ศรีสะเกษ-วอนภาครัฐเจรจากัมพูชาเปิดปราสาทพระวิหาร
ภาพ/ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข
ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยววอนภาครัฐเจรจากัมพูชาเปิดปราสาทพระวิหาร เพื่อให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมได้หวังส่งเสริมการท่องเที่ยวของศรีสะเกษให้คึกคักตลอดปี นอกเหนือจากเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟจะต้องมีเขาพระวิหาร
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องปฏิบัติราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ และนายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยคณะกรรมการส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยว ประกอบด้วย นายกวีพจน์ พรเอี่ยมมงคล อุปนายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ นางประพันธ์ หงษ์ศิลา เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวศรีสะเกษ ดร.รัชพล สุทนต์ เลขาธิการสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ นายเลิศ นนทศิลา กรรมการส่งเสริมเครือข่ายภัตตาคารร้านอาหาร นายดาเรศ พละศักดิ์ กรรมการเครือข่ายท่องเที่ยวการท่องเที่ยวชุมชนอำเภอกันทรารมย์ และนางบูรณ์ภาคย์ ภูมิโภคพัฒน์ กรรมการเครือข่ายการท่องเที่ยวชุมชน อำเภอห้วยทับทัน ได้มาเข้าพบ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้เปิดปราสาทพระวิหารเพื่อให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมได้ เนื่องจากว่าปราสาทพระวิหารเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ติดแนวชายแดนไทย – กัมพูชาด้านอุทยานห่างชาติเขาพระวิหารที่ได้ถูกปิดมานานสิบกว่าปีแล้ว
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดเขาพระวิหารอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2535 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศหลั่งไหลมาจากทั่วทุกทิศ รถทัวร์นำนักท่องเที่ยวขึ้นชมปราสาทเขาพระวิหารวันละร้อยกว่าคัน เศรษฐกิจคึกคักสร้างงานสร้างรายได้ในท้องถิ่นมาก แต่เพราะสถานการณ์ทางการเมืองไม่นิ่ง ทำให้ปราสาทพระวิหารปิดๆเปิดๆเรื่อยมา ครั้งสุดท้ายได้ถูกปิดโดยมีกุญแจคล้องประตูเหล็กปิดทางขึ้นปราสาทพระวิหารเมื่อเดือนกันยายน 2550 ที่ผ่านมา จากนั้นมาก็ไม่เคยมีทีท่าว่าจะเปิดได้อีก และนับตั้งแต่ปิดเขาพระวิหาร ทำให้ชุมชนในพื้นที่ใกล้เขาพระวิหาร และจังหวัดศรีสะเกษ ขาดรายได้มากเพราะนักท่องเที่ยวลดลง
ดร.กัลยาณี กล่าวต่อไปว่า จากที่เคยมีตัวเลขนักท่องเที่ยวสูงมากในปี พ.ศ.2538-2541 (ในช่วงวันที่ 1 สิงหาคม 2541 มีนักท่องเที่ยวชาวไทย 706,435 คน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 5,004 คน ) จึงขอให้จังหวัดเปิดเขาพระวิหารเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกเพราะถูกปิดมานานสิบกว่าปีแล้ว และขณะนี้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชาก็มีความแน่นแฟ้นดีแล้ว ดังนั้น จึงเห็นควรเปิดปราสาทพระวิหารให้นักท่องเที่ยวฝั่งไทยสามารถเดินทางเข้าไปเที่ยวชมปราสาทพระวิหารได้อีกครั้ง ตนจึงขอวอนให้รัฐบาลชุดใหม่ผ่านท่านผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษได้เปิดทำการเจรจากับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อพิจารณาเรื่องการเปิดปราสาทพระวิหารให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมได้โดยด่วนด้วย เพื่อจะได้เป็นการช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจด้านการค้าและการท่องเที่ยวของจังหวัดศรีสะเกษดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมต่อไป
ทางด้าน นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า เรื่องการเปิดเขาพระวิหารเป็นเรื่องที่น่าสนับสนุนและตนเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากเปิดได้จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวศรีสะเกษมากกดว่าเดิม แต่เรื่องนี้ต้องมีการคุยกันหลายฝ่าย ทั้งนี้ต้องหารือไปที่กระทรวงมหาดไทย และฝ่ายการทหาร ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายกระทรวงต่างประเทศ ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศกัมพูชา ต้องปรึกษาและมีการประชุมร่วมกันหลายฝ่าย ตนก็อยากให้ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทุกส่วนมีรายได้สามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้จังหวัดศรีสะเกษและประเทศไทยมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะได้นำเสนอหน่วยเหนือเพื่อพิจารณาต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/