กสถ. แจงกรณีมีการแอบอ้างเรียกรับผลประโยชน์
ภาพ/ข่าว:วีรพล จ้อยทองมูล
กสถ. แจงกรณีมีการแอบอ้างเรียกรับผลประโยชน์จากผู้สมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ปี 2562
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562 รศ.อัษฎางค์ ปาณิกบุตร ประธานกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) เปิดเผยถึงกรณีที่ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าได้รับแจ้งจาก เพื่อน ส.ส. หลายจังหวัดว่า ในการเปิดสอบเข้ารับราชการของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย หลายอัตรา ซึ่งขณะนี้ได้ประกาศผลการสอบข้อเขียนแล้ว และกำลังจะสอบสัมภาษณ์ในวันที่ 25 ส.ค. 62 แต่มีการเรียกรับเงินรายละ 500,000 บาทเป็นอย่างต่ำ นั้น ทาง กสถ. ขอชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ว่า การดำเนินการสอบแข่งขันในครั้งนี้ ดำเนินการโดยคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ไม่ใช่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 8/2560 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ “แก้ไขปัญหาการใช้ระบบอุปถัมภ์ และการเรียกรับผลประโยชน์ในการสอบแข่งขันตลอดจนเพื่อมิให้เกิดความไม่เป็นธรรม และเกิดความเสียหายต่อระบบการบริหารงานบุคคลของ อปท. อย่างร้ายแรง” ในการจัดการสอบแข่งขัน กสถ. ได้ให้มหาวิทยาลัยที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้จัดการสอบแข่งขันภายใต้การกำกับดูแล ของ กสถ. อย่างเคร่งครัด และได้มีการกำหนดเงื่อนไขไว้ว่า “หากการดำเนินการสอบแข่งขันมหาวิทยาลัยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงการจ้าง หรือเกิดความเสียหายจากการบกพร่องในการจัดการสอบแข่งขันมหาวิทยาลัยต้องเป็นผู้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่เกิดขึ้นด้วย”
รศ.อัษฎางค์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีเกี่ยวกับการเรียกรับเงินผู้สมัครสอบ นั้น ในการสอบครั้งที่ผ่านมาหรือการสอบของหน่วยงานต่างๆ ก็จะปรากฏว่ามีการแจ้งเกี่ยวกับการเรียกรับเงินจากผู้สมัครสอบ โดยแอบอ้างว่ารู้จักข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หรือนักการเมืองที่สามารถช่วยให้เป็นผู้สอบได้ หรือบางครั้งก็อ้างว่ามีข้อสอบที่จะใช้ในการสอบ เป็นต้น ซึ่งในเรื่องดังกล่าว กสถ. ได้มีประกาศแจ้งเตือนเกี่ยวกับการทุจริตในการสอบ การแอบอ้างหรือหลอกลวงผู้สมัครสอบ เพื่อไม่ให้ผู้สมัครสอบหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อของผู้แอบอ้าง โดยให้มีการแจ้งเบาะแสมาที่ศูนย์ดำรงธรรมกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และได้มีการขอความร่วมมือจากตำรวจสันติบาลตรวจสอบข้อมูลที่มีผู้แจ้งเบาะแสทุกราย ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการสอบข้อเขียน (ภาค ก และภาค ข) ไม่ปรากฏว่ามีการร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต แต่ปรากฏการร้องเรียนของผู้ที่สอบไม่ผ่านว่าข้อสอบมีความคลาดเคลื่อน มีการพิมพ์คำถาม คำตอบไม่ถูกต้อง มีข้อสอบบางข้อซ้ำกับหนังสือที่ใช้อ่านในการเตรียมตัวสอบ หรือขอทราบผลคะแนนการสอบ ซึ่งในเรื่องดังกล่าว กสถ. ได้มีการแจ้งให้มหาวิทยาลัยได้ตรวจสอบตามข้อร้องเรียนดังกล่าวและดำเนินการให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้เข้าสอบทุกคน
รวมทั้งได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้สมัครสอบทุกคนได้ทราบขั้นตอนการขอดูคะแนนผลการสอบว่า “การเปิดเผยคะแนนสอบ ภาค ก และ ภาค ข ในขณะนี้ ยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ เนื่องจากกระบวนการสอบแข่งขันยังไม่เสร็จสิ้น จะต้องมีการสอบในภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค) ในวันที่ 25 สิงหาคม 2562 เพราะจะมีผลกระทบกับกระบวนการสอบแข่งขันในขั้นตอนการสอบดังกล่าว โดยเมื่อมีการประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้แล้ว กสถ. จะได้มีประกาศให้ผู้เข้าสอบแข่งขันสามารถขอทราบข้อมูลคะแนนผลการสอบของตนเองได้ โดยจะอำนวยความสะดวกให้สามารถขอข้อมูลทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และจะได้ดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบการสอบแข่งขันที่ กสถ. ได้ดำเนินการ และเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่จะแก้ไขปัญหาการใช้ระบบอุปถัมภ์หรือการเรียกรับผลประโยชน์จากการสอบแข่งขัน และปฏิรูปการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น ให้เป็นไปตามระบบคุณธรรม ความเสมอภาคในโอกาส และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สุดท้ายขอเรียนว่า คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้ใช้ความพยายามและความทุ่มเทอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้การสอบเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ได้คนดี มีความรู้ ความสามารถ มีคุณธรรม อย่างแท้จริงมาปฏิบัติงานใน อปท. จึงขอความร่วมมือจากทุกท่านและทุกฝ่ายได้เชื่อมั่นในกระบวนการสอบที่ผ่านมา และหากมีเบาะแสหรือพบเห็นพฤติการณ์การทุจริตการสอบแข่งขันหรือการเรียกรับผลประโยชน์เพื่อช่วยให้เป็นผู้สอบแข่งขันได้ ขอให้แจ้งคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) หรือสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดได้ทุกจังหวัด รศ.อัษฎางค์ กล่าวในตอนท้าย
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/