กาญจนบุรี-พิธีฌาปณกิจศพคุณยายจี๊ด ม่วงน้อย “คุณยายสู้ชีวิต”
ภาพ/ข่าว:มานพ บุตรเนียม
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในพิธีฌาปณกิจศพคุณยายจี๊ด ม่วงน้อย “คุณยายสู้ชีวิต”ราษฎรในพระบรมราชินูปถัมภ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9
วันนี้(12 มีนาคม 2562) นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีฌาปณกิจศพคุณยายจี๊ด ม่วงน้อย อายุ 88 ปี “คุณยายสู้ชีวิต” ราษฎรในพระบรมราชินูปถัมภ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 พร้อมด้วย นางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี โดยมี ลูกสาวและญาติๆรวมถึง นายวิฑูรย์ สิรินุกูล นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยนที่ ลูกจ้างองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หัวหน้าส่วนและหน่วยงานต่างๆให้การต้อนรับ ณ บริเวณพระเมรุวัดถ้ำขุนไกร หมู่ที่ 5 ตำบลแก่งเสี้ยน อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
ต่อจากนั้น พิธีการได้เรียนเชิญแขกผู้มีเกี่ยรติที่เดินทางไปร่วมงานถวายผ้าบังสกุลจำนวน 2 ชุดๆละ 4 ท่าน เสร็จแล้วได้มีการกล่าวเกี่ยวกับประวัติความดีงามของคุณยายจี๊ด ม่วงน้อย อายุ 88 ปี “คุณยายสู้ชีวิต” ราษฎรในพระบรมราชินูปถัมภ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ให้ประธานในพิธีและแขกผู้มีเกียรติที่เดินทางมาร่วมงานได้ทราบ
หลังจากนั้น นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานในพืธีได้เป็นประธานในการทอดผ้ามหาบังสกุล พร้อมกับเป็นประธานในพิธีฌาปณกิจศพ คุณยายจี๊ด ม่วงน้อย อายุ 88 ปี “คุณยายสู้ชีวิต” ราษฎรในพระบรมราชินูปถัมภ์ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9
เสร็จแล้วแขกผู้มีเกียรติที่เดินทางมาร่วมงานฌาปณกิจศพคุณยายจี๊ด ม่วงน้อย “คุณยายสู้ชีวิต”ได้ร่วมกันส่งดวงวิญญาณของคุณยายสู่สรวงสวรรค์
ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า คุณยายจี๊ด ม่วงน้อย อายุ 88 ปี ได้สมรสกับคุณตาบุญธรรม ม่วงน้อย เสียชีวิตไปแล้ว มีบุตร ทั้งหมด 4 คน คุณยายจี๊ด ม่วงน้อย เดิมเป็นคนกรุงเทพฯมหานคร ถูกคนหลอกให้มาซื้อที่ดินราคาถูกที่จังหวัดกาญจนบุรี ภายหลังที่คุณยายได้ซื้อที่ดินดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยจึงได้ปลูกบ้านเป็นเพิงเพื่ออาศัยเป็นที่หลับนอนของสองตายาย วันหนึ่งได้มีเจ้าหน้าที่ทหาร กองพลทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ได้เดินทางมาพบคุณยายจี๊ดและคุณตาบุญธรรมสามี พร้อมกับกล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวนี้เป็นพื้นที่ความดูแลของทหาร พล.ร 1 รักษาพระองค์ จึงได้ให้คุณยายย้ายออก แต่ด้วยความที่คุณยายได้ใช้เงินที่สะสมมาชั่วชีวิตนำไปซื้อที่ดินผืนนี้ไปจนหมด คุณยายกับคุณตาบุญธรรมจึงได้ขอทหารใช้พื้นทึ่ดังกล่าวเป็นที่พักอาศัยก่อนเนื่องจากทั้ง 2 ท่านไม่มีเงิน และก็ไม่รู้จะไปพักและอาศัยอยู่กับใครเนื่องจากคุณยายไม่รู้จักใครเลย เจ้าหน้าที่ทหารจึงได้เห็นความเดือดร้อนของคุณตาคุณยายจึงได้ให้พักอาศัยชั่วคราว คุณยายจี๊ดและสามีจึงได้ออกหางานทำในพื้นที่ใกล้บริเวณบ้านเนื่องจากทั้ง 2 ไม่มีรถหรือยานพาหนะใดเลย จะเดินทางเข้าไปหางานในเมืองก็ระยะทางก็ไกลเดินทางไม่ไหว จึงต้องหางานแถวบ้านทำซึ่งนานๆจะมีงานให้ทำ คุณยายกับคุณตาจึงต้องเดินทางเข้าป่าไปหาของป่ามาขาย จนกระทั่งคุณตาบุญธรรมล้มเจ็บไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ ทำให้คุณยายจี๊ดต้องคอยมาดูแลคุณตา คุณยายจึงได้นำวิชาปั้นนกจากดินเหนี่ยวที่เคยเรียนมาเมื่อสมัยเด็กๆจากครู จึงได้นำเอาฝึกปั่นอีกครั้ง หลังจากนั้น คุณยายจี๊ดได้นำนกที่ปั้นจากดินเหนียวพร้อมกับลงสีสวยงามนำไปขายยังตลาดเจเจ ในช่วงแรกได้เงินมา 300 บาท ต้องจ่ายค่ารถรับส่งคุณยาย 250 บาท คุณยายจึงเห็นว่า ค่าจำหน่ายนกที่ยายปั้นไปจำหน่ายเสียให้กับค่าเดินทางไปเกินครึ่ง คุณยายจึงได้เปลี่ยนจากการเดินทางไปขายทุกวันมาเป็น 3-7 วันครั้งแทน เพื่อลดค่าเดินทางแถมปริมาณและจำนวนนกก็มากกว่า ทำให้คุณยายมีเงินเหลือเก็บ ชีวิตที่ลำบากของคุณยายจี๊ดได้ทำให้สื่อมวลชนทราบจึงได้มีการนำเสนอเรื่องราวความลำบากของคุณยายลงตีแผ่ในหนังสือพิมพ์ ทำให้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงทราบเรื่องจึงได้รับสั่งให้เลขาส่วนพระองค์ปรระสานมายังนางช่อฟ้า มหาวินิจฉัยมนตรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี เร่งเข้าข่วยเหลือคุณยายจี๊ด ม่วงน้อยและคุณตาบุญธรรม ม่วงน้อย สามี โดยด่วน พร้อมกับรับคุณยายจี๊ด ม่วงน้อย เป็นราษฎรในพระบรมราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 พร้อมกับรับเงินพระราชทานส่วนพระองค์ จำนวน 6,000 บาท ทุกเดือนจนกว่าชีวิตจะสิ้นตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา คุณยายจี๊ดจะเดินทางไปรับเงิน จำนวน 6,000 บาท ทุกเดือดโดยผ่านทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาญจนบุรี.