ศรีสะเกษ-จัดทอดกฐินสมทบทุนซื้อสีทองทาองค์พระนอน

ศรีสะเกษ-จัดทอดกฐินสมทบทุนซื้อสีทองทาองค์พระนอน

ภาพ/ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข

          หลวงพ่อพุฒเปิดวัดป่าถ้ำผึ้งสวยงามใต้หน้าผาติดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา จัดทอดกฐินสมทบทุนซื้อสีทองทาองค์พระนอน ส่งเสริมการท่องเที่ยวตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ในมิติทางพระพุทธศาสนา

         เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดป่าถ้ำผึ้ง ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์(ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ เปิดเผยว่า อาตมาภาพพร้อมด้วย นายอรรถพล อรรคบุตร นายอำเภอภูสิงห์ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษ และนายบุญมี เสนคราม กำนัน ต.ไพรพัฒนา ได้นำพุทธศาสนิกชนทั่วไป และศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่สรวง ทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชาตามแนวชายแดนไทย- กัมพูชา ด้าน อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และต่างจังหวัด ร่วมกันเป็นประกอบพิธีทอดกฐินสามัคคี เพื่อสมทบทุนซื้อสีทองทาองค์พระนอน โดยมีพระครูใบฎีกาพรชัย จันทะโก เจ้าคณะตำบลไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ ได้นำคณะสงฆ์ของวัดป่าถ้ำผึ้ง ประกอบพิธีทางศาสนา มาร่วมทอดถวายกฐินสามัคคีเป็นจำนวนมาก ได้เงินสมทบทุนพัฒนาวัด จำนวน 595,299 บาท ทั้งนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมประเพณีให้คงอยู่สืบไป
          พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์(ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ เปิดเผยว่า กล่าวว่า วัดป่าถ้ำผึ้ง บ้านโอปังโกว์ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เป็นวัดที่สร้างอยู่ใต้หน้าผา บนภูเขา มีถ้ำหิน โขดหินแบบเป็นธรรมชาติที่สวยงามมาก มูลนิธิหลวงปู่สรวงได้พัฒนาให้เป็นแหล่งศึกษาเชิงธรรมชาติ และปฏิบัติติธรรมกัมฐานของพระสงฆ์และเนกขัมมะจารีชีพราหมณ์ ตลอดจนประชาชนทั่วไป และสร้างพระนอนไว้ให้พุทธศาสนิชนไว้กราบไหว้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา โดยใช้มิติทางพระพุทธศาสนา
           ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษและนายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า เคยได้ฟังเรื่องราวของวัดนี้ ว่าในช่วงเข้าพรรษาปีพ.ศ. 2556 มีงูจงอางสองตัวเข้ามาขดตัวอยู่ที่ใต้ฐานพระประธานเป็นงูตัวผู้และตัวเมีย ขดตัวอยู่เช่นนี้ไม่เลื้อยไปที่อื่นเลย เป็นเวลาหกวันหกคืน แบบสำรวมไม่แสดงความดุร้ายต่อพระสงฆ์และผู้ที่เข้าใกล้แต่อย่างใด ส่วนอีกตัวหนึ่งคาดว่าน่าจะเป็นตัวเมียเมื่อเลื้อยเข้ามาแล้วก็เลื้อยหายไปเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
           ดร.กัลยาณี กล่าวต่อไปว่า เมื่อตนได้มาเห็นสถานที่แล้วรู้สีกตื่นตาตื่นใจ และเหมาะที่จะทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่ง ซึ่งผู้ที่เดินทางมาสามารถมาท่องเที่ยวและใช้เป็นที่พึ่งทางใจสำหรับผู้ที่ต้องการปฏิบัติธรรม หากได้มานั่งสมาธิที่วัดแห่งนี้ จะสามารถปฏิบัติติธรรมได้อย่างเต็มที่ มีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น สถานที่ก็ไม่ห่างจากวัดไพรพัฒนา ใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงทางศาสนาได้เป็นอย่างดี สงบร่มเย็นดีมาก จึงขอเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาเช็คอินที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เพิ่งค้นพบใหม่ของ จ.ศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งด้วย

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!