กาญจนบุรี-กิจกรรมเผาทำลายท่อนพันธุ์มันสำประหลัง

ภาพ/ข่าว:รักษพล พุ่มพฤกษ์/มานพ บุตรเนียม

        เจ้าหน้าที่กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดกาญจนบุรีศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรกาญจนบุรีชมรมลานมันสำประหลังจังหวัดกาญจนบุรี/ศูนย์ส่งเสริมมันสำประหลังแห่งประเทศไทยจังหวัดกาญจนบุรี องค์การบริหารส่วนตำบลดอนแสลบ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกิจกรรมเผาทำลายท่อนพันธุ์มันสำประหลังจาก อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเกษตรกรจะนำมาปลูกที่ตำบลหนองไผ่ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ที่เตาเผาขยะองค์การบริหารส่วนตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อหยุดยั้งโรคใบด่างมันสำปะหลังจากพื้นที่ชายแดนประเทศกัมพูชามาทำการปลูกในพื้นที่เข้ามายังพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี

           ที่เตาเผาขยะ องค์การบริหารส่วนตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ว่าที่ ร้อยตรี ศุภมงคล บูชาถ่ายเทศ นายอำเภอห้วยกระเจา นายวันชัยวิริยาทรพันธุ์ อุปนายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายสรรเสริญ สุนทรทยาภิรมย์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมพัฒนาการผลิตมันสำปะหลัง (แห่งประเทศไทย) จังหวัดกาญจนบุรี และนายมนตรี เชื้อใจ เจ้าหน้าที่กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี องค์การบริหารส่วนตำบลดอนแสลบ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกิจกรรมเผาทำลายท่อนพันธุ์มันสำประหลังจาก อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเกษตรกรจะนำมาปลูกที่ตำบลหนองไผ่ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อหยุดยั้งโรคใบด่างมันสำปะหลังเข้ามายังพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี
          กรมวิชาการเกษตรนำคณะเจ้าหน้าที่ตรวจวินิจฉัยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังเพื่อทำการสำรวจตรวจสอบหลังคณะตรวจสอบพบว่ามีการซื้อต้นมันที่ติดโรคใบด่างมันสำปะหลังจากพื้นที่ชายแดนประเทศกัมพูชามาทำการปลูกในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีกว่า 200 ไร่
          เมื่อเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรพร้อมคณะตรวจวินิฉัยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เดินทางมาถึงยังแปลกปลูกมันสำปะหลังของนายทุนจากกรุงเทพท่านหนึ่งที่ได้นำต้นมันสำปะหลังที่ซื้อมาจากทางภาคอีสานซึ่งเป็นพื้นที่ของการระบาดหนักของโรคใบด่างมันสำปะหลังมาทำการปลูกอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และเมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงแปลงมันสำปะหลังดังกล่าวคณะวินิจฉัยกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้ทำการวางแผ่นเพื่อทำการสำรวจแปลงมันดังกล่าวตามมาตรฐาน ISPM No. 6( Guidelines for surveillance ) ซึ่งทางนายทุนดังกล่าวได้นำพันธุ์มันสำปะหลังที่ซื้อมาจากพื้นที่แพร่ระบาดจำนวน 5,000 ต้นมาทำการลงปลูกในแปลงดังกล่าวเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบพบว่า พันธุ์มันดังกล่าวที่เจ้าของแปลงนำมาปลูกปรากฏว่าต้นมันสำปะหลังดังกล่าวติดโรคใบด่างมันสำปะหลัง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการรื้อถอนเพื่อนำไปทำลายไม่ให้เชื้อโรคดังกล่าวแพร่กระจายไปในพื้นที่ใกล้เคียง
           จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการสำรวจและตรวจสอบแปลงมันที่ของนายทุนคนดังกล่าวอีกแปลงซึ่งได้ดำเนินการปลูกไว้จนต้นโตใหญ่เจ้าหน้าที่พบว่า มันสำปะหลังแปลงดังกล่าวนี้ก็ติดโรคใบด่างมันสำปะหลังเช่นเดียวกันกับแปลงที่กำลังปลูก ไปแล้วจำนวน 78 ไร่ เจ้าหน้าที่จะต้องต้องถอนทำลายต้นมันสำปะหลังดังกล่าว แต่ด้วยต้นมันในแปลงดังกล่าวมีจำนวนมากการถอนทำลายจะทำให้ล่าช้าและอาจจะเกิดการแพร่กระจายของโรคไปยังพื้นที่ใกล้เคียงจึงจำเป็นต้องเร่งทำการถอนทำลาย ทางเจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนจากจิตอาสา ช่วยรื้อถอนทำลายต้นมันสำปะหลังดังกล่าวที่ติดเชื้อในแปลงดังกล่าวออกให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้นำไปทำลายอย่างถูกวิธีต่อไป ซึ่งทางกรมวิชาการกระทรวงเกษตร ได้สั่งห้ามนำต้นมันสำปะหลัง ในพื้นที่ ที่มีโรคออกจากพื้นที่โดยเด็ดขาด เพราะเชื้อโรคนี้อยู่ในลำตันของมันสำปะหลัง ถ้านำไปปลูกที่อื่น โรคจะแพร่ไปติดกับมันสำปะหลังในพื้นที่ได้ และเป็นการระบาดที่เร็วมาก

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/