ประจวบคีรีขันธ์-เตรียมผลักดันท่าเทียบเรือคลองวาฬให้รองรับการท่องเที่ยว

ภาพ/ข่าว:พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา

           เตรียมผลักดันท่าเทียบเรือคลองวาฬให้รองรับการท่องเที่ยวและประมง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

              วันที่ 17 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประจวบคีรีขันธ์ เขต 2 นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกสภาจังหวัด ดร.ดำเนิน ยาท้วม นักวิชาการอิสระ นายดิเรก จอมทอง และคณะทำงานพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางไปยังท่าเทียบเรือเอนกประสงค์บ้านคลองวาฬ ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบฯ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเยี่ยมชมและรับฟังอุปสรรคของการบริหารท่าเรือคลองวาฬ ที่ก่อสร้างเสร็จตั้งแต่ปี 2551 ด้วยงบประมาณ 430 ล้านบาท แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่สามารถหาผู้บริหารจัดการท่าเรือได้ ทำให้ไม่สามารถจดทะเบียนเป็นท่าเทียบเรือกับกรมประมงได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีนายประยุทธ เจียมเจิม ประธานสหกรณ์ชาวประมงบ้านคลองวาฬ นายชัย แช่มช้อย รองประธานฯ และสมาชิกสหกรณ์ชาวประมงบ้านคลองวาฬกว่า 30 คน ให้การต้อนรับพร้อมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน
               ทางด้านนายนายพรเทพ และนายวิชิต กล่าวว่า แม้คณะทำงานพรรคเพื่อไทย ประจวบฯ เดินทางมาพบกลุ่มประมงที่คลองวาฬบ่อยอยู่แล้ว แต่การมาในวันนี้ก็เพื่อต้องการรับฟังอุปสรรคการใช้ท่าเทียบเรือว่ามีสิ่งใดที่ควรปรับปรุงให้ดีขึ้นหรือไม่ ข้อมูลที่ทราบคือ กรมเจ้าท่าสร้างท่าเรือแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อส่งเสริมกิจการท่าเรือ สนับสนุนส่งเสริมการขนส่งทางน้ำและลดต้นทุนโลจิสติกส์ จะสังเกตเห็นว่ามีการก่อสร้างอาคารที่ทำการศุลกากรด้วย แต่ในความเป็นจริงไม่พบว่ามีการใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ จึงเป็นเรื่องน่าเสียดาย อีกอย่างคือ คณะทำงานฯ อยู่ระหว่างการจัดทำแผนงานการพัฒนาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในหลายมิติ โดยส่วนที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องชาวประมงและชายฝั่งทะเล ได้แก่ 1.การศึกษาข้อกฎหมายเพื่อผลักดันให้แยกกฎหมายควบคุมการทำประมงชายฝั่งและประมงพาณิชย์ออกจากกัน 2.แผนการผลักดันให้ท่าเทียบเรือคลองวาฬ เป็นจุดเชื่อมโยงการเดินเรือของนักท่องเที่ยวด้านทะเลอ่าวไทย ตั้งแต่หัวหิน พัทยา ระยอง และอีกหลายจังหวัดทางภาคใต้ของไทย 3.ผลักดันให้เกิดโครงการ Land Bridge ประจวบคีรีขันธ์ – มะริด หรือโครงการเชื่อมโยงการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์บรรจุสินค้า เรือเดินทะเลขนาดใหญ่จากแหลมฉบังหรือจากประเทศซีกตะวันออก มาขึ้นที่ท่าเรือจังหวัดประจวบฯ เชื่อมต่อด้วยระบบรางขนาดใหญ่ ไปยังด่านสิงขร ระยะทาง 15 กิโลเมตร และต่อไปยังท่าเรือจังหวัดมะริด ประเทศสาธารณรัฐสหภาพม่า อีกประมาณ 180 กิโลเมตร ก่อนลำเลียงขึ้นเรือสินค้าขนาดใหญ่ ผ่านทะเลอันดามันเดินทางสู่หลายประเทศซีกตะวันตก โดยไม่จำเป็นต้องขุดคลองคอดกระ ที่ยังต้องศึกษาความเป็นไปได้อีกหลายด้าน ซึ่งโครงการเหล่านี้คณะทำงานฯ เน้นว่าต้องสร้างจากการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารท่าเรือ ร่วมกันวางหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและการจัดการผลประโยชน์ให้กับภาครัฐและท้องถิ่น หากทำได้จะสร้างโอกาสในอีกหลายมิติตามมา สำคัญที่สุดคือ การอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน

                 นายประยุทธ์ เจียมเจิม ประธานสหกรณ์ชาวประมงบ้านคลองวาฬ กล่าวว่า อันที่จริงสะพานแห่งนี้ควรยื่นออกไปในทะเลอีกราว 100 เมตร แต่ขณะมีการก่อสร้างโครงการนี้ ประชาชนในพื้นที่แทบไม่ได้มีส่วนในการแสดงความคิดเห็น มีการปรับแบบการก่อสร้างและมีเพียงหน่วยงานของรัฐเท่านั้นที่ดำเนินการกันเอง หลังสร้างเสร็จเมื่อปี 2551 กลุ่มชาวประมงคลองวาฬเห็นว่าท่าเรือนี้ถูกทิ้งร้าง ประกอบกับชาวประมงเองก็เดือดร้อนหาท่าเรือนำสัตว์น้ำจากเรือนับร้อยลำขึ้นสู่ฝั่งไม่ได้ จึงได้รวมตัวกันไปพบผู้ใหญ่ในกรุงเทพฯ จนต่อมาได้ร่วมกันจัดตั้งเป็นกลุ่มสหกรณ์เพื่อยื่นขอจดทะเบียนบริหารจัดการดูแลท่าเรือ พร้อมขอให้กรมเจ้าท่าจัดสรรงบประมาณเร่งดำเนินการขุดร่องน้ำให้ลึกเพื่อให้เรือประมงสามารถเข้าจอดเทียบท่าได้ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถใช้หลบลมมรสุมได้ ปัจจุบันท่าเรือคลองวาฬมีผู้ประกอบการเรือประมงใช้ประโยชน์ในการขนถ่ายสัตว์น้ำขึ้นฝั่งนับร้อยลำมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ แต่ก็ยังมีปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกเนื่องจากยังไม่สามารถหาผู้บริหารจัดการท่าเรือได้ ทำให้ไม่สามารถพัฒนาและใช้ประโยชน์จากท่าเรือได้อย่างเต็มที่ ทางสหกรณ์ฯ ยินดีให้ความร่วมมือหากจะมีการพัฒนาท่าเทียบเรือแห่งนี้ เพียงขอให้เปิดให้มีการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเท่านั้น

                    ในส่วนของกรมเจ้าท่า โดยนายอภิสิทธิ์ คำพิโร ผู้อำนวยการ และนายจรูญ วัดสว่าง เจ้าพนักงานตรวจท่าชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาประจวบคีรีขัน์ ได้กล่าวถึงการใช้ประโยชน์จากท่าเทียบเรือว่า ท่าเทียบเรืออเนกประสงค์คลองวาฬ ถือเป็นทรัพย์สินของทางราชการเก็บรักษาโดยกรมธนารักษ์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเปิดให้ผู้สนใจยื่นข้อเสนอเป็นผู้บริหารและประกอบการท่าเทียบเรืออเนกประสงค์คลองวาฬ ตามขอบข่ายงานและหน้าที่ เมื่อคัดเลือกผู้บริหารได้แล้วจึงจะสามารถดำเนินการและพัฒนาต่อไป

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/