สระแก้ว-ทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลคงคลัง ปี 62

สระแก้ว-ทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลคงคลัง ปี 62

ภาพ/ข่าว:สวาท เกตุงาม
ขอบคุณภาพ และข้อมูล:ยุติศักดิ์ สารการ

ทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลคงคลัง ปี 62

            เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 6 สิงหาคม 2562 ที่ เนินตรวจการณ์ 152 บ้านภักดีแผ่นดิน ตำบลหนองหมากฝ้าย อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว พลเอก ชัยชนะ นาคเกิด รอง เสนาธิการทหาร เป็นประธานตรวจเยี่ยม และทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลคงคลังของประเทศไทย พ.ศ. 2562 โดยมี พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ พลตรีหทัยเทพ กีรติอังกูร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 19 นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว นายทรงยศ เทียนทอง นายกอบจ.สระแก้ว นายอมรชัย ศิริไสย์ สมาคมผู้เก็บกู้ทุ่นระเบิดพลเรือนไทย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชน ผู้พิการที่อาศัยตามแนวชายแดน เข้าร่วม
             ด้าน นายอมรชัย ศิริไสย์ สมาคมผู้เก็บกู้ทุ่นระเบิดพลเรือนไทย กล่าวว่า สำหรับการปฏิบัติงานเก็บกู้ทุ่นระเบิดตั้งแต่ปี 2557 ถึงปี 2561 สมาคมได้ร่วมมือกับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดที่ 3 ภายใต้การกำกับดูแลของ ศูนย์ทุ่นระเบิดแห่งชาติ และกระทรวงต่างประเทศ ทำการกวาดล้างพื้นที่ทุ่นระเบิดที่มีศักยภาพต่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจตามแนวชายแดนที่ช่องจอม อ.กาบเชิง และช่องพริก อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ และจังหวัดสระแก้ว มี 4 อำเภอตามแนวชายแดน ได้พื้นที่ปลอดภัยจากการ กวาดล้างโดยละเอียด ประมาณ 5 ล้าน ตรางกกิโลเมตร ตรวจพบทุ่นระเบิดและนำออกไปทำลายโดย นปท.3 ประมาณ10,000 ทุ่น โดยได้รับงบประมาณจากกรัฐบาลญี่ปุ่น ผ่านกองทุนบูรณาการญี่ปุ่น-อาเซียน ประมาณ 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐ กระทรวงต่างประเทศ ได้สนับสนุนและผลักดันให้สมาคมได้รับเงินทุนเพื่อปฏิบัติงานต่อ มีผู้บริจาคเป็นหลัก คือรัฐบาลญี่ปุ่น ได้ให้งบประมาณต่อเนื่องอีก 967,753.17 เหรียญสหรัฐ เพื่อให้สำรวจพื้นที่สงสัยว่ามีทุนระเบิด 120 ล้านตารางกิโลเมตร กำหนดขอบเขตแนวระเบิดให้ชัดเจนโดยการใช้เครื่องค้นทุ่นระเบิด เพื่อให้กวาดในเวลาที่เหลือ 3 ปี ปัจจุบันมีพนักงานรวม 36 คน อยู่ที่สนาม 28 คน มีจังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดบุริรัมย์ เขตติดต่อจังหวัดสระแก้ว จากการปฏิบัติงาน 1 เดือนที่ผ่านมา ตรวจพบทุ่นระเบิดแล้วประมาณ 102 ทุ่น ปลดปล่อยพื้นที่ปลอดภัยได้ประมาณ 5 ล้านตารางกิโลเมตร พบว่ามีสนามทุ่นระเบิดจริง ประมาณ 400,000 ตารางเมตร
             พล.อ. ชัยชนะ นาคเกิด เสนาธิการทหาร เผยว่า พร้อมด้วยคณะทูตประเทศที่ให้การสนับสนุนการปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมของประเทศไทย ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย ภาคประชาสังคมด้านการปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นสักขีพยาน ที่ เนินตรวจการณ์ 152 บ้านภักดีแผ่นดิน ตำบลหนองหมากฝ้าย อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว การปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมของประเทศไทย เป็นผลสืบเนื่องจากประเทศไทยได้เข้าร่วมอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และโอน และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา ณ กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2540 ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ โดยกองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แจ้งเตือน และให้ความรู้งานช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุ่นระเบิด