ชัยนาท-ชาวบ้านร้องขอความเป็นธรรมปมถูกยึดที่ดินทำกินไปสร้างสวนสาธารณะ
ภาพ/ข่าว:ธนพนธ์ แสงทอง
วันนี้ 6 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนครอบครัวชมรอดหอบเอกสารการครอบครองที่ดินแบบ สค.1พื้นที่จำนวน 7ไร่ เข้าร้องเรียนกับธรรมาภิบาลจังหวัดชัยนาท และสื่อมวลชน หลังจากก่อนหน้านี้ได้เกิดข้อพิพาทกับ อบต.ท่าชัย ในการทวงคืนสิทธิครอบครองพื้นที่ เพื่อนำไปสร้างทำเป็นสวนสาธารณะ โดยระยะเวลา เกือบ 11 ปี ที่ได้มีการเรียกร้องสิทธิ ปัจจุบันก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าพื้นที่สวนสาธารณะดังกล่าวเป็นพื้นที่สาธารณะหรือเป็นพื้นที่ สค.1 หรือไม่ ซึ่งจากหลักฐานโฉนดที่ดินของที่ดินข้างเคียงได้มีการระบุเอาไว้ว่าเป็นพื้นที่ที่มีการครอบครอง ไม่ได้ระบุว่าพื้นที่สาธารณะประโยชน์แต่อย่างไร โดยทางครอบครัวชมรอด วอนอยากจะให้กรมที่ดินนำภาพถ่ายทางอากาศมาเป็นตัวยืนยันหรือชี้ชัด
โดยนายฉลาด และ นางราตรี ชมรอด 2 สามี-ภรรยา รวมถึงบุตรสาว เล่าว่า ที่ดินดังกล่าว ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.4 ต.ท่าชัย อ.เมือง จ.ชัยนาท เดิมที่เป็นที่ดินของนายนิ่ม ชมรอด ผู้ซึ่งเป็นบิดา ที่ได้มีการถือกรรมสิทธิ์ครอบครองแบบ สค. 1 มาตั้งแต่ปี 2459 ที่ใช้ปลูกพืชผักต่างๆทำกินกันมายาวนาน โดยในปี 2555 ทางครอบครัวชมรอด ได้นำเอกสารสิทธิเพื่อไปขอออกโฉนดที่ดิน กับทาง สำนักงานที่ดินจังหวัดชัยนาท แต่ถูก อบต.ท่าชัย คัดค้านการออกโฉนดที่ดิน เนื่องจาก พื้นที่ดังกล่าวติดกับพื้นที่สาธารณะประโยชน์บึงหนองหวาย จึงไม่สามารถออกโฉนดได้ ต่อมาในปี 2558 ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เข้ามาทำการขุดลอก และปรับปรุงเพื่อดำเนินการก่อสร้างให้เป็นสวนสาธารณะ โดยให้ อบต.ท่าชัย เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ แต่ก่อนหน้าที่จะมีการก่อสร้างนั้น ทางหน่วยงานก็ไม่ได้มีหนังสือมาแจ้ง ทางครอบครัวก็ได้เข้าทำการร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท เพื่อเรียกร้องสิทธิ ทางศูนย์ดำรงธรรมก็ได้มีคำสั่งให้หยุดทำการก่อสร้าง เพื่อตรวจสอบว่าพื้นที่ที่มีข้อพิพาทนี้เป็นพื้นที่ของใคร แต่ทาง อบต.ท่าชัย ไม่ได้หยุดดำเนินการ โดยกล่าวอ้างว่า มีงบลงประมาณลงมาแล้วต้องดำเนินการก่อสร้างต่อไป ปัจจุบันเรื่องข้อพิพาทที่เกิดขึ้นอยู่ในชั้นศาล โดยให้ทางกรมที่ดินนั้นชีแจ้งว่าพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ของใคร แต่เรื่องผ่านมา 11 ปี ก็ยังไร้คำตอบ ซึ่งตนก็อยากจะวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาช่วยเหลือและตรวจสอบโครงการก่อสร้างนี้อย่างรวดเร็วเนื่องจากรอมานานแล้ว หากบทสรุปออกมาว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ตนเองก็ยอม
ทางด้านนายจุมพฏ เจตจันทร์ ธรรมาภิบาลจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า เบื้องต้นธรรมาภิบาลจังหวัดชัยนาท ได้ทำการประสานไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท เพื่อหาข้อมูลและรายละเอียดในเรื่องนี้ และเบื้องต้นทราบว่าขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ที่กรมที่ดินของส่วนกลาง ทั้งนี้ก็จะดำเนินการสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดให้มาทำการพิสูจน์ให้ชัดเจนว่าเป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์หรือไม่