ศรีสะเกษ-หลวงพ่อพุฒถวายเทียนพรรษา 14 วัดและมอบถุงยังชีพชาวบ้านผู้ยากไร้ 14 หมู่บ้าน

ศรีสะเกษ-หลวงพ่อพุฒถวายเทียนพรรษา 14 วัดและมอบถุงยังชีพชาวบ้านผู้ยากไร้ 14 หมู่บ้าน

ภาพ/ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข

          เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2566 พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับกิจนิมนต์ไป เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการประกอบพิธีทำบุญถวายเพลตามถนนสายวัฒนธรรมที่ วัดป่ารัตนพุทธิคุณ (ธ.) บ้านดู่ ต.ธาตุ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งพระอาจารย์ปัณฑ์ อัคควโร หรือท่านพ่อปัณฑ์ เจ้าอาวาสวัดป่ารัตนพุทธิคุณ (ธ.) ร่วมกับพุทธศาสนิกชนชาวบ้านดู่ ต.ธาตุ อ.รัตนบุรี ได้จัดงานพิธีนี้ขึ้น มี นายบุญมี เสนคราม กำนัน ต.ไพรพัฒนา พร้อมด้วยคณะกรรมการมูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนาและคณะครูวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา เดินทางไปร่วมในพิธีนี้ด้วย ซึ่ง พระครูโกศลสิกขกิจ ได้นำเอาจตุปัจจัยไทยธรรมพร้อมเทียนพรรษา จำนวน 14 คู่ ไปถวายแด่เจ้าอาวาสวัดจำนวน 14 วัดในเขต อ.รัตนบุรี และนำเอาถุงยังชีพ จำนวน 50 ถุง ไปมอบให้การช่วยเหลือแก่ชาวบ้าน ที่ยากไร้จำนวน 14 หมู่บ้าน ๆ ละ 3 คน โดยได้รับความเมตตาจาก พระครูผาสุกิจโสภณ เจ้าคณะตำบลธาตุ พระครูสันตยากร เจ้าคณะตำบลท่าตูม พระครูรัตนธรรมวิรุฬห์ เจ้าคณะตำบลดอนแรด เขต 2 อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ นำคณะสงฆ์ประกอบพิธีทางศาสนาและออกรับบิณฑบาตจากพุทธศาสนิกชนมี นายกานต์ กาญจนวงศ์สกุล นายอำเภอรัตนบุรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และมี น.ส.ระพีพรรณ วรฉัตร นายกกิ่งกาชาด อ.รัตนบุรี นายคมกฤษณ์ สรัลวรธนา ส.อบจ.อ.รัตนบุรี เขต 2 นายสมหวัง สันวัน นายก อบต.ธาตุ นำคณะข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนจากเขต 3 อำเภอคือ อ.ท่าตูม อ.โนนนารายณ์ และ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ มาร่วมพิธีทำบุญในครั้งนี้จำนวนมาก

          พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า อาตมาภาพขอให้พุทธศาสนิกชนทุกคนทุกท่านได้ร่วมกันปฏิบัติธรรมรักษาศีล โดยการถือศีล 5 อย่างเคร่งครัด เพราะว่าประโยชน์ของศีล 5 เพื่อความสงบสุขของสังคม คือเพื่อป้องกันการล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่น อันจะส่งผลให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง ความหวาดระแวง และความวุ่นวายในสังคม เพื่อพัฒนาจิตใจของผู้ที่ถือศีลนั้นเอง เพราะศีล 5 นั้น ถูกบัญญัติขึ้นมาเพื่อควบคุม ไม่ให้มีการแสดงออกทางกาย หรือทางวาจาไปในทางที่ตอบสนองอำนาจของกิเลส การถือศีลก็เป็นการงดเว้นการทำกรรมชั่วทางกาย ทางวาจา แล้วนั่นล่ะเป็นความดีของเรา ซึ่งมนุษย์เรานั้น เมื่อละจากโลกนี้ไปแล้ว สิ่งที่จะนำติดตัวไปด้วยนั้นไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทองแต่อย่างใด แต่ว่าเป็นเสบียงบุญที่เราได้สะสมบุญมาจะติดตัวเราไปด้วย

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!