ราชบุรี-ชื่นชม! น้องอิงอิง 10 ขวบ ยอดกตัญญู ออกรับจ้างทำทุกอย่างขอแค่ได้เรียนหนังสือ

ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤภัย (เต้)

          ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 42 ชุมชนท่าแจ่ เขตเทศบาลเมืองราชบุรี จ.ราชบุรี เพื่อไปพบกับ ด.ญ.กฤตาภรณ์ หรือ น้องอิงอิง เมฆพยับ อายุ 10 ปี ที่ใช้ชีวิตไม่เหมือนเด็กในรุ่นเดียวกัน โดยเช้าทุกวันน้องล้างจาน กวาด ถูบ้าน หลังเลิกเรียนน้องจะกลับมาช่วยคุณย่า เตรียมผลไม้และต้มถั่วไปขายในช่วงเย็น ส่วนช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ น้องจะออกรับจ้างทำงานทุกอย่าง ทั้งล้างจาน ทำความสะอาดบ้าน หรืองานรับจ้างต่างๆ เพื่อหาเงินช่วยครอบครัว และส่งตัวเองเรียนหนังสือ โดยน้องอาศัยอยู่กับพ่อและย่า ซึ่งพ่อของน้องมีโรคประจำตัวมักจะทำงานที่ใช้แรงไม่ได้ จึงไม่มีรายได้ที่แน่นอน เสาหลักของครอบครัวจึงตกมาอยู่ที่ย่า หรือ นางกรรณิกา หรือ คุณย่าน้อง วงศ์แสนใจ อายุ 60 ปี ที่มีอาชีพเปิดขายผลไม้อยู่ริมถนนใต้สะพานศิริลักษณ์ จุดกลับรถท่าเสา มานานกว่า 7 ปี แต่แล้วชีวิตได้แปรผัน ได้มีการก่อสร้างเส้นทางดังกล่าว และไม่ให้เปิดร้านขายผลไม้ ทำให้คุณย่าน้อง ไม่มีรายได้ส่ง น้องอิงอิง เรียนหนังสือ และจะให้น้องดรอปเรียนไปก่อน ทำให้คุณครูของน้องและชาวบ้านที่ทราบเรื่อง ประสานผู้สื่อข่าวเข้าช่วยเหลือ
          คุณย่าน้อง ซึ่งเปรียบเหมือนเป็นคุณแม่ของ น้องอิงอิง เล่าว่า อดีตเธอเคยเป็นพนักงานโรงงานและเป็นอสม.ดีเด่นประจำ อ.เมืองราชบุรี หลังน้องอิงอิงเกิด คุณแม่และพ่อของน้องได้แยกทางกัน ทำให้เธอต้องรับน้องมาเลี้ยงตั้งแต่เกิด และเลิกอาชีพอื่นมาขายผลไม้อยู่บริเวณใต้สะพานกลับรถริมแม่น้ำท่าเสาใกล้บ้านพัก จนเมื่อ 2 ปีที่แล้วได้มีการก่อสร้างถนนใต้สะพานและวางแท่นปูนปิดกั้น ทำให้เธอสามารถเปิดร้านขายผลไม้ได้ จนเธอเริ่มขาดรายได้หาเลี้ยงครอบครัวและส่งน้องเรียนหนังสือต่อไป จนเธอได้ปรึกษากับน้องว่า จะให้น้องหยุดเรียนชั่วคราวก่อน แต่น้องได้ก้มกราบเธอขอให้เธอได้เรียนต่อ และน้องจะหาทำงานเรียนหนังสือด้วยตัวเอง ซึ่งขนาดนั้นน้องอายุแค่ 8 ขวบ น้องได้ขอเธออออกไปรับจ้างล้างจาน และทำความสะอาดบ้านในระแวกใกล้บ้าน ในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เพื่อนำเงินมาให้เธอใช้เลี้ยงครอบครัว และเก็บไว้จ่ายเงินให้ตัวน้องเองไปเรียนหนังสือ จนมีชาวบ้านที่สงสารเธอและน้อง ได้มาแนะนำให้เธอแพคผลไม้และถั่วต้มไปขายตามร้านอาหาร เธอจึงทดลองทำขายตามร้านอาหารต่างๆในตลาด