ประจวบคีรีขันธ์-สสจ. คุมเข้มจำหน่ายบุหรี่เด็กต่ำกว่า 18 ปี
ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ
วันที่ 16 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องโยธิน โรงแรมหาดทอง อำเภอเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการทำแผน และให้ความรู้ด้านกฎหมาย พรบ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2561 และ พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 โดยมีนางสมเนตร ทองอยู่ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดประชุม
นางสมเนตร ทองอยู่ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้มีการดำเนินงานควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตามแนวทางแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติ แผนปฏิบัติการด้านการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ.2565-2570 และได้มีการกำหนดมาตรการในการดำเนินงาน จำนวน 5 มาตรการ ได้แก่ 1.ขับเคลื่อนกลไกการดำเนินงานควบคุมยาสูบ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับจังหวัด 2.การบังคับใช้กฎหมาย และการดำเนินการสร้างสิ่งแวดล้อมปลอดบุหรี่สุรา 3.การป้องกันนักสูบนักดื่มหน้าใหม่ 4.การบำบัดรักษา/การช่วยเลิกสูบเลิกดื่ม 5.สร้างมาตรการทำให้ชุมชนปลอดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้วยการบังคับใช้กฎหมาย คือ พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 พรบ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2561 รวมถึงประกาศที่เกี่ยวข้อง
ดังนั้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงได้จัดกิจกรรมประชุมเชิงปฏิบัติการทำแผน และให้ความรู้ด้านกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติควบคุมยาสูบ และพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้แก่ ทีมปฏิบัติการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผลิตภัณฑ์ยาสูบ(ATCU) ซึ่งประกอบด้วยนายอำเภอเป็นประธานคณะทำงาน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร สรรพสามิต ปลัดอำเภอ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล หัวหน้ากองสาธารณสุของค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน เป็นคณะทำงาน สาธารณสุขอำเภอเป็นคณะทำงานและเลขานุการ รวมถึงพนักงานเจ้าหน้าที่ และเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวม 8 อำเภอ เพื่อสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ เป็นการพัฒนาการดำเนินการควบคุมการบริโภคยาสูบและแอลกอฮอล์ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องมีประสิทธิภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในการจัดประชุมเสวนาในครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 พ.ย.66 โดยได้มีการมุ่งเน้นเกี่ยวกับการห้ามจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสูบ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้กับเด็กเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ยาสูบ หรือ ผลิตภัณฑ์อื่นใดที่มีสารนิโคตินเป็นส่วนประกอบ ซึ่งจะทำให้เด็กเยาวชนมีโอกาสติดสารนิโคตินสูงกว่าผู้ใหญ่ ห้ามผู้ใดใช้ จ้าง วาน หรือยินยอมให้บุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ขายหรือให้ ซึ่งผลิตภัณฑ์ยาสูบ ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