ศรีสะเกษ-รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเผยกองทุนหมู่บ้านเป็นส่วนสำคัญในการสร้างชาติ

ภาพ/ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข 

           รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเผยกองทุนหมู่บ้านเป็นส่วนสำคัญในการสร้างชาติ พร้อมระดมเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคอีสาน

            เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายนที ขลิกทอง ผอ.สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และคณะ ได้เดินทางไปมอบนโยบายการดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตามแนวททงประชารัฐ ในงานมหกรรมรวมพลคนกองทุน “กองทุนหมู่บ้านสร้างชาติ ประชารัฐสร้างไทย” ซึ่งกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จ.ศรีสะเกษ ได้จัดงานนี้ขึ้น โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย การมอบใบประกาศเกียรติบัตรให้กับคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองระดับตำบล การเสวนากองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง การแสดงผลงานการดำเนินงานของกองทุน การจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าโอท๊อป พร้อมทั้งมีการมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมี นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ เป็นผู้กล่าวต้อนรับ และมี นายจรินทร์ รอบการ พัฒนาการ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษ สมาชิกกองทุนหมู่บ้านจากทุกหมู่บ้านในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ จำนวนมาก มาเข้าร่วมกิจกรรมและให้การต้อนรับ

              นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จ.ศรีสะเกษ มี 22 อำเภอ ประชากร รวมทั้งสิ้น 1,463,907 คน รายได้เฉลี่ยต่อคน / ปี 61,205.98 บาท พื้นที่ทั้งหมด 5,524,987.5 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงสลับทุ่งนา มีภูเขาและป่าไม้อยู่ทางตอนใต้ ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ประมาณร้อยละ 70 หรือประมาณ 1.01 ล้านคน โดยปลูกข้าวหอมมะลิเป็นหลัก ส่วนที่เหลือปลูกพืชไร่ ได้แก่ มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ไม้ผล ได้แก่ เงาะ ทุเรียน ลองกอง มังคุด ประมาณ 4,422.75 ไร่ แหล่งท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญใน จ.ศรีสะเกษ เช่น อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ผามออีแดง สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ปราสาทสระกำแพงใหญ่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา
              ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า จ.ศรีสะเกษ มีกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จำนวน 2,669 กองทุน แยกเป็นกองทุนหมู่บ้าน จำนวน 2,633 กองทุน และกองทุนชุมชนเมือง จำนวน 36 กองทุน ดำเนินการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล จำนวน 2,666 กองทุน และไม่สามารถจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลได้ จำนวน 3 กองทุน ได้รับการจัดสรรเงินทุนจากรัฐบาลและการเพิ่มทุนกองทุนหมู่บ้าน ระยะที่ 1 – 3 จำนวน 6,491,300,000 บาท และการดำเนินงานโครงการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนอย่างยั่งยืนโดยศาสตร์พระราชาตามแนวทางประชารัฐ มีกองทุนหมู่บ้าน จำนวน 2,407 กองทุน เป็นเงิน 692,430,000 บาท

              นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่มีอยู่ในหมู่บ้านและชุมชน ถือว่าเป็นแหล่งเงินทุนที่ชัดเจนอีกแห่งหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน สำหรับการลงทุนในการพัฒนาอาชีพของประชาชน เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ต่อตนเองและครอบครัว ช่วยบรรเทาเหตุฉุกเฉินและจำเป็นเร่งด่วน ตลอดจนเป็นการส่งเสริมและพัฒนาหมู่บ้านชุมชนเมืองให้มีขีดความสามารถ จัดระบบเงินกองทุนและบริหารจัดการเงินกองทุนหมู่บ้านได้ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานราก เสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต ซึ่งกองทุนหมู่บ้านเป็นส่วนสำคัญในการสร้างชาติให้มีความเจริญก้าวหน้า มั่นคงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/