ศรีสะเกษ-กลุ่มแบ็คโฮโวยโดนเสี่ย ช รีดเงินรายละ 5,000 บาทนานกว่า 2 ปี
ภาพ/ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข
กลุ่มแบ็คโฮโวยโดนเสี่ย ช รีดเงินรายละ 5,000 บาทนานกว่า 2 ปี รายใดไม่จ่ายจะแจ้งตำรวจจับ ไปแจ้งความจับข้อหากรรโชกทรัพย์แล้วแต่คดีไม่คืบหน้า
เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 19 ธ.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการรถแบ็คโฮและ รถบรรทุกดิน 6 ล้อดั๊ม ในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ จำนวนประมาณ 50 คน นำโดย นายชัย ศรีคราม อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 1 ต.พยุห์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นางบุตรดี บุญแก่น อายุ 63 ปี นางทวี จันทะพันธ์ อายุ 60 ปี เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กับ นายคุณากร ทรงเย็น นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมและคณะว่า ได้ถูกชายคนหนึ่งอ้างว่า ชื่อ เสี่ย ช. บ้านอยู่ในตัว อ.พยุห์ ได้ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลออกตระเวณรีดไถเงินจากผู้ประกอบรถแบ็คโฮและรถบรรทุกดิน 6 ล้อดั๊ม รายละ 5 – 6,000 บาทต่อ เดือน มาตั้งแต่ปี 2560 – 2562 โดยมี นาง บ. ผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดออกตระเวนเก็บเงินส่งให้ หากรายใดไม่ยอมจ่ายเงินส่วยรายเดือนให้เสี่ย ช.ก็จะโดนเสี่ย ช.กลั่นแกล้งแจ้งให้เจ้าหน้าที่ ตร.และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปจับกุม โดยทุกรายที่โดนเจ้าหน้าที่จับกุมจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายจ่ายค่าปรับรายละ 4 – 50,000 บาท ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
นางทวี จันทะพันธ์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 198 หมู่ 2 บ้านหนองเตย ต.พรหมสวัสดิ์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนประกอบอาชีพนำรถแบ็คโฮและรถดั๊ม 6 ล้อไปรับจ้างปรับหน้าดินตามท้องนาในเขต อ.พยุห์และอำเภอต่าง ๆ ในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ต่อมาถูกเสี่ย ช.เข้ามาข่มขู่รีดไถเงิน มาตั้งแต่ปี 2560 โดยครั้งแรกเสี่ย ช.เรียกเงินส่วยจากตนเดือนละ 6,000 บาท หากไม่ยอมจ่ายเงิน เสี่ย ช.ข่มขู่ว่า จะต้องถูกจับกุมโทษหนักมาก แต่ต่อมาตนเห็นว่าเรียกเงินมากเกินไป ตนจึงหยุดจ่ายเงินให้ เสี่ย ช. ทำให้เสี่ย ช.ไปแจ้ง ตร.และส่วนราชการแห่งหนึ่งให้ไปจับกุม ตนต้องถูกดำเนินคดีและจ่ายค่าปรับไปจำนวน 40,000 บาท จากนั้น ตนต้องทนจ่ายเงินส่วยให้ เสี่ย ช.เดือนละ 6,000 บาท แต่ขอต่อรองลงมาเหลือ 5,000 บาท เพราะว่า ตนต้องจ่ายค่าน้ำมัน ค่าเงินเดือนลูกน้องและค่าซ่อมแซมรถจำนวนมาก โดยเสี่ย ช.อ้างว่า จะต้องนำเอาเงินไปให้นาย ทั้งที่เป็นบิ๊กสีกากี และบิ๊กข้าราชการหน่วยงานแห่งหนึ่งที่เกี่ยวข้องทุกเดือน ทำให้พวกตนได้รับความเดือดร้อนมาก เคยไปร้องทุกข์กับส่วนราชการหลายแห่งแต่เรื่องเงียบหายไป จึงมาขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรมศรีสะเกษ
นางบุตรดี บุญแก่น อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/2 หมู่ 2 บ้านกระแชงน้อย ต.ตำแย อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนมีอาชีพนำรถแบ๊คโฮไปรับจ้างปรับหน้าดิน ต่อมา เสี่ย ช. มาข่มขู่เรียกเงินจากตนเดือนละ 5,000 บาท ตั้งแต่ปี 2561 – 2562 เป็นเงินรวมแล้วประมาณ 50,000 บาท โดยเสี่ย ช.อ้างว่าจะต้องนำเงินไปให้นายเพื่อเคลียร์ให้ไม่ต้องโดนจับกุมข้อหา พรบ.โรงงานและเคลียร์เส้นทางเดินรถให้ โดยตนจะต้องนำเงินไปส่งให้เสี่ย ช.ที่บ้านในตัว อ.พยุห์ ทุกเดือน ต่อมา เสี่ย ช.จะให้ นาง บ.ผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งมาเก็บเงินให้ โดยจะมาเก็บเงินที่บ้านของตน จะบอกกับตนว่า “เพิ่นให้มาเอาเงิน” ตนต้องไปหาเงินมาจ่ายให้ จำนวน 5,000 บาท ระหว่างจ่ายเงินมีญาติของตนหลายคนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ตนได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.พยุห์ ให้ดำเนินคดีกับ เสี่ย ช.และ นาง บ. ในความผิดฐาน ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ แต่ว่า คดียังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งเสี่ย ช.จะบอกกับคนทั่วไปเสมอว่า เขาสนิทกับนายที่เป็นบิ๊กสีกากี ไม่มีใครทำอะไรได้ หากใครไม่จ่ายเงินรายเดือนให้จะแจ้งนายสั่งให้เจ้าหน้าที่ไปจับกุมมาเสียค่าปรับให้หมด ทำให้พวกตนเดือดร้อนมาก เคยร้องเรียนไปยังหลายส่วนราชการแต่ว่าไม่มีส่วนราชการใดเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาช่วยพวกตนได้
นายคุณากร ทรงเย็น นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า เรื่องนี้ ตนจะรายงานให้ นายบุญชวัฒน์ ปัญญาแดง ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ ได้รับทราบเพื่อรายงานให้ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ ได้รับทราบเพื่อจะได้พิจารณาสั่งการให้การช่วยเหลือตามกฎหมายกับกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้อย่างเร่งด่วนต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/