ราชบุรี-หนุ่มเจ้าของร้านจิวเวอรี่ใช้กิจกรรมอาชาบำบัดรักษาเด็กออทิสติกได้ผล

ราชบุรี-หนุ่มเจ้าของร้านจิวเวอรี่ใช้กิจกรรมอาชาบำบัดรักษาเด็กออทิสติกได้ผล

ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤภัย(เต้)

หนุ่มเจ้าของร้านจิวเวอรี่ใช้กิจกรรมอาชาบำบัดรักษาเด็กออทิสติกได้ผล

         นายณรงค์ ควรสถาวรนิจ อายุ 46 ปี เจ้าของกิจการร้านขายจิวเวอรี่มากกว่า 10 สาขา และเป็นเจ้าของบ้านคอกม้าราชบุรี ซึ่ง ตั้งอยู่เลขที่ 99/5 หมู่ 5 ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้เปิดบ้านให้เป็นแหล่งเรียนรู้ในกิจกรรมอาชาบำบัด ให้กับเด็กออทิสติกและเด็กสมาธิสั้น โดยมีประสบการณ์มาจากที่ลูกชายของตัวเองนั้นเป็นเด็กสมาธิสั้น จึงได้ลองไปศึกษาหาความรู้ในการที่จะช่วยให้ลูกชายนั้นได้สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ หากพ่อแม่ไม่อยู่แล้ว จนมาทดลองใช้การขี่ม้ามารักษาลูก จนถึงตอนนี้ลูก ชายสามารถเรียนจบปริญญาตรี ใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ จึงได้นำประสบการณ์เหล่านั้นออกมาแบ่งปันให้กับผู้ปกครองที่ มีลูกเป็นออทิสติกและสมาธิสั้น และได้มีการตั้งเป็นชมรมชื่อว่าชมรมร้อยดวงใจใช้อาชาพัฒนาคนพิเศษราชบุรี โดยมีพ.ต.อ .วชิรพล อัมราพิทักษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี เป็นประธานเนื่องจากมีลูกที่เป็นออทิสติกและนำมาเข้าร่วมในกิจกรรมอาชาบำบัดแล้วได้ผล

          ด้านนายณรงค์ บอกว่า โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากที่ลูกชายคนโตเป็น LD เป็นสมาธิสั้น เราก็ใช้ม้าเป็นจุดเริ่มในการบำบัด รักษาลูกชาย ปรากฏว่า ทำไปแล้วลูกชายดีขึ้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ สามารถเข้ากับสังคมโดยรวมได้ และลูกชายสามารถ เรียนได้ถึงระดับปริญญาตรี และก็สามารถขับรถไปไหนมาไหนได้ตลอดซึ่งถือว่าดีขึ้นมาก จุดนี้จึงประกายขึ้นมาว่า เมื่อลูกเราดี ขึ้นเด็กคนอื่นก็น่าจะดีขึ้นได้ ซึ่งการขี่ม้าจะช่วยในเรื่อง คือ กายภาพ และเรื่องสมาธิ เวลาอยู่บนหลังม้าสัญชาตญาณของเด็ก เวลาขึ้นไปเด็กจะต้องระวังตัวเหมือนว่าทำยังไงก็ได้ที่ไม่ให้ตัวเองตกให้ตัวเองอยู่บนนั้น เหมือนกับเป็นการเรียกสมาธิของน้อง มาเองอัตโนมัติ น้องนิว(นามสมมติ)เป็นตัวจุดประกายของผม ที่ทำขึ้นมามี น้องนิว เป็นคนแรกที่พัฒนาขึ้นมาดีมาก จึงติดต่อ เรื่องโรงเรียนเข้ามาดูงานเพื่อเราจะสานต่อตรงนี้ถ้าเด็กพิเศษเราเปิดให้ใช้ฟรีตามวันเวลาที่เรากำหนดไว้ ส่วนเรื่องของเวลาใน การบำบัดก็ต้องแล้วแต่เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน เด็กบางคนอาจจะขึ้นได้แปบเดียว บางคนอาจจะไม่สามารถขึ้นม้าได้เลย ตั้งแต่ครั้งแรก คือต้องใช้เวลาทำค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ จนน้องดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วเราก็จะใส่อะไรเข้าไป เพื่อให้น้องมีการพัฒนาทั้ง ในเรื่องร่างกายทั้งเรื่องสติปัญญา และสมาธิ ฟาร์มที่นี้จะเป็นฟาร์มปิดจะไม่ได้รับม้าข้างนอกเข้ามาผสม ก็จะไม่มีเรื่องโรคหรือ เรื่องโรคติดต่อ และเรื่องม้าตื่นตกใจคนจนทำร้ายคนได้ เรื่องนี้จึงไม่มีความกังวล ซึ่งถ้าผู้ปกครองที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ บ้านคอกม้าราชบุรี หรือไม่ก็ติดต่อได้ที่เบอร์ 085-4266564

