ระยอง-เปิดเวทีเสวนาเมืองอัจฉริยะ”บ้านฉาง”ต้นแบบสมาร์ทซิตี้

ภาพ/ข่าว:อัจฉรา วิเศษศรี

     เทศบาลตำบลบ้านฉางเปิดเวทีเสวนาเมืองอัจฉริยะ “บ้านฉาง” ต้นแบบสมาร์ทซิตี้ พร้อม นำร่อง เปิดศูนย์ข้อมูลข่าวสารรองรับระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ EEC โดย บ้านฉางศูนย์กลางจะเน้นเยาวชนให้เก่งและเป็นยอดด้านภาษา        ที่ห้องประชุมชั้น3 สำนักงานเทศบาลตำบลบ้านฉาง นายจิระศักดิ์ ตะปะโจทย์ นายอำเภอบ้านฉาง นายสุชิน พูนหิรัญ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านฉาง พร้อมด้วยผู้นำ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 5 แห่ง ประกอบไปด้วยเทศบาลเมืองบ้านฉาง เทศบาลตำบลพลา เทศบาลตำบลสำนักท้อน และองค์การบริหารส่วนตำบลสำนักท้อน กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้แทน ภาครัฐ และเอกชน ผู้นำชุมชนตลอดจนประชาชนโดยรอบ และคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ภาคประชาชนกว่า 150 คน ร่วมงาน
      นายสุชิน พูลหิรัญ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านฉาง เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 ทางเทศบาลได้ลงมือดำเนินการ ไปแล้วหลายขั้นตอนไม่ว่าจะเป็นการเปิดประมูลเพื่อจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษามืออาชีพมาวางแผนโครงการเมืองใหม่อัจฉริยะบ้านฉาง พื้นที่ 1,885 ไร่ วงเงิน 10 ล้านบาท โดยขอบเขตและเงื่อนไขการดำเนินงาน (TOR) แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ เริ่มศึกษาช่วงแรก 5 ล้านบาท ส่วนในช่วงที่ 2 ให้ทำการศึกษาลงลึกในรายละเอียดรายแปลง ระบุสัดส่วนการแบ่งปันพื้นที่ชัดเจนว่า ตรงไหนเป็นที่อยู่อาศัย ตรงไหนจะแบ่งไปพัฒนาที่ดิน พร้อมทั้งกำหนดรูปแบบการพัฒนาเมืองในอนาคตจะลงทุนอะไร และบริษัทที่ปรึกษาต้องวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์ด้านความคุ้มค่าในการลงทุนด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทศบาลจะมุ่งเน้นให้เยาวชนได้ศึกษาภาคภาษาอังกฤษให้มากที่สุดเพราะพื้นที่ของเรานั้นอยู่ติดกับสนามบินอู่ตะเภาที่เปรียบเป็นประตูทางเข้าหรือไข่แดงโดยตรงซึ่งจะเห็นได้รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเพื่อดึงนักลงทุนเข้ามาลงทุนรวมทั้งให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเมื่อพัฒนาเมืองขึ้นมาแล้วจะส่งผลให้ราคาที่ดินที่เหมาะสมกับนักลงทุน ทั้งนี้ การเข้ามาลงทุนของเอกชนอาจจะมีหลายแนวทาง เช่น 1.ชาวบ้านให้เอกชนเช่าที่ดิน 30 ปี ขณะที่ชาวบ้านได้ค่าเช่าที่ดิน 2.ใช้วิธีการร่วมทุน กับนายทุนเจ้าของภาคธุรกิจ เช่นถ้าไม่อยากเสียเงินค่าเช่าที่ดิน ก็เป็นพาร์ตเนอร์กัน ไม่ใช่การแปลงสินทรัพย์เป็นทุน แต่เป็นการร่วมทุน เป็นสิทธิอันชอบธรรมของเจ้าของที่ดิน หรือขายขาดไปเลย ภายใต้เงื่อนไขที่ตกลงกันตามลำดับ
      นอกจากนี้แล้วสำรับการเปิดศูนย์กระจายข้อมูลข่าวสารนั้นคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ให้ความสำคัญกับการ กระจายข่าวของตำบลบ้านฉางเป็นศูนย์แรกที่ตั้งขึ้นในพื้นที่ EEC ที่จะให้คำตอบข้อมูลที่ถูกต้อง หลังจากที่ EEC ดำเนินการมาแล้วเป็นปีที่ 3 อาจเกิดข้อสับสนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานต่างๆซึ่งศูนย์ข้อมูลใหญ่จะตั้งอยู่กรุงเทพแล้วก็ตาม  แต่อย่างไรก็ตามคณะกรรมการฯ พยายามที่จะถ่ายทอดข้อมูลสู่ภาคประชาชนให้มากที่สุด โดยเฉพาะด้านออนไลน์จึงมีความจำเป็นที่ต้องจัดตั้งเป็นศูนย์นำร่องที่จะสามารถให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบว่าจะได้ประโยชน์ในการพัฒนาอย่างไรแล้วสิ่งต่างๆในระบบก็จะเกิดขึ้นตามลำดับต่อไปอีกด้วย