเดินทางหลังจากได้รับการประสานงานจากหน่วยงานราชการใน จ.มะริด
             นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.เขต 3 จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม อ.บางะพาน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯได้เร่งรัดให้กรมชลประทานเร่งขุดคลองลัดหรือโครงการคลองผันน้ำที่ ต.พงศ์ประศาสน์ให้เสร็จตามแผนงานที่กำหนด ขณะเดียวกันได้ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำบ้านไทรทอง ต.ทองมงคล ความจุ 13 ล้านลูกบาศก์เมตร ( ลบ.ม.) ใช้งบกว่า 900 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระยะเริ่มต้นของโครงการ มีการขุดร่องแกนฐานรากของตัวสันอ่างถือเป็นหัวใจสำคัญในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อนเก็บน้ำ

             “ เจ้าหน้าที่ได้นำดินฐานรากไปทำการวิเคราะห์ตามหลักวิชาการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาว อ.บางสะพาน หลังจากมีปัญหาอ่างเก็บน้ำบ้านมรสวบ ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน สันเขื่อนทุรด 2 ครั้ง ขณะนี้ยังไม่สามารถใช้งานเพื่อบรรเทาภัยแล้งและน้ำท่วมตามแผนที่กำหนดไว้ สำหรับอ่างเก็บน้ำไทรทองจะมีการก่อสร้างประตูระบายน้ำ เพื่อพร่องน้ำออกจากอ่างในระบบอัตโนมัติ หากมีน้ำดิบเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนด เพื่อน้ำที่ล้นสปิลเวย์ไม่กระทบกับชุมชนท้ายน้ำในเขตเศรษฐกิจของ อ.บางสะพานหากมีฝนตกหนักในพื้นที่” นายประมวล กล่าว

                  ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่ อ.บางสะพานที่ได้ผลกระทบหรือการใช้ประโยชน์จากการซ่อมอ่างเก็บน้ำมรสวบ ความยาว 540 เมตร กว้าง 7 เมตร หลังจากกรมทรัพยากรน้ำใช้งบซ่อมตั้งแต่ปี 2557 ถึงปัจจุบันยังไม่สามารถใช้งานได้ สามารถยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.สอบสวนข้อเท็จจริงและเอาผิดกับหน่วยงานผู้รับผิดชอบโครงการ และก่อนจะขอใช้งบซ่อมเพิ่มเติมกรมทรัพยากรน้ำควรชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบปัญหา อุปสรรคที่เกิดขึ้น แต่ไม่เห็นด้วยหากประชาชนจะร้องศาลปกครอง เพื่อขอให้มีคำสั่งระงับการซ่อมไว้ชั่วคราว เนื่องจากจะทำให้สันอ่างชำรุดเพิ่ม

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/