ศรีสะเกษ-ยายทองคำนำชาวบ้านโนนป่ายางบุก 2 อบต.คืบหน้าแก้ไขที่ดินทำกิน
ภาพ/ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข
ยายทองคำนำชาวบ้านโนนป่ายางบุก 2 อบต.และศาลากลางทวงคืบหน้าแก้ไขที่ดินทำกิน แกนนำประกาศลั่นโนนป่ายาง 4,125 ไร่ไม่ใช่ทำเลเลี้ยงสัตว์ และไม่สามารถระบุอาณาเขตเนื้อที่ที่ชัดเจนได้ ชาวบ้านอยู่อาศัยทำกินมานานหลายชั่วอายุคนแล้ว
เมื่อวันที่ 7 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้าที่ทำการ อบต.หญ้าปล้อง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีตัวแทนชาวบ้าน ในเขตโนนป่ายาง จำนวนประมาณ 300 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจาก 8 หมู่บ้าน 2 ตำบล ประกอบด้วย บ้านโนนแย้ บ้านโนนหล่อ บ้านโนนแดง บ้านเพียนาม หมู่ 3 บ้านเพียนาม หมู่ 9 บ้านโนนสำนัก ชุมชนโนนสำราญ ชุมชนกุดหวาย ในเขต ต.หญ้าปล้องและ ต.หนองไผ่ ของ อ.เมืองศรีสะเกษ ซึ่งมีชาวบ้านอาศัยอยู่ประมาณ 20,000 คน นำโดย นางทองคำ ไชยชาญ อายุ 77 ปี นางนวลฉวี ศรีพล นางมาลัย เศรษฐบดี นายสุดใจ น้อยมิ่ง ได้พากันเดินทางชุมนุมพร้อมทั้งพากันเขียนป้ายมีข้อความว่า นายกฯลุงตู่ ช่วยชาวบ้านด่วน ทะเบียนผิดพลาดพิฆาตราษฏร ผู้ว่าฯคนดี…จิตเมตตาแก้ปัญหา “โนนป่ายาง” จบปัญหาโนนป่ายาง วันนี้ร่วมร้อยปี ต้องคลี่คลาย นายก อบต.หญ้าปล้อง หนองไผ่…ช่วยด้วย บ้านโนนแย้ บ้านโนนหล่อ ไม่มีที่ทำเลเลี้ยงสัตว์ออกโฉนดด่วน ให้ซ่อยแก้ปัญหา บ่แม่นสร้างปัญหา
โดยแกนนำได้นำเอาควายจำลองที่ตายแล้วเพราะไม่มีหญ้ากินมาวางประท้วงด้วย เนื่องจากว่า โนนป่ายางไม่ใช่ที่สาธารณะประโยชน์เลี้ยงสัตว์ ทำให้ควายไม่มีหญ้ากินและควายตายหมดแล้ว แกนนำได้พากันปราศรัยเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้ทราบ โดยได้ส่งมอบหนังสือข้อเรียกร้องกับนายเสน่ห์ นามจันทรา ปลัด อบต.และรักษาการในตำแหน่ง นายก อบต.หญ้าปล้อง จากนั้น กลุ่มชาวบ้านโนนป่ายาง ได้เดินทางไปที่ อบต.หนองไผ่ และได้ยื่นหนังสือกับ นายบุญมี จันทร์ศิลา นายก อบต.หนองไผ่ ต่อมากลุ่มชาวบ้านได้เดินทางไปที่ ศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ เพื่อยื่นหนังสือกับ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ แต่เนื่องจาก ผวจ.ศรีสะเกษ ติดราชการจึงได้มอบให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษมารับหนังสือแทน และมี นายสมเกียรติ ศรีขาว นายอำเภอเมืองศรีสะเกษและ พ.อ.พัฒนพงศ์ แสนภูวา หน.กลุ่มนโยบายแผนและการข่าว กอ.รมน.จว.ศก.และมาร่วมรับทราบปัญหาของชาวบ้านในครั้งนี้ด้วยเพื่อจะได้หาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป
