ร้อยเอ็ด-รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชน
ภาพ/ข่าว:คมกฤช พวงศรีเคน
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า และนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลุยลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนและให้การช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่นาถูกทรายทับถมจากอุทกภัยลำน้ำยัง
วันที่ 27 กันยายน 2562 เวลา 12.30 น. นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ให้การต้อนรับ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ในการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนและให้การช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่นาถูกทรายทับถมจากอุทกภัย ณ จุดบริเวณพนังกั้นน้ำขาด บ้านท่าทางเกวียน หมู่ที่ 4 บ้านท่าโพธิ์ หมู่ที่ 6 และบ้านท่าเยี่ยม หมู่ที่ 5 ตำบลวังหลวง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องท้องที่ท้องถิ่น และชาวตำบลวังหลวงที่ผประสบอุทกภัย ให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สำรวจความเสียหายของพนังกั้นน้ำและพื้นที่ทางการเกษตรที่เสียหายจากทรายที่ถูกน้ำพัดทับถม ซึ่งทรายที่ถูกนำพัดมาถมในพื้นที่ทางการเกษตรมีความสูงประมาณ 1 เมตร มีเกษตรกรได้รับผลกระทบ จำนวน 68 ราย พื้นที่ประมาณ 530 ไร่ ซึ่งหน่วยงานราชการได้เข้าให้ความช่วยเหลือตามระเบียบเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 จำนวน 356 ไร่ ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยรายละไม่เกิน 5 ไร่ ๆ ละ 7,000 บาท สำหรับพื้นที่ที่ไม่สามารถ ให้ความช่วยเหลือได้ จำนวน 174 ไร่ ทางจังหวัดร้อยเอ็ดได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ความช่วยเหลือ อาทิ กองพันทหารช่างที่ 3 กองพันทหารช่างที่ 6 กองพันทหารช่างที่ 101 องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 6 แขวงการทางร้อยเอ็ด โครงการชลประทานร้อยเอ็ด ได้นำเครื่องจักรกลเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ อย่างเร่งด่วน
จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ เดินทางไปยังศาลาประชาคมบ้านท่าเยี่ยม หมู่ที่ 5 เพื่อประชุมชี้แจงมาตรการในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้ประสบภัย และรับฟังปัญหา ซึ่งเสนอให้มีการทำประชาคมเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน ในการที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาทรายที่ทบทับถมพื้นที่ทางการเกษตรด้วยตนเองโดยให้รัฐจ่ายเงินตามระเบียบของทางราชการ หรือให้หน่วยงานรัฐช่วยเหลือนำออกจากพื้นที่ รวมทั้งได้สั่งการให้หน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนับสนุน เมล็ดพันธุ์พืช บูรณาการในการดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนและประชาชนต้องได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน และกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้มีมาตรการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์การเกษตร ในพื้นที่ประสบอุทกภัย 21 จังหวัด โดยจัดสรรเงินจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) ให้สหกรณ์กู้ยืมได้สหกรณ์ละไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยสหกรณ์สามารถนำไปให้สมาชิกกู้ต่อรายละไม่เกิน 20,000 บาท ปลอดดอกเบี้ยระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี ให้นำไปช่วยฟื้นฟูอาชีพให้กับสมาชิก ลงทุนปลูกพืชระยะสั้น เพื่อสร้างรายได้ในเวลาอันรวดเร็ว รวมทั้งกรมฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปดูแลช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านและเกษตรกรทั้ง 21 จังหวัด จนกว่าจะสามารถผ่านพ้นจากสภาวะที่วิกฤตนี้ไปได้และกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/