ศรีสะเกษ-มูลนิธิหลวงปู่สรวงคุมเข้มตลาดต้องชม
ภาพ/ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข
มูลนิธิหลวงปู่สรวงคุมเข้มตลาดต้องชมไม่ให้นำสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์มาขาย วอน ผวจ.ให้ช่วยดูแลประชาชนที่อยู่ตามแนวขอบชายแดนให้มีที่ยืนในสังคมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ได้มีกลุ่มบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจจับลิขสิทธิ์สินค้ามาทำการจับกุมแม่ค้า จำนวน 6 ราย จากตลาดประชารัฐต้องชม บ้านไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นำไปเจรจาที่ สภ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ มีการยึดสินค้าไปหลายรายการ โดยมีการเจรจายอมความเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากแม่ค้า รายละ 50,000 บาท เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 300,000 บาท แต่ว่าฝ่ายแม่ค้าไม่มีเงินจ่าย จะยอมติดคุกแทนการจ่ายค่าสินไหม แต่กลุ่มบุคคลที่มาจับกุม นำโดย ผู้กอง พ. อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้บังคับขู่เข็ญให้จ่ายเงินเพื่อแลกกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ขู่แม่ค้าว่าหากไปดำเนินคดีบนศาล จะต้องเสียค่าปรับเป็นเงินหลายแสนบาท ซึ่งต่อมา พ.ต.อ.พฤทธิ์ บุญปก ผกก.สภ.ภูสิงห์ ได้เรียกทั้ง 2 ฝ่าย มาเจรจากันและฝ่ายที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์ได้ยอมรับค่าสินไหมทดแทนจากแม่ค้ารายละ 5,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 30,000 บาท ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 24 ส.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดประชารัฐต้องชม บ้านไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง และเจ้าคณะ อ.ภูสิงห์ (ธ) ซึ่งเป็นผู้ที่นำคณะศิษยานุศิษย์จัดสร้างตลาดประชารัฐต้องชมขึ้นมา เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ได้มีสถานที่ในการจำหน่ายสินค้าโอท็อปและสินค้าพื้นถิ่นต่าง ๆ ประชาชนที่นำสินค้ามาวางขายไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดทั้งสิ้น โดยได้มีการเรียกประชุมบรรดาพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนทั่วไปที่นำเอาสินค้าต่าง ๆ มาวางขายที่ตลาดแห่งนี้ ได้มีการกำชับและตักเตือนบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ห้ามไม่ให้มีการนำเอาสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และสินค้าผิดกฎหมายต่าง ๆ เข้ามาวางขายในตลาดแห่งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย จากนั้น พระครูโกศลสิกขกิจ ได้เดินสำรวจตรวจสอบสินค้าที่นำเอามาวางขายในตลาดทุกร้าน โดยได้กำชับเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิหลวงปู่สรวง ให้หมั่นตรวจตราความเป็นระเบียบเรียบร้อยของตลาด ไม่ให้มีการนำเอาสินค้าผิดกฎหมายเข้ามาวางขายอย่างเด็ดขาด
พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง และเจ้าคณะ อ.ภูสิงห์ (ธ) กล่าวว่า อาตมาภาพในฐานะประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง ได้มาทำความเข้าใจกับพ่อค้า แม่ค้าในตลาดประชารัฐต้องชมว่า ให้ระมัดระวังสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ต้องเข้าใจในเรื่องนี้ และในโอกาสต่อไปหากจะมีการเข้ามาจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ขอให้แม่ค้าทุกคนจะต้องตรวจสอบด้วยว่าเจ้าหน้าที่ที่อ้างว่าเป็นฝ่ายตรวจจับลิขสิทธิ์นั้นจะต้องมีใบมอบอำนาจจากเจ้าของบริษัทสินค้าฉบับตัวจริงมาแสดงให้ทราบด้วยว่า เป็นสินค้าลิขสิทธิ์ยี่ห้อใด ซึ่งจะต้องมีเอกสารตามกฎหมายจาก สภ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และจะต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ภูสิงห์ มาร่วมจับกุมด้วย เพราะลักษณะที่มีการจับกุมแม่ค้าไปจำนวน 6 ราย มีการบังคับขู่เข็ญเรียกร้องเงินทอง ไม่น่าจะถูกต้องตามกฎหมาย น่าจะเป็นการมากรรโชกทรัพย์จากประชาชนที่มาค้าขายสินค้าเล็กน้อย โดยอาศัยช่องว่างของกฎหมาย
หลวงพ่อพุฒ กล่าวต่อไปว่า อาตมาภาพเห็นว่าเรื่องนี้ทำให้ประชาชนที่ทำมาหากินโดยสุจริตได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าตลาดแห่งนี้จัดตั้งขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล เป็นตลาดประชารัฐต้องชม เพื่อต้องการให้ประชาชนตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา มีสถานที่ในการจำหน่ายสินค้าโอท็อปและสินค้าพื้นเมืองที่ผลิตขึ้นมา เป็นการสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประชาชนตามแนวชายขอบให้มีรายได้จากการค้าขาย โดยในการเปิดตลาดแห่งนี้ มี รอง ผวจ.ศรีสะเกษ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน และพาณิชย์ จ.ศรีสะเกษ มาประกอบพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมา อาตมาภาพจึงขอวอนผู้หลักผู้ใหญ่ ท่าน ผวจ.ศรีสะเกษ ได้ช่วยดูแลพี่น้องประชาชนที่อยู่ตามแนวขอบชายแดนให้มีโอกาสค้าขายเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ให้ผ่อนหนักเป็นเบา และให้ประชาชนตามแนวชายขอบได้มีที่ยืนในสังคมด้วย
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/