ชลบุรี-ต้นอ้อ กลุ่มเป็นหนึ่ง นำน้องบีเข้าแจ้งความหลังหนุ่มทำร้ายข่มขู่เรียกเงินและนำรูปโป๊เปลือยแบล็คเมล์
ภาพ/ข่าว:นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (5 ก.ย.66) นางสาว ชลิตา พะละมาตร์ รองประธานกลุ่มเป็น 1 ได้นำ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 31 พร้อมเอกสารและข้อความต่างๆ ที่ถูกนำลงประจานในเฟสบุ๊ค เข้าพบ ว่าที่ ร.ต.ต.สันติชล หุมอาจ รองสว.สอบสวน สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
น.ส.บี (นาสมุติ) เปิดเผยว่า ได้ถูกนาย กรกช ไม่ทราบนามสกุล พักอยู่ที่ หมู่ 6 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี อดีตแฟนเก่าอ้างเป็นรองนายก อบต.แห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี ทำร้ายร่างกายมาตลอดระยะเวลาที่คบหากัน จนทนไม่ไหวขอเลิกหลายครั้ง ก็จะถูกทำร้ายร่างกายและถ่ายรูปเอาไว้ประจานข่มขู่ ถ้าเลิกก็จะปล่อยคลิปปล่อยรูปโป๊ จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ ลงบันทึกประจำวันไว้ ปัจจุบันเธอได้เลิกรากับรองนายกคนนี้ และรองนายกคนนี้ มีการส่งข้อความมาข่มขู่ เพื่อเรียกร้องเงินกับเธอเป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท พร้อมส่งรูปภาพและคลิปโป๊เปลือยของเธอให้แฟนคนปัจจุบันและเพื่อนๆของเธอ ทำให้เธอรู้สึกอับอาย และยังคงข่มขู่อีกว่าถ้าไม่ให้เงินจะปล่อยคลิปลับอีกและเยอะกว่านี้ พร้อมยืนยันว่าไม่เคยเอาเงินของแฟนเก่าคนนี้ จำนวน 200,000 ไปแต่อย่างใด จึงเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อ น.ส.ชลิตา พะละมาตร์ รองประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง นำเข้ามาพบพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุดในวันนี้
ด้าน น.ส.ชลิตา พะละมาตร์ รองประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง เปิดเผยว่า วันนี้ ทาง จนท.ตำรวจ นัดมาสอบปากคำเพิ่มเติมและเอาหลักฐานมาส่ง ซึ่งตอนแรกที่รับเรื่องมา น้องบอกว่ายังไม่สามารถดำเนินคดีได้เนื่องจากไม่ได้เกิดจากเหตุการณ์ซึ่งหน้า ทางเราจึงแปลกใจว่าเหตุการณ์ซึ่งหน้าคืออะไร จึงได้พาน้องมาพบตำรวจอีกรอบหนึ่ง พร้อมนำหลักฐานทุกอย่างมาและให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อจะดำเนินคดี โดยจะออกหมายเรียกก่อนหากไม่มาก็จะเป็นหมายจับ สำหรับสาเหตุที่น้องมาขอให้ช่วยเหลือ เนื่องจากถูกผู้ชายคนนี้ที่เคยคบหากันในช่วงเดือนมกราคม ต้นปีที่ผ่านมา แต่พอมาอยู่ด้วยกันก็เกิดมีการทำร้ายร่างกายมีการหึงหวงข่มขู่คุกคามมากขึ้น จนทำให้น้องรู้สึกว่าไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตก็เลยอยากเลิกแต่ก็เลิกไม่ได้ เพราะถูกผู้ชายข่มขู่ว่าจะไปทำร้ายคนในครอบครัวด้วยทำร้ายตัวเขาด้วย แล้วก็เคยเอาปืนไปจี้ถึงที่ทำงานเพื่อให้เลิกทำงานแล้วมาอยู่กับเขา ซึ่งในระหว่างอยู่ด้วยกัน 3-4 เดือน ก็จะเกิดปัญหาทำร้ายร่างกายข่มขู่ตลอดเวลา จนน้องรู้สึกว่าน้องไม่ไหวแล้วจนล่าสุดที่มีการมัดมือมัดเท้ามัดปากทำร้ายน้องแล้วอัดคลิปไว้ เพื่อจะเอามาแบล็คเมย์น้อง และข่มขู่เรียกเงิน 2 แสนบาท บอกว่าเป็นเงินที่เคยให้ในห้วงเวลาที่อยู่กินด้วยกัน มันเป็นการให้โดยเสน่ห์หามากกว่าตามที่เรามองนะ แต่ด้วยผู้ชายเป็นคนที่ขี้หึงอาจจะหวงก้างว่าผู้หญิงขอเลิกแต่ตัวเขาเองไม่อยากเลิก จึงใช้วิธีการข่มขู่น้องด้วยการเอาคลิปมาประจานมาแบล็คเมย์ว่า ถ้าไม่ให้เงินคืนจะเอาคลิปไปลงในเว็บไซต์หนึ่ง เพื่อให้น้องอับอายเพื่อต้องการเรียกเงิน พอเราทราบถึงพฤติกรรมของคนๆนี้แล้วไม่ดีเลย ตอนแรกที่น้องแจ้งว่าผู้ชายคนนี้เป็นถึงรองนายก อบต. แห่งหนึ่งที่จังหวัดสุพรรณบุรี แต่พอเช็คแล้วไม่ได้เป็นอะไรเลย แต่อาจจะมีความสนิทสนมกับนายกเทศบาลตรงนั้นหรือป่าวเราไม่ทราบแน่ชัด จากการสอบถามในเบื้องต้นเพียงแค่รู้จักกันและรู้ว่าคนๆ นี้เป็นเพียงประธานชุมชนแห่งหนึ่งที่ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ไม่ได้มีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โตอะไร อย่างที่ตัวเองกล่าวอ้างมา พอเราทราบถึงพฤติกรรมเหล่านี้เป็นผู้ชายที่ชอบใช้ความรุนแรงใช้ปืนข่มขู่และที่หนักสุดคือจะใช้ไฟเผาน้องจนน้องต้องร้องขอชีวิตถึงขั้นไม่ไหวแล้วจึงต้องหลบหนีออกมาและไปอยู่ที่จังหวัดระยอง
จากการมองดูว่าพฤติกรรมของผู้ชายคนนี้แล้วเป็นภัยต่อสังคม ซึ่งยังไม่รู้ว่าไปหลอกลวงใครอีกหรือป่าว แต่ที่ทราบมาจากน้องเล่าให้ฟังว่า หลังจากเลิกจากผู้ชายคนนี้แล้วได้มีผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ซึ่งไปตามทวงเงินกับเขาที่บ้านเหมือนประมาณว่าไปหลอกลวงเงินผู้หญิงคนนั้นหรือหลายๆ คนมา แต่ตอนนี้เรายังไม่ทราบว่ามีใครเป็นผู้เสียหายเพิ่มเติมหรือเปล่า หากมีร้องมาทางเราได้ และมาให้ปากคำกับทางตำรวจเพิ่มเติม ซึ่งพฤติกรรมของผู้ชายคนนี้เป็นภัยต่อสังคมเป็นภัยร้ายต่อผู้หญิง.เป็นพฤติกรรมที่มีความรุนแรงไม่รักกันก็แค่เลิกกันไม่ใช่มาทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ จนผู้หญิงเขาบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ วันนี้น้องมาให้ปากคำมีความสับสนและหวาดกลัวกับพฤติกรรมที่เขาถูกกระทำมา ฉะนั้นจึงขอวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินคดีกับผู้ชายคนนี้ให้ถึงที่สุด คุณต้นอ้อ ได้กล่าวในตอนท้าย