อยุธยา-ผู้ว่าฯ ลงติดตามสถานการณ์น้ำและเยี่ยมให้กำลังผู้ประสบภัยในพื้นที่ลุ่มต่ำ อ.บางบาล
ภาพ/ข่าว:นราเอก ตันศิริ / นพดล บำเพ็ญสัตย์
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 16 ตุลาคม 2566 ที่ วัดอินทราราม ตำบลวัดตะกู อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นพ.ยุทธนา วรรณโพธิ์กลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายกฤษณ์ แก้วทองหลาง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ ได้พบปะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ติดวัด ซึ่งถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ และมอบน้ำดื่ม ยาสามัญประจำบ้าน ยาแก้น้ำกัดเท้า เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้กับพี่น้องประชาชน และเยี่ยมเยียนให้กำลังใจเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาลจากโรงพยาบาลบางบาล ที่จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่น้ำท่วมมาดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยมี นายรณกร เผ่าวิจารณ์ นายอำเภอบางบาล รายงานสถานการณ์การน้ำในพื้นที่ อำเภอบางบาล
จากนั้น ได้เดินทางต่อไปยัง ศูนย์เฝ้าระวังภัยพิบัติ ที่ตั้งอยู่ริมถนนแนวคันกั้นน้ำ ตำบลวัดตะกู อำเภอบางบาล เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกำนันผู้ใหญ่บ้าน ที่จัดตั้งศูนย์ฯ คอยช่วยเหลือประสานงาน ให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งภายในชุมชนอยู่นอกคั้นกั้นน้ำติดกับแม่น้ำน้อย ได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งท่วมสูงในชุมชน ต้องนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์มาจอดด้านนอก ซึ่งมีการจัดเฝ้าเวรยามเพื่อป้องกันทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อมาเยี่ยมให้กำลังใจ พี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่นอกคันกั้นน้ำ ติดกับแม่น้ำน้อย ซึ่งได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมใต้ถุนบ้าน ขณะนี้น้ำมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น หลังจากเขื่อนเจ้าพระยามีการระบายน้ำในอัตรา 1,800 ลบ.ม./วินาที แต่เมื่อช่วงบ่าย ได้รับแจ้งจากกรมชลประทาน ว่าจะมีการลดการระบายน้ำ ตั้งแต่บ่ายสามโมงของวันนี้ จะลดลงไป 150 ลบ.ม./วินาที โดยคาดว่าน้ำจะลดลงไปประมาณ 20 – 30 เซนติเมตร ซึ่งแต่ละพื้นที่มีการจัดเจ้าหน้าที่ของท้องถิ่นเข้าให้การช่วยเหลือมาโดยตลอดตั้งแต่แรก แต่จะเป็นห่วงในส่วนของกลุ่มเปราะบางเป็นพิเศษ คนไหนที่ต้องเคลื่อนย้ายออกมาพักพิงในสถานที่ที่ทางอำเภอ ท้องถิ่น จัดรองรับไว้ให้ โดยมีทีมแพทย์จากสาธารณสุขจังหวัด ประสานโรงพยาบาลในพื้นที่ทุกอำเภอ เตรียมความพร้อมออกมาดูแลประชาชน ทั้งยารักษาโรค ยาสามัญประจำบ้าน รวมไปถึงยาทาแก้น้ำกัดเท้า รวมถึงจัดทีมแพทย์เคลื่อนที่เข้าไปดูแลผู้ป่วยที่ออกมาไม่ได้ ก็จะไปดูแลถึงบ้าน นอกจากนี้ ได้จัดหน่วยแพทย์แผนไทย คลายทุกข์ประชาชน ให้บริการทางการแพทย์แผนไทย ในการตรวจรักษาโรค แจกยาตำราหลวง ตลอดจนทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต ( MCATT). ให้บริการคัดกรองและให้คำปรึกษาแก่ประชาชน
ซึ่งตอนนี้ได้มีการเปิดระบายน้ำเข้าทุ่งแล้วบางส่วน เพราะในส่วนนี้ต้องมีการประชุมร่วมกันระหว่างประชาชนในพื้นที่ ทางชลประทาน สทนช.จะต้องมาประชุมร่วมกันว่าจะปล่อยในสัดส่วนเท่าไหร่ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชนในภาพรวม ส่วนในพื้นที่น้ำท่วม ทุกอำเภอมีการกำชับในเรื่องของการสื่อสารแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน และให้องค์กรปกคลองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แบ่งพื้นที่ความรับผิดชอบ ออกไปดูแลพี่น้องประชาชน และต้องให้เบอร์โทรติดต่อกับพี่น้องประชาชนทุกบ้าน ประสานได้ทันทีในกรณีจะอพยพ เคลื่อนย้าย หรือสามารถโทรขอความช่วยเหลือได้ทันที