นครสวรรค์-คนผวาไม่กล้าเที่ยวตรุษจีน กลัวอู่ฮั่นกับพีเอ็ม 2.5
ภาพ/ข่าว:ชาติชาย เกียรติพิริยะ
คนผวาไม่กล้าเที่ยวตรุษจีน กลัวอู่ฮั่นกับพีเอ็ม 2.5
สืบเนื่องจากกรณีที่มีข่าวออกมาว่าพบมีผู้ป่วยด้วยโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ ซึ่งเป็นชาว จ.อุทัยธานี ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศจีนและมาตรวจสุขภาพที่นครสวรรค์ และข่าวแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วในโซเชียล ส่งผลกระทบต่องานเทศกาลตรุษจีนปากน้ำโพที่กำลังจัดอย่างใหญ่โตกลางตลาดปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเที่ยวชมงาน ชมการแสดงและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก จากข่าวว่ามีผู้ป่วยดังกล่าวทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งเกิดอาการขวัญผวากลัวว่าจะมีเชื้อโรคแพร่กระจายและอาจะติดเชื้อได้ ประกอบกับปริมาณฝุ่น PM.2.5 ที่มีอยู่มากมายในข่วงระยะนี้ และบางวันที่นครสวรรค์ก็มีปริมาณฝุ่นสูงมากติดอันดับต้นของประเทศ นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งจึงแก้ปัญหาด้วนการใส่แมส แต่บางส่วนก็ออกมาเที่ยวตามปกติโดยสวมใส่ชุดกี่เพ้า ไม่ใส่แมสบางส่วนก็ไม่กล้าออกจากบ้าน ทางส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจึงมีหนังสือชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์ ไม่ตื่นตระหนกจนเกินเหตุ เข่น โรงพยาบาบสวรรค์ประชารักษ์มีประกาศฝากผ่านสื่อมวลชนออกมาว่า
“โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ขอเรียนให้ทราบค่ะ….พี่ๆอย่าเพิ่งตื่นตระหนก ขณะนี้โรงพยาบาลต้องรอผลการวินิจฉัยโรคจากสถาบันก่อนถึงจะให้ข้อมูล ทั้งหมดได้ ขอให้พี่ๆใจเย็นนิดนึงนะคะ เมื่อผลการวินิจฉัยมาถึงโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์ จะเรียนเชิญพี่ๆทุกท่าน รับฟังผล พร้อมๆกันค่ะ
ขณะนี้มีผู้ป่วยที่อยู่ในการสอบสวนโรคปอดอักเสบจากเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ 3ราย ดังนี้
1. ชายไทยอายุ 23 ปี เดินทางจากเมืองอู่ฮั่นถึงดอนเมืองเมื่อวันที่ 24 มค. วันที่ 25 รู้สึกเมื่อยเนื้อตัว มีไข้ ไปรักษา รพ. เอกชน สงสัยโรค จึงส่งมา รพ. สวรรค์ประชารักษ์ ผู้ป่วย ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่เหนื่อยหอบ ให้นอนห้องแยกโรคเพื่อการวินิจฉัย
2. หญิงไทยอายุ 31 ปีท่องเที่ยวเมืองอู่ฮั่น เมื่อวันที่ 18-19 กลับประเทศไทยแล้วมีไอ เมื่อวันที่ 22-24 มีไข้ต่ำๆจึงมาตรวจที่ รพ. สวรรค์ประชารักษ์ มีอาการไอ น้ำมูก ไม่เหนื่อยหอบแพทย์ให้นอน รพ. ห้องแยกโรคเพื่อการวินิจฉัย
3. ชายไทยอายุ 35 ปี เดินทางกับรายที่ 2 ไม่มีอาการอะไร นอน รพ. เพื่อการวินิจฉัย
โดย 2 รายแรก ได้ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ ศูนย์โรคติดต่อและโรคอุบัติใหม่สภากาชาดไทย สถาบันบำราศฯ และ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
เพื่อการวินิจฉัยใช้เวลาประมาณ 48 ชม. จึงจะทราบผล ส่วนรายที่3 รอสังเกตอาการ”
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/