ได้พระผงสุพรรณ-พระซุ้มกอ
เรื่องโดย:พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน)
หลวงพี่น้ำฝน เล่าเรื่องพระเก่า ที่ลอยมาอย่างไม่ได้คาดหมาย ด้วยมูลเหตุหลายๆประการ จากการสวดมนต์ขอพร ปรากฏมีโยมที่เคารพศรัทธานำมาถวาย เพื่อเป็นพุทธบูชา ได้ศึกษาหาข้อมูล และเก็บรักษาไว้ เป็นพุทธคุณติดกาย ตามความหมายและจุดประสงค์ของโยมผู้ถวายอย่างถ่องแท้
เหตุการณ์นี้ หลวงพี่น้ำฝน บันทึกไว้ในสมุดจดหมายเหตุประจำกาย อธิบายไว้ดังต่อไปนี้ ….
พลันที่ในเวลาต่อมา อาตมาได้รับถวาย พระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี และพระซุ้มกอ กำแพงเพชร จากโยมที่เคารพศรัทธา ซึ่งอาตมาก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะได้ แต่ก็ได้มา
ก่อนหน้านี้อาตมาสวดมนต์ขอพรทุกวัน และได้ศึกษาประวัติพระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี และพระซุ้มกอ กำแพงเพชร มานานหลายปี
วันนี้สำเร็จแล้ว ตามความปรารถนา และเป็นดังที่ทราบโดยทั่วไปว่า ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมืองสุพรรณ เป็นต้นกำเนิดของ “พระผงสุพรรณ” หนึ่งในพระเบญจภาคีเลื่องชื่อ ปรากฏหลักฐานว่าพระผงสุพรรณนี้ขุดพบที่พระปรางค์องค์ใหญ่ของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เมื่อปี 2456 โดยท่านพระยาสุนทรบุรี เจ้าเมืองสุพรรณในขณะนั้น สั่งให้มีการเปิดกรุอย่างเป็นทางการ เนื่องเพราะมีคนร้ายเข้ามาลักลอบขุดพระปรางค์อยู่บ่อยครั้ง และขโมยพระเครื่อง พระบูชา พระทองคำไปไม่น้อย รวมไปถึงแผ่นจารึกลานทองหลายแผ่น
การเปิดกรุอย่างเป็นทางการในครั้งนั้น ได้พระเครื่องมากมายไปจากกรุในองค์พระปรางค์นี้ ทั้งพระผงสุพรรณและพระเครื่องที่มีชื่อเสียงอื่นๆ อาทิ พระกำแพงศอก พระมเหศวร พระสุพรรณยอดโถ พระสุพรรณหลังผาน ตลอดจนพระเนื้อชินต่างๆ
หากใครอยากไปชมองค์พระปรางค์ที่เคยบรรจุพระผงสุพรรณก็สามารถเดินทางมาได้ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณบุรี และเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองสุพรรณฯ
กล่าวสำหรับองค์พระปรางค์เชื่อว่า น่าจะเป็นศิลปะการก่อสร้างในสมัยอู่ทองสุพรรณภูมิ เพราะเป็นการก่ออิฐไม่ถือปูน ซึ่งเป็นวิธีการเก่าแก่ก่อนสมัยอยุธยา นอกจากนั้นที่วัดยังมีวิหารพระผงสุพรรณ ที่ภายในวิหารมีพระประธานคือพระผงสุพรรณขนาดใหญ่ที่ทำจำลองขึ้นให้พุทธศาสนิกชนเข้าไปไหว้พระปิดทองกันได้ด้วย
ส่วนพระซุ้มกอ กำแพงเพชร นั้น ตามประวัติ กล่าวคือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงกล่าวไว้ในพระราช นิพนธ์เรื่องเสด็จประพาสต้นครั้งที่สองว่า “ของถวายในเมืองกำแพงเพชรนี้ ก็มีพระพิมพ์เป็นพื้น” แสดงให้เห็นว่า พระพิมพ์หรือพระเครื่องที่เมืองกำแพงเพชรนั้นมีอยู่มากมายมาช้านานแล้ว โดยพระเครื่องของจังหวัดกำแพงเพชรมีชื่อเสียงในด้านความสง่างามด้วยศิลปะที่เกิดจากประติมากรรมของช่างสกุลกำแพงเพชร
สำหรับพระซุ้มกออันเป็นหนึ่งในพระเบญจภาคีนั้น เล่ากันว่า เมื่อสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) ท่านเดินทางมาเยี่ยมญาติที่จังหวัดกำแพงเพชร ราวปี 2392 ได้ค้นพบพระเครื่องที่วัดพระบรมธาตุนครชุม เป็นพระซุ้มกอจำนวนมาก และพบจารึกลานเงินกล่าวถึงการสร้างพระเครื่อง พบคาถาและวิธีการในการสร้างพระเครื่อง ว่ากันว่าหลวงพ่อโตนำไปสร้างสมเด็จวัดระฆังอันศักดิ์สิทธิ์
พระซุ้มกออยู่ในกรุทุ่งเศรษฐี ซึ่งกรุพระที่อยู่ในตระกูลทุ่งเศรษฐีมีเป็นจำนวนมาก ได้แก่ กรุวัดพระบรมธาตุ กรุเจดีย์กลาง กรุวัดพิกุล กรุซุ้มกอ กรุบ้านเศรษฐี กรุฤาษี เป็นต้น และพระเครื่องในตระกูลนี้ ได้แก่ พระกำแพงซุ้มกอ พระกำแพงเม็ดขนุน และพระกำแพงพลูจีบ ก็ได้รับเกียรติจากวงการพระเครื่องให้บรรจุอยู่ในชุดเบญจภาคีด้วย
ที่วัดพระบรมธาตุนครชุมอันเป็นสถานที่สำคัญที่เกี่ยวพันกับพระซุ้มกอนี้ตั้งอยู่ใน อ.เมือง แต่เดิมครั้งกรุงสุโขทัยนั้นเป็นพระเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ (ดอกบัวตูม) ตั้งเรียงกันสามองค์ อยู่บนฐานเดียวกัน โดยองค์กลางของพระเจดีย์นั้นประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ 9 องค์ อยู่ภายในภาชนะเงินรูปสำเภา
แต่ปัจจุบันมีรูปแบบเป็นพระเจดีย์ทรงมอญซึ่งได้รับการบูรณะขึ้นภายหลัง และนับเป็นวัดสำคัญของเมืองกำแพงเพชร ที่มีความสำคัญยิ่งอีกแห่งหนึ่งเช่นกัน!!!
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/