ปราจีนบุรี-คืบหน้า พบดวงไฟประหลาดลือหึ่งเป็น “ผีกระสือ”

ปราจีนบุรี-คืบหน้า พบดวงไฟประหลาดลือหึ่งเป็น “ผีกระสือ”

ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

              (คืบหน้า) –พบดวงไฟประหลาดลือหึ่งเป็น “ผีกระสือ” พบกันทั้งหมู่บ้าน คาดออกหากินกบ,เขียด,ปู,ปลาที่น้ำแห้งตามหนองน้ำ-คลอง หรือ ว่านโพงออกหากิน ที่คนเล่นอาคมเลี้ยงไว้ หรือ ตามกลิ่นคาวเลือดออกหากินรกวัวที่เพิ่งคลอดลูก!!…ชาวบ้านยังไม่หาหมอผีมาปราบหรือทำพิธียังรอดูให้แน่ใจ

              จากกรณีที่ชาวบ้าน ม.14 หมู่บ้านหนองฟันปลา ต.โพธิงาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี พากันตื่นตระหนกตกใจ หลังคนในหมู่บ้านจำนวนมากพากันพบเห็นแสงไฟสีส้มเขียวอมส้ม เมื่อคืนวันที่ 29-30 -31 ต.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างนั่งถักไม้กวาดยามค่ำคืน และมีคนออกล่าหาแสงไฟที่คาดว่าเป็นผีกระสือออกหากินโดยพากันไลฟ์สดผ่านโลกโซเชี่ยล ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหนองฟันปลาช่วงดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา พบหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู และชาวบ้านเกือบ 100 คน แตกตื่นรอดู “ผีกระสือ” จนดึกดื่น ตามที่เสนอไปแล้วก่อนหน้านี้นั้น

                วันนี้ 31 ต.ค.62 ความคืบหน้าล่าสุด ตั้งแต่เช้าตรู่ ได้พบชาวบ้านชื่อนายถาวร วิชัย อายุ 59 ปี ต.โพธิงาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี กำลังนั่งเลื่อยไม้ไผ่ ด้ามไม้กวาดคนเดียว ลุงถาวร กล่าวว่า “ได้ยินคนในหมู่บ้านพูดกัน และหลานๆพากันไปดูผีกระสือเช่นกัน แต่ไม่รู้ว่าเจอหรือไม่ ตนเองนั่งทำงานดึกๆดื่นๆคนเดียว ไม่รู้สึกกลัว และไม่คิดว่าจะเป็นกระสือเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน ”นายถาวรกล่าว

                  และ จากการสอบถามสาวโรงงาน ที่ออกจากบ้านมารอรถรับ-ส่ง ที่ปากทางเข้า-ออกหมู่บ้าน (น้องแก้ว)นามสมมุติกล่าวว่า “เมื่อคืนได้ไปดูกลุ่มคนที่มาดักจับกระสือในหมู่บ้านตน ตัวเองยังได้เห็นแสงไฟสีส้มนั้นจริงด้วยตา โดยได้พบดวงไฟดวงนั้นลอยขึ้น-ลง และ ลอยไปหนี –ไปลัดเลาะยอดไม้ รู้สึกกลัวๆกล้าเหมือนกัน” น้องแก้วกล่าว

                  ด้านนางนาถนัดดา หมอแพทย์อายุ 57 ปี คนที่เห็นแสงไฟประหลาดคนแรก กล่าวว่า “ เมื่อ2 คืนที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองและคนในบ้าน รวม 5 คน กำลังนั่งทำไม้กวาดอยู่ข้างบ้านช่วงตอนกลางคืน ที่อากาศเย็นสบายทันใดนั้นสายตาเหลือบมองเห็นดวงไฟดวงหนึ่ง ลักษณะเป็นดวงกลม สีส้มอมเขียวลักษณะนวลตา ลอยขึ้น-ลง ลอยไป-มาข้างยอดไม้หน้าบ้าน ซึ่งอยู่หลังสำนักสงฆ์ในหมู่บ้าน คล้ายกำลังมองหาอะไร หรือ หากินอะไรสักอย่าง ตอนแรกยังไม่ได้เอะใจอะไร แต่ยังเห็นดวงไฟดวงนั้นลอยวนไปวนมา บริเวณยอดทิวไม้ จึงบอกน้องสาวและลูกสะใภ้ดู และลูกหลานยังพากันตามไปดู และ เห็นแสงไฟดวงนั้นลอยหายไปข้างวัด” นางนาถนัดดา กล่าวยืนยัน

                    ขณะที่ นายกิตติพร ดาพักดี อายุ 25 ปี และ ด.ช.ระพีพรรณ การจักร อายุ 12 ปี กล่าวว่าเมื่อคืนวานนี้ (30 ต.ค.) ตนเห็นแสงไฟประหลาดที่คิดว่าเป็น “ผีกระสือ” นั้นจึงตามไปดู ดวงไฟสีส้มดวงนั้นพุ่งเข้าใส่และลอยหายไปข้างต้นสักข้าง ๆ วัด” นายกิตติพร กล่าวย้อนถึงนาทีระทึก