ซึ่งมีการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แล้วเสร็จ 17 จังหวัด และอยู่ระหว่างดำเนินการ 10 จังหวัด หนึ่งในนั้นเป็นจังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีชายแดนติดต่อกับประเทศกัมพูชา ที่ยังหลงเหลือทุ่นระเบิดอยู่เป็นจำนวนมาก มีภารกิจหลักในการส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิของคนพิการทั่วไป รวมทั้งคนพิการจากการประสบภัยทุ่นระเบิด ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 ผ่านกลไกศูนย์บริการคนพิการระดับจังหวัด และศูนย์บริการคนพิการทั่วไป ซึ่งพบว่ามีคนพิการจากการประสบภัยทุ่นระเบิดใน 27 จังหวัด จำนวน 1,043 คน ได้ส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิของคนพิการจากการประสบภัยทุ่นระเบิด ด้วยการขึ้นทะเบียนเป็นคนพิการเพื่อรับการช่วยเหลือในด้านต่างๆ อาทิ เบี้ยความพิการ กายอุปกรณ์ การฟื้นฟูสมรรถภาพ การปรับปรุงซ่อมแซมที่พักอาศัย เงินทุนกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพ และการส่งเสริมอาชีพ เป็นต้น การทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล มีขึ้นเมื่อปี 2546 จำนวน 335,843 ทุ่น สำหรับครั้งนี้มี จำนวน 3,133 ทุ่น โดยได้ดำเนินการเมื่อวันที่ 1 – 10 สิงหาคม ซึ่งเป็นความร่วมมือจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการทำลายทุ่นระเบิด นับเป็นการทำลายทุ่นระเบิดครั้งใหญ่ที่สุด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุ่นระเบิด หมดไปจากประเทศไทย และจะมีผลทำให้ประเทศไทยมีสถานะเป็นรัฐภาคี ที่ไม่มีทุ่นระเบิดในการครอบครองอีกต่อไป ถือเป็นการแสดงออกถึงเจตนารมณ์และความจริงใจของประเทศไทยในการร่วมมือปฏิบัติตามพันธกรณีในฐานะรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา และยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนถึงอันตรายจากทุ่นระเบิดฯ ที่ยังหลงเหลืออยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดนอีกเป็นจำนวนมาก
               จากการสำรวจคนพิการในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ที่ประสบภัยจากทุ่นระเบิด จำนวนทั้งสิ้น 220 คน แบ่งเป็น อำเภออรัญประเทศ จำนวน 109 คน อำเภอตาพระยา จำนวน 69 คน และอำเภอโคกสูง จำนวน 42 คน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จึงได้ตระหนักถึงปัญหาความยากลำบากของคนพิการจากการประสบภัยทุ่นระเบิด จึงได้ขับเคลื่อนแผนการดำเนินงาน การส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิคนพิการจากการประสบภัยทุ่นระเบิด การให้ความรู้แก่ทหารที่ปฏิบัติงานทุ่นระเบิดในพื้นที่ให้เป็นผู้นำสารสู่ชุมชน การขับเคลื่อนศูนย์บริการคนพิการจังหวัดและศูนย์บริการคนพิการทั่วไป ซึ่งเป็นกลไกในระดับพื้นที่เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิคนพิการจากการประสบภัยทุ่นระเบิด
                 ต่อมา พล.อ.ชัยชนะ นาคเกิด เสนาธิการทหาร ประธานในพิธีทำการมอบรถเข็นโยก จำนวน 15 คัน ถุงยังชีพ การบริการจัดทำขาเทียม การมอบอุปกรณ์และเงินสมทบเพื่อการประกอบอาชีพ และนิทรรศการเกี่ยวกับการปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมของประเทศไทย การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิด การสาธิตการเก็บกู้ทุ่นระเบิด การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่ และร่วมเป็นสักขีพยานการทำลายทุ่นระเบิดคงคลังประเทศไทย จะทำการทำลายระเบิดสังหารบุคคล จำนวน 7 หลุม และสาธิตทำลายระเบิดก่อนจำนวน 2 หลุมๆ ละ 200 ทุ่น รวมเป็น 400 ทุ่น เป็นปฏิบัติการของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นหน่วยปฏิบัติหลักในการดำเนินการทำลายทุ่นระเบิดของประเทศไทย โดยได้พยายามอย่างเต็มความสามารถในการขจัดอันตรายดังกล่าวให้หมดไป ซึ่งมีส่วนสำคัญในการลดจำนวนคนพิการในประเทศไทยในภาพรวม นำมาซึ่งพื้นที่ปลอดภัยเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมต่อไป

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!