ประจวบคีรีขันธ์-แม่ค้าเซ็งถูกคลื่นทะเลสูง 4 เมตรพัดถล่ม ตั้งร้านไม่ได้ เดือดร้อนขาดรายได้กันถ้วนหน้า
ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ
เมื่อเวลา 12:00 น.วันที่ 17 พฤศจิกายน 66 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์เหตุการณ์ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังจากที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีประกาศ เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย มีผลกระทบจนถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน 66 ซึ่งได้รับอิทธิพลความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย และส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยสถานการณ์คลื่นลมในทะเลบริเวณอ่าวประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ มีคลื่นสูงประมาณ 4 เมตร กำลังพัดถล่มบริเวณชายฝั่ง ส่งผลกระทบทำให้น้ำทะเลทะลักขึ้นมาท่วมขังบริเวณถนนเลียบชายหาดทะเลอ่าวประจวบตลอดแนวระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ตั้งแต่หน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปจนถึงรั้วกำแพงกองบิน 5 ส่งผลกระทบทำให้ถนนเลียบชายหาดทะเลอ่าวประจวบฯ รถไม่สามารถสัญจรได้ และพ่อค้าแม่ค้าที่เดินทางมาจัดเตรียมสถานที่เพื่อตั้งร้านค้าจำหน่ายสินค้าบริเวณถนนคนเดินชื่อดัง ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกวันศุกร์และวันเสาร์ไม่สามารถตั้งร้านค้าได้ โดยพบว่าพ่อค้าแม่ค้าที่เดินทางมาถึงได้แต่กองเต็นท์และสัมภาระไว้ข้างถนนแล้วยืนมองตากันปริบๆด้วยความเซ็งที่ไม่สามารถตั้งร้านค้าได้เหมือนเช่นเดิม ซึ่งทำให้วันนี้ต้องขาดรายได้ นอกจากนี้เรือประมงของชาวบ้านต้องงดออกทะเลหาปลานำเรือเข้ามาหลบคลื่นลมบริเวณหลังเขาภายในอ่าวประจวบฯ
ผู้ประกอบการร้านค้าจำหน่ายเสื้อผ้าเกาหลีรายหนึ่ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองติดตามสถานการณ์สภาพภูมิอากาศแต่ก็ไม่คิดว่าจะเจอน้ำทะเลซัดท่วมสถานที่จำหน่ายสินค้า ซึ่งตนเองอยากให้ผู้จัดตลาด หรือเทศบาล แก้ไขปัญหาให้กับ พ่อค้าแม่ค้าโดยหาสถานที่ให้พ่อค้าแม่ค้าได้ตั้งร้านค้าจำหน่ายสินค้าในจุดอื่นแทนจุดที่น้ำท่วมขัง เพราะได้ขายแค่อาทิตย์ละ 2 ครั้งเอง และบางรายเดินทางมาไกล อีกทั้งหากไม่ได้ตั้งร้านค้าก็จะทำให้วันนี้ต้องขาดรายได้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นโดยมีน้ำทะเลสูง 4 เมตร ซัดเข้าบริเวณชายฝั่งทำให้น้ำทะเลแตกกระจายกลายเป็นภาพศิลปะหรือฉากที่มีความสวยงามในการถ่ายภาพของหมู่นักถ่ายรูปมืออาชีพทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่ต่างทยอยเดินทางมาเก็บภาพน้ำทะเลที่ซัดกระเซ็นสูงเป็นที่ระลึก นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวที่มายืนดูและเซลฟี่ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกด้วยเช่นกัน รวมไปถึงนักเรียนโรงเรียนที่อยู่ติดกับชายหาดต่างออกมายืนเกาะรั้วประตูโรงเรียนยืนมองน้ำทะเลที่ท่วมชายหาดและคลื่นทะเลที่ซัดสูงอย่างตื่นตาตื่นใจอีกด้วย