                     ด้านนายสมัย ดาภักดี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคลองฟันปลา หมู่ 14 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า “ทราบเรื่อง ผีกระสือ จากลูกบ้านว่า มีการพบเห็นดวงไฟประหลาดนี้หลายคน ทั้งวัยรุ่น, ผู้ใหญ่ และ แต่ตนและคณะกรรมการหมู่บ้านยังไม่ได้คิดที่จะหาทางขจัดหรือหาหมอผีมาจัดการกับดวงไฟดวงนี้แต่อย่างใด ต้องรอให้เห็นอีกครั้งหนึ่งก่อน ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ?โดยแสงดวงไฟประหลาดยามค่ำคืนนี้อาจเป็นว่านโพง ที่เป็นสมุนไพร หรือ ส่วนผสมเกี่ยวกับเครื่องรางของขลังอาจหลุดลอยไปหากิน หรือ หากเป็นผีกระสือจริงเขาอาจทำผิดหลักด้านไสยศาสตร์ หรือ สืบทอดต่อ ๆ มาจากบรรพบุรุษที่เป็นผีกระสือซึ่ง ผี กับคน ต่างก็ไม่ได้เบียดเบียนใคร ยามค่ำคืน มันก็ออกหากินกบ,เขียด,ปลา,ปู ที่อาจเป็นช่วงน้ำแห้งช่วงเข้าสู่หน้าแล้งตามหนองน้ำ,ตามคลองสาธารณะ ,ตามทุ่งนา ต่างคนต่างอยู่ใช้หลักเมตตาธรรม – พึ่งพากัน ผีก็อยู่แบบผี คนก็อยู่ตามวิถีคน ไม่เบียดเบียน หรือ รังแกกัน”นายสมัยกล่าว

                     ขณะเดียวกันชาวบ้านหลายคน เท่าที่พุดคุยกันในหมู่บ้านคลองฟันปลา ก็ยังไม่คิดจะทำอะไรในขณะนี้ ต้องรอดูให้แน่ชัดกว่านี้ก่อน ค่อยว่ากันอีกครั้งหนึ่งเพราะยังไม่มีผู้ใดเดือดร้อน ”นายสมัย กล่าว

                     จากการสอบถามคนเลี้ยงวัวของ นายกเทศบาลตำบลโพธิ์งาม ในพื้นที่กล่าวว่า “ ตนนอนเฝ้าวัว ไม่เห็นดวงไฟสีส้ม แต่อย่างใด ได้ยินแต่คนพูดกันว่าเห็นดวงไฟที่พากันคาดว่าเป็นผีกระสือ ตนไม่เชื่อว่าเป็นผีกระสือ ตนไม่กลัวผี ดึกๆยังออกมาดูแลวัวในคอก ยังไม่เห็นแสงไฟ หรือ ผีกระสืออะไรเลยสักตน ส่วนชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตตามปกติ เหมือนทุกๆวันที่ผ่านมา ไม่ได้หวาดกลัวอะไรกัน ส่วนการที่จะคิดหาหมอผีมาปราบนั้น ยังไม่คิดกัน”คนเลี้ยงวัวกล่าว

                      ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม สำหรับ “ว่านผีกระสือ หรือ ว่านผีปอบ หรือ ว่านผีโพง ลักษณะของต้นและหัวของว่านชนิดนี้ มีลักษณะคล้ายขมิ้นอ้อย สีขาว รสฉุนร้อน เมื่อหัวแก่มีธาตุปรอทลงกิน มีพรายเป็นแสงแมงคาเรืองในเวลากลางคืน มีสรรพคุณอยู่ยงคงกระพัน แต่บางตำราก็ว่าผีโพงนั้น เกิดกับคนที่มีว่าน หรือเลี้ยงว่านยาอันมีฤทธิ์แรงกล้า มักเลี้ยงหรือบำรุงด้วยอาหารคาว หากดูแล หรือเลี้ยงไม่ดี หัวว่านโพงจะออกหากินเอง โดยเรืองแสงเป็นดวงไฟ หากใครพบเห็นจะมีใบหน้าคล้ายกับคนแก่ หรือที่เลี้ยงว่านโพงนั้น

                      ในเวลากลางคืนตอนดึกๆ โดยเฉพาะเวลาที่ฝนตกพรำ ๆ ว่านชนิดนี้ จะออกหากินแบบเดียวกับผีกระสือ จะมีดวงไฟเล็กๆ สว่างเรืองๆ อยู่ที่ปลายจมูกและหยดลงเป็นหยดๆ เหมือนหยดน้ำ

                     ผีโพงจะออกหากินตามหนองน้ำ หรือทุ่งนาหลังฝนตก อาหารของผีโพงคือกบ และเขียด ซึ่งผีโพงจะกินด้วยการจับมาดูดเอาเมือกกินทีละตัวๆ โดยปกติ ผีโพงจะกลัวคน แต่ถ้าหากใครทำให้เจ็บใจ ผีโพงจะเอาไม้คานของแม่ม่ายพุ่งข้ามหลังคาบ้าน แล้วในทีสุดคนนั้นก็จะพบกับความพินาศวอดวายที่น่าสังเกตก็คือ ผีโพงนั้นจะมีหน้าตาคล้ายกับเจ้าของหรือผู้ปลูกว่าน แต่เดี๋ยวนี้ว่านชนิดนี้ไม่ค่อยมีใครนิยมแล้ว แทบจะสาปสูญจากวงการว่าน เพราะถือว่าเป็นอัปมงคล

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!