ประจวบคีรีขันธ์-เณรโวยพระป่วน!อ้างเป็นคณะสภาประชาชนถือสิทธิ์ยึดครองสถานปฏิบัติธรรม
ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ
วันที่ 10 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟสบุครายหนึ่งใช้ชื่อว่า “พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนว่า” โพสข้อความขอให้สื่อโซเชียลช่วยด้วยโดยมีข้อความว่า “ขอความเมตตากรุณาช่วยผมสองรูปและป้าหน่อง อายุ 60 ปี ด้วยครับ ตอนนี้อยู่กันแค่นี้ขอวอนทุกคนครับ” ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อสอบถามเหตุการณ์ตามคลิปทราบว่า สถานที่ปฏิบัติธรรมดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบฯ ติดกับถนนเลียบชายทะเล พบว่ามีสามเณรจำนวนสองรูปอาศัยอยู่ตามลำพังโดยมีโยมอุปัฏฐากสองคนคอยดูแล จึงเข้าสอบถามถึงเหตุการณ์ตามคลิป ทราบชื่อ สามเณรนพรัตน์ อายุ18 ปี เป็นผู้ลงคลิปดังกล่าว โดยสามเณรทั้งสองรูปเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า มีพระภิกษุจำนวนสองรูปเข้ามาจำวัดบริเวณด้านหน้าสถานปฏิบัติธรรม โดยอ้างว่าได้รับมอบหมายจากพระอาจารย์รูปหนึ่งให้เข้ามาดูแลศาสนสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้แทน และสั่งสามเณรทั้งสองรูปให้มาขึ้นตรงกับท่าน หากต้องการอาศัยจำวัดต่อ แต่สามเณรทั้งสองไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพระอาจารย์ผู้ดูแลสถานที่แห่งนี้ (พระอาจารย์แมน) ฝากให้สามเณรทั้งสองและโยมอุปัฏฐากอีกสองท่านช่วยดูแลสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้แทน ก่อนจะเดินทางไปแสวงบุญและเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศเป็นเวลาหลายวัน โดยสามเณรขอให้พระอาจารย์ทั้งสองรูปกลับไปจำวัดที่อื่นก่อน หากต้องการอาศัยจำวัดที่นี่ต้องได้รับอนุญาตจากพระอาจารย์แมนเสียก่อนเนื่องจากยังมีขอพิพาทในที่ดินระหว่างกันอยู่ แต่พระทั้งสองรูปไม่รับฟัง โดยพระอาจารย์รูปหนึ่งเริ่มออกอาการ ก่อนจะหันกลับไปรื้อทำลายสิ่งของหักกล้องวงจรปิดที่ติดไว้บริเวณเสา พร้อมดึงกรอบรูปตกหักเสียหาย จนเป็นเหตุให้สามเณรโพสข้อความขอให้สื่อโซเชี่ยนช่วยด้วย ก่อนจะให้โยมโทรประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาดูแลเพราะหวั่นเกิดเหตุร้ายแก่ตน
จากคลิปจะเห็นว่ามีพระภิกษุจำนวนสองรูปนั่งอยู่ภายในสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าว โดยพระอีกรูปหนึ่งอ้างว่า ตนเป็นคณะสภาประชาชนแห่งชาติ โดยเป็นการปกครองประชาชนและเพื่อประชาชน โดยเป็นของประชาชนตามกล่าว อ้างว่าได้รับอนุญาตจากพระอาจารย์รูปหนึ่งให้มารักษาการดูแลสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้แทน เนื่องจากพระอาจารย์ดังกล่าวท่านยังมีสิทธิ์ครอบครองสถานที่แห่งนี้ จนกว่าข้อพิพาทในที่ดินจะถึงที่สุดตามอ้าง จากนั้นจึงเรียกสามเณรและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาพูดคุยกัน ขณะที่สามเณรรูปหนึ่งได้ถ่ายวีดีโอพร้อมบรรยายในคลิปประมาณว่า พระทั้งสองรูปเข้ามาป่วนทำลายทรัพย์สินโดยการดึงรูปภาพ และกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ภายในสถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ ขณะที่พระอาจารย์แมนผู้ดูแลเดินทางไปต่างประเทศยังไม่กลับ ซึ่งจากคลิปบางช่วงจะเห็นว่ามีการถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องระหว่างพระกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังรับแจ้งให้เข้ามาระงับเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมฝ่ายปกครองพยายามขอดูใบสุทธิประจำตัว แต่ทั้งสองไม่ยินยอม โดยอ้างว่าได้แจ้งเจ้าคณะภาคก่อนเข้าพื้นที่เรียบร้อยแล้ว
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีชาวบ้านบางรายต่างวิจารณ์ถึงการมาจำวัดในยามค่ำคืนโดยเจ้าของสถานที่ไม่อนุญาต ทั้งการปฏิบัติตนของพระทั้งสองรูปเหมาะสมหรือไม่ และหากเป็นปัญหาพิพาทในที่ดินระหว่างพระอาจารย์สองรูปจริง ก็ควรไปสู้คดีความเพื่อแสดงสิทธิ์ครอบครองที่ดินในชั้นศาล ส่วนปัญหาใครจะเป็นผู้ครอบครองสิทธิ์ตามกฎหมายในที่ดินดังกล่าว เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรออกมาตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกัน เพื่อมิให้เกิดข้อพิพาทระหว่างกันอีกต่อไป