นางทองคำ ไชยชาญ อายุ 77 ปี แกนนำชาวบ้านโนนป่ายาง กล่าวว่า พวกตนได้ร่วมกันเรียกร้องที่ดินทำกินโนนป่ายางที่ได้อาศัยเป็นที่ดินทำกินและอยู่อาศัยมาตั้งแต่ปี 2450 แต่ว่าพอถึง ปี 2468 ทางราชการได้ขีดเส้นให้โนนป่ายางเป็นที่ทำเลเลี้ยงสัตว์สาธารณะประโยชน์โนนป่ายาง จำนวน 4,125 ไร่ ทั้งที่มีชาวบ้านอาศัยทำกินและเป็นที่อยู่อาศัยมานานหลายชั่วอายุคนร่วม 100 ปีแล้ว ต่อมาปรากฏว่า อบต.หญ้าปล้อง และ อบต.หนองไผ่ ได้มีหนังสือให้ความเห็นต่อสำนักงานที่ดินจังหวัดศรีสะเกษโดยเชื่อว่า ที่ดินสาธารณะประโยชน์แปลง “โนนป่ายาง” ตามที่คณะกรรมการอำเภอได้ทำการประกาศสงวนหวงห้ามในทะเบียนที่รกร้างว่างเปล่า ลำดับที่ 9 ให้เป็นทำเลเลี้ยงสัตว์เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2468 มีอยู่จริงตามทะเบียนดังกล่าว ส่วนขอบเขตที่กำหนดในทะเบียนฯไม่สามารถระบุอาณาเขตและเนื้อที่ที่ชัดเจนได้ นั้น
นางทองคำ กล่าวต่อไปว่า ตนและคณะเห็นว่า อบต.หนองไผ่และ อบต.หญ้าปล้องมิได้อ้างอิงข้อมูลตามทะเบียนที่ได้ระบุจดแจ้งอาณาเขตพร้อมระยะทั้ง 4 ทิศไว้อย่างชัดเจน แต่ขอบเขตไม่มีจริงตามมติที่ประชุมสภาฯ ทั้งนี้ อบต.หนองไผ่ และ อบต.หญ้าปล้อง มีหน้าที่ดูแลที่สาธารณะประโยชน์สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันแปลงโนนป่ายางนี้ จึงอาจทำให้ทาง จ.ศรีสะเกษ พิจารณาในหลักฐานข้อมูลไม่ถูกต้องครบถ้วน ทำให้ราษฏรที่ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องที่อยู่อาศัยที่ดินทำกินไม่ได้รับความเป็นธรรมในการดำเนินการแก้ไขปัญหาโนนป่ายางตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยก่อนหน้านี้ได้มีหนังสือจากกรมที่ดินเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 62 แจ้งว่า พื้นที่ป่าสาธารณะประโยชน์โนนป่ายาง ไม่มีขอบเขตจริงตามที่ได้ขึ้นทะเบียนเอาไว้ อีกทั้งพื้นที่ 1,500 ไร่ที่กำหนดขึ้นมาใหม่ก็ไม่มีพื้นที่ขอบเขตเช่นเดียวกัน ซึ่งขั้นตอนต่อไปทางราชการจะนำเอาภาพถ่ายทางอากาศมาตรวจสอบเพื่อสรุปรายงานกรมที่ดินต่อไปนั้น ชาวบ้านโนนป่ายางทุกคนไม่ยอมรับภาพถ่ายทางอากาศเพราะว่า สภาพพื้นที่โนนป่ายางไม่มีขอบเขตอยู่จริง พวกตนจึงขอให้ อบต.หญ้าปล้องและ อบต.หนองไผ่ ได้แก้ไขรายงานการประชุมการดำเนินการแก้ไขปัญหาโนนป่ายางให้ถูกต้องตามข้อมูลจริงตามทะเบียนฯ และตามมติที่ประชุมสภาฯทั้ง 2 อบต.พร้อมทั้งขอให้ทำหนังสือแจ้งสำนักงานที่ดินจังหวัดศรีสะเกษและ ผวจ.ศรีสะเกษโดยด่วนที่สุดด้วย
นางทองคำ ยังกล่าวด้วยว่า ตนขอเรียนเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมที่ดิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับประเทศ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ลงมาดูแลแก้ไขปัญหาให้ชาวโนนป่ายางให้เป็นรูปธรรม ชัดเจน และรวดเร็วด้วย เนื่องจากว่า ปัญหานี้ยืดเยื้อมานานหลายสิบปีแล้ว หากว่าผลการดำเนินการไม่มีความคืบหน้าพวกตนจะพากันเดินทางไปชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ เพื่อขอความเมตตาให้ท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขวัญใจของประชาชนชาวไทยที่ยากไร้ ได้โปรดพิจารณาสั่งการแก้ไขปัญหานี้ให้กับพวกตนโดยด่วนต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/