ชลบุรี-ที่ดินสัตหีบ ระบุชัด BIKE LANE ผ่านเข้าพื้นที่ประชาชนจริง ผวจ.เรียกพบชี้แจงด่วน
ภาพ/ข่าว:นิราช ทิพย์ศรี
จากกรณี ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของที่ดิน และผู้ครอบครองที่ดินเขตติดต่อกับ โครงการสวนป่าสิริเจริญวรรษ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ม.7 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รวมถึงนักกีฬา นักปั่นจักรยานจำนวนมาก ที่ได้ร้องเรียนผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจส่วนกลางว่า BIKE LANE ที่จังหวัดชลบุรี ในยุคของ นายคมสัน เอกชัย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ปี พ.ศ.2558 ได้รับงบประมาณจาก กรมพลศึกษา ในการจัดสร้างเส้นทางจักรยานรอบสวนป่าสิริเจริญวรรษ จำนวน 50 ล้านบาท ระยะทาง 20 กิโลเมตร โดยทางจังหวัดได้มอบหมายให้ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี เป็นหน่วยงานรับผิดชอบจัดซื้อ จัดจ้างโครงการนี้ ด้วยวิธีประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ ปรากฏว่า บริษัท บางแสนมหานคร จำกัดชนะการประกวด วงเงิน 47,750,000 บาท จึงได้ว่าจ้างตามสัญญาจ้างเลขที่ 13/2558 โดย บริษัทฯ เริ่มงานเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2558 สิ้นสุดสัญญาจ้างในวันที่ 18 กันยายน 2559 แต่ได้รับการขยายเวลาออกไปอีก 180 วัน เพื่อปรับปรุงแบบจากเส้นทางเดิม 20 กม. ทำได้เพียง 17.80 กม.เท่านั้น จึงสิ้นสุดสัญญาจ้างเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 ซึ่งทาง บริษัทฯ ได้มีการส่งมอบงาน และพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญาค้ำประกันงาน 2 ปี แต่ก็ยังมีปัญหาที่ทางจังหวัด ไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ดูแลให้กับโครงการสวนป่าสิริเจริญวรรษ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 จังหวัดชลบุรี ได้ เนื่องจากถนนถูกน้ำเซาะบางช่วงชำรุด อาจเกิดอันตรายต่อนักปั่นจักรยานได้ ขณะนี้ได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ โดยขออนุมัติเงินพัฒนาจังหวัดชลบุรี มาดำเนินการซ่อมทำ จำนวน 16 ล้านบาท เมื่อซ่อมทำเส้นทางแล้ว จึงจะส่งมอบให้กับสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ชลบุรี ดำเนินการต่อไป และเปิดให้ประชาชนใช้เส้นทางได้ตามปกติ
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจส่วนกลาง รายงานความคืบหน้าในเรื่องนี้ว่าวันนี้ ทางด้าน นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้เรียกตัว นายสุนทร มูเนาวาเราะ นายอำเภอสัตหีบ นายประพันธ์ศักดิ์ ขวัญศรี นายช่างรังวัดชำนาญการ สำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาสัตหีบ และผู้เกี่ยวข้อง ในฐานะเจ้าของพื้นที่เข้าไปชี้แจงและให้ข้อมูลความเป็นมา ที่แท้จริงของโครงการไบค์เลนว่า สาเหตุเกิดจากความเดือดร้อนเรื่องอะไร ที่ทำให้ประชาชนออกมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน และโครงการดังกล่าว มีการบุกรุกเข้าไปในพื้นที่เอกสารสิทธิ์ของประชาชนจริงหรือไม่ และมีจำนวนเท่าใดและที่สำคัญ ก่อนที่จะมีการก่อสร้างไบค์เลนต้องมีการสำรวจเส้นทางก่อน หน่วยงานในพื้นที่รับทราบเรื่องนี้แล้วมีการแจ้งให้ประชาชน ที่มีที่ดินใกล้เคียงหรือเขตติดต่อกับสวนป่าได้รับทราบหรือไม่ เพื่อให้มีการท้วงติง หรือคัดค้านการสร้างเส้นทางที่บุกรุกเข้าใปในพื้นที่ของตัวเอง
ผู้สื่อข่าวได้ขอพบ นายประพันธ์ศักดิ์ ขวัญศรี นายช่างรังวัดชำนาญการ สำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาสัตหีบ เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงในเรื่องโครงการไบค์เลน บุกรุกเข้าไปในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ และที่ดินครอบครองของประชาชนจำนวนมากจริงหรือไม่ ซึ่งทางด้าน นายประพันธ์ศักดิ์ ได้นำแผนที่ผังที่ดินแปลงดังกล่าวมาให้ดูและยินยันว่า เส้นทางไบด์เลนที่สร้างนั้นบุกรุกเข้าไปในที่ดินเอกสารสิทธิ์ของประชาชนจริง และหลายแปลงที่ได้รับความเดือดร้อน ส่วนกรณีที่จะเข้าพื้นที่ไปตรวจสอบกรณีเร่งด่วนนั้น เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วนและมีความสำคัญ ประชาชนให้ความสนใจในเรื่องนี้ และเกี่ยวกับหน่วยงานของรัฐ จึงต้องรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ สั่งการให้ไปดำเนินการตรวจสอบกรณีเร่งด่วน จึงจะสามารถดำเนินการได้ ในเบื้องต้นจากแผนฝังที่ดินสามารถยืนยันได้ว่า เส้นทางไบด์เลน ผ่าเข้าไปในที่ดินเอกสารสิทธิ์ของประชาชนจริง