           ส่วน พ.ต.อ.วชิรพล อัมราพิทักษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี ก็บอกว่ามีประสบการณ์ตรงจากผมเอง ผมมีบุตรสาวเป็น เด็กพิเศษ ตอนนี้อายุ 23 ปีแล้ว แต่เนื่องจากเราพัฒนามาในเรื่องต่างๆ หลายๆด้าน และบังเอิญได้รู้จักกับเจ้าของสโมสรขี่ม้า บ้านคอกม้าราชบุรี ให้โอกาสเราในการที่จะเอาลูกมาฝึกฝน เพื่อจะพัฒนาลูกให้ใกล้เคียงกับเด็กปกติ บังเอิญไปปรึกษา ผอ.กัญยา ซึ่งเป็นผู้อำนวยการของโรงเรียนการศึกษาพิเศษในจังหวัดราชบุรี ท่านมีเด็กที่ดูแลอยู่เป็นร้อยๆคน เป็นเด็กที่ด้อยโอกาสแต่ว่า ต้องการคนที่มาช่วยพัฒนา ผมก็เลยเห็นความสำคัญตรงนี้ และอีกอย่างเราก็มีศักยภาพที่จะพอดูแลเรื่องราวเหล่านี้ได้ ก็เลยได้ รวบรวมผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเป็นเด็กพิเศษ จัดตั้งชมรมนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะใช้ม้ามาช่วยพัฒนาเด็กพวกนี้ เพื่อให้มีพัฒนาการที่ ดีขึ้น

              พ.ต.อ.วชิรพล อัมราพิทักษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้เปิดรับสมัครไปด้วย ดำเนินการไปด้วย เรารับไม่จำกัด แต่ที่สำคัญคือผู้ที่จะมาร่วมในชมรมจะต้องเป็นผู้ปกรองที่ดูแลเด็กพิเศษ คำว่าเด็กพิเศษหมายความว่าจะต้องมี บัตรประจำตัวผู้พิการ แล้วก็ในบัตรประจำตัวผู้พิการจะระบุผู้ดูแล ซึ่งผมเป็นหนึ่งในนั้นที่บุตรสาวผมมีบัตร ผมก็เป็นผู้ดูแลเขา เราก็จะมารวมกลุ่มกัน รับสมัครได้ตลอดเวลา ใครที่มีความคิดเห็นว่าสามารถที่จะเป็นกำลังสำคัญที่จะรวบรวมในเรื่องของ ความรู้ต่างๆ การบำบัดต่างๆ หรือในเรื่องการรวมกลุ่มกันเพื่อให้ภาคเอกชน บริษัทห้างร้าน หรือภาครัฐได้เห็นความสำคัญใน จังหวัดราชบุรี เท่าที่ดูในจังหวัดราชบุรียังไม่มีการใช้อาชาบำบัดเลย ผมนำบุตรสาวเข้ามาฝึกขี่ม้าในเวลา 3 เดือน แต่ไม่ได้ฝึก ทุกวัน ฝึกแค่สัปดาห์ล่ะ 1 ครั้ง แต่อาจจะเป็นด้วยความสามารถคุณณรงค์ที่เป็นเจ้าของสโมสรขี่ม้า เขาทุ่มเท จริงใจกับการ ฝึกหัดตรงนี้มากทำให้ลูกผมได้พัฒนาขึ้น สามารถบังคับม้า สามารถตัดสินใจ สามารถจะใช้กล้ามเนื้อหรือควบคุมอารมณ์และ สมาธิในการขี่ม้าได้เป็นอย่างดี ตรงนี้เป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ผมได้รับโดยตรง สิ่งนี้เองที่ผลักดันให้ผมพอมีศักยภาพ ก็อยากจะแบ่งปันให้กับสังคมหรือกับเพื่อนๆผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเป็นเด็กพิเศษให้เขาได้รับโอกาส ก็เลยจัดตั้งชมรมนี้ขึ้นมา

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!