อยุธยา-เฉลิมฉลองครบรอบ 150 ปีชาตกาล
ภาพ/ข่าว:นราเอก ตันศิริ : นพดล บำเพ็ญสัตย์
วัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดโครงการเฉลิมฉลองครบรอบ 150 ปีชาตกาล พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เนื่องในโอกาสได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก สาขาสันติภาพภายใต้โครงการลานธรรม ลานวิถีไทย ประจำปี 2563
เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 20 มกราคม 2563 ที่ลานธรรม วัดเกาะแก้ว ตำบลกะมัง อำภอพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางนวลจันทร์ แย้มศรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสาวนุชนาถ ประธีปธีรานันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชน ร่วมกันทำบุญ ตักบาตร จากนั้น นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศล เฉลิมฉลองครบรอบ 150 ปีชาตกาล พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต โดยมี พระธรรมรัตนมงคล เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระครูภาวนารัตนพิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดเกาะแก้ว เป็นองค์แสดงพระธรรมเทศนา พระสงฆ์วัดเกาะแก้ว เจริญพระพุทธมนต์
นางจุรีพร ขันติ วัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ในปี 2562 กระทรวงวัฒนธรรม ได้เสนอชื่อพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เพื่อให้องค์การยูเนสโก ประกาศยกย่องและร่วมเฉลิมฉลอง เนื่องในวาระครบรอบ 150 ปีชาตกาล และได้รับการประกาศ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระคุณ อันยิ่งใหญ่ขององค์ท่านที่มีคุณูปการต่อชนชาวไทย พระอาจารย์มั่น ภูริภัตโต ได้รับการยกย่องเทิดทูนว่า เป็นพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายพระกรรมฐาน โดยท่านได้รับสมญานามว่า “บูรพาจารย์ แห่งกองทัพธรรม” เนื่องจากท่านได้บำเพ็ญข้อวัตรปฏิปทาธุดงควัตร และปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด ดังนั้น เพื่อเฉลิมฉลอง ครบรอบ 150 ปีชาตกาล และได้ประกาศยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลก สาขาสันติภาพจึงกำหนดจัดกิจกรรมทำบุญตักบาตร และจัดนิทรรศการเผยแพร่ชีวประวัติ และผลงานของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตอีก ด้วย
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้บรรพชาอุปสมบทบวชเป็นพระภิกษุ ณ วัดศรีทอง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2436 ได้ฉายว่า “ภูริทัตโต” ได้เข้ามาศึกษาพระปริยัติธรรม ที่ วัดปทุมวนาราม และได้ศึกษาอบรมกับท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณาปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) วัดบรมนิวาส หลังจากนั้นท่านได้ออกฝึกปฏิบัติ ธุดงค์กรรมฐาน ตามลำพัง โดยธุดงค์ไปตามสถานที่ ที่เป็นป่าเขา ถ้ำ เงื้อมผา ทางภาคเหนือ ภาคอีสาน บางครั้งท่านก็ธุดงค์ไปยังประเทศพม่า ลาว หลวงพระบางเป็นต้น ซึ่งในระหว่างธุดงค์ไปนั้น ก็มีคณะศิษยานุศิษย์ที่เลื่อมใสในข้อวัตรปฏิบัติ ได้ติดตามไปแบบห่างๆ ด้วย
จนต่อมาพระสงฆ์เหล่านั้นได้เจริญงอกงามในธรรม จนกลายเป็นพระเกจิอาจารย์องค์สำคัญๆในเมืองไทย เป็นที่เคารพสักการะของพระมหากษัตริย์และประชชนชาวไทยและประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างมากมาย หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้อาศัยอยู่ตามป่าตามเขา ตลอดช่วง 57 ปีของชีวิตสมณเพศ จนในช่วงระยะ 5 ปีที่ย่างเข้าวัยชรา จึงได้พำนักเป็นหลักแหล่ง ที่ วัดป่าหนองผือนา ใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ซึ่งช่วงนั้น ท่านได้สั่งสอนอบรมศิษยานุศิษย์เป็นจำนวนมากชื่อเสียงล่ำลือไปทั่วมีประชาชนนับถือทั่วประเทศ จนกระทั่งก่อนอาพาธหนักเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 24492 และได้มรณภาพลงอย่างสบ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2492 เวลา 02 : 23 น. และคณะศิษย์ได้ร่วมจัดงานประชุมเพลิงศพ ที่ วัดป้าสุทธาวาส อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที 30 มกราคม พ.ศ. 2493 สิริรวมอายุได้ 80 ปี
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/