จนขายได้บ้างไม่ได้บ้าง จนน้องทราบเรื่องก็ขอเธอไปช่วยขาย แต่เธอไม่ยอมให้น้องไปทำ เพราะกลัวคนจะมองน้องในแง่ไม่ดี และกลัวชาวบ้านว่าเอาเด็กมาทรมาน และใช้แรงงานเด็ก คุณย่าน้อง เล่าต่อว่า แต่สุดท้ายเธอก็ต้องยอมให้น้องไปช่วยขาย เพราะทนคำรบเร้าของร้องไม่ไหว แต่เธอก็ได้ตั้งขอแม้กับน้องว่า ให้แค่ช่วงหกโมงเย็นจนสองทุ่มครึ่งเท่านั้น เพราะต้องการให้น้องผักผ่อนไปเรียนหนังสือ จนล่าสุดเคราะห์ซ้ำกรรมซัด รถจยย.แค่คันเดียวในบ้านของเธอเสีย ทำให้เธอต้องนำเงินทั้งหมดที่มีไปซ่อม จนขาดสนเงินทองที่จะให้น้องไปโรงเรียน จึงเธอมีความคิดจะให้น้องหยุดเรียนชั่วคราวอีกครั้ง แต่ชาวบ้านก็ค่อยมาให้กำลังใจและช่วยเหลือ จนเธอและน้องรู้สึกเกรงใจ ซึ่งน้องเป็นเด็กที่เรียนเก่งและผลการเรียนดี ทั้งน้องยังเป็นนักคนตรีของทางโรงเรียนอีกด้วย ซึ่งน้องเคยถามเธอว่า “ทำไมเราไม่มีบ้านไม่มีเงินเหมือนคนอื่น” จนเธอต้องคอยปลอมใจและบอกน้องเสมอว่า “อย่าน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะผลบุญทุกคนไม่เท่ากัน แต่ถ้าเราทำความดี สักวันต้องมีคนเห็นและมาช่วยเหลือเรา” ทำให้น้องเข้าใจและไม่เคยคิดน้อยเนื้อต่ำใจอะไรอีก ส่วนที่พักของเธอและน้อง ก็เป็นบ้านของญาติฝ่ายสามีของเธอ ซึ่งให้เธออาศัยอยู่ได้ชั่วคราว และไม่ทราบว่าจะให้อยู่ได้อีกนานแค่ไหน ภายในห้องก็มีเครื่องใช้ไฟฟ้าเพียงพัดลมและหม้อหุงข้าว ซึ่งเธออยากได้รับการช่วยเหลือเรื่องที่อยู่ และทุนการศึกษาของน้อง เพราะเธอห่วงอนาคตของน้อง ซึ่งปีนี้เธอก็เริ่มเจ็บป่วยกลัวจะจากน้องไปและไม่มีใครดูแลน้อง
           ขณะที่ น้องอิงอิง บอกว่า น้องชอบขอย่าไปช่วยขายของ เพราะห่วงคุณย่าและคุณย่าปวดขาขึ้นลงรถจยย.ลำบาก แต่สิ่งที่สำคัญคือคุณย่าไม่มีเงิน น้องจึงอยากช่วยเหลือคุณย่า หาเงินมาซื้ออาหารกิน และนำเงินไปเรียนหนังสือ และสาเหตุสำคัญคือได้เงิน เพราะถ้าคุณย่าไม่มีรายได้น้องอาจจะไม่ได้ไปโรงเรียนหนังสือ ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า สิ่งที่น้องอยากได้ทุกสุดคืออะไร น้องบอกว่า อยากเรียนหนังสือให้จบสูงที่สุด และอยากเป็นครูสอนหนังสือ จะได้มีเงินเลี้ยงดูคุณย่ากับคุณพ่อที่ป่วยให้สบายเหมือนคนอื่นเขา
          สำหรับท่านใดอยากช่วยเหลือหรือสนับสนุนทุกการศึกษา น้องอิงอิง ยอดกตัญญู สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 095- 1945225 (คุณย่าน้อง) หรือช่วยสนับสนุนทุกการศึกษาของน้อง ได้ที่เลขบัญชี 1023380451 ชื่อบัญชี นางกรรณิกา วงศ์แสนใจ ธ.กสิกรไทย