ชลบุรี-ตร.พัทยา ประชุมไล่กล้องวงจรปิดสรุปคดีหนุ่มอินเดียฆ่าหญิงไทย ก่อนขี่รถหนีกระโดดแม่น้ำบางปะกงดับ

ภาพ/ข่าว:นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี

          จากกรณี เจ้าหน้าที่ ตร. สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุ มีผู้หญิงถูกทำร้ายจนเสียชีวิตภายในห้องพัก ของโรงแรมแห่งหนึ่งย่านพัทยากลางซอย 12 หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมสูง 7 ชั้น ตรวจสอบภายในห้องพัก 313 ชั้น 3 พบศพหญิงไทยทราบชื่อ นางสาว จิราภา วงค์พุทธคำ อายุ 25 ปี สภาพศพนอนหงายอยู่ข้างเตียงนอน สวมเสื้อคอกลมสีครีมคลุมทับด้วยเสื้อคลุมสีดำ กระโปรงขาสั้นสีดำ มีเชือกไนลอน สีดำ-ขาว รัดอยู่บริเวณลำคอ โดยฆาตกรโหดชาวอินเดียรายนี้ ทราบชื่อนายโซนิ นาเรนดรา ( MR.Soni Narendra ) อายุ 37 ปี สัญชาติอินเดีย โดยมีการรายงานล่าสุดช่วงเวลา ประมาณ 01.00 น ของคืนเกิดเหตุ ตำรวจสืบทราบว่า นายโซนิ ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า พีซีเอ็ก สีดำ ทะเบียน 4 กฆ 1092 ชลบุรี มุ่งหน้าไปยัง จ.ฉะเชิงเทรา แล้วไปจอดรถอยู่บริเวณกลางสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ถนนบาง-ตราด ก่อนจะปีนขึ้นไปนั่งบนราวสะพาน พอตำรวจสายตรวจ สภ.บางปะกง ไปตรวจสอบ ปรากฏว่า นายโซนิ เห็นตำรวจ จึงได้กระโดดลงแม่น้ำบางปะกงจมน้ำหายไป
          เกี่ยวกับความคืบหน้า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.ฯ พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันธ์ รอง.ผกก.สส.ฯ ได้ประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน โดยได้สรุปผลคดีดังกล่าว ตั้งแต่เกิดเหตุทั้งหมด พร้อมด้วยภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อเป็นหลักฐาน โดยเริ่มตั้งแต่ นายโซนิ ผู้ก่อเหตุ และนางสาว จิราภา ผู้ตายเคยคบหาเป็นแฟนกันได้ประมาณ 1 ปี ต่อมามีเหตุทะเลาะกัน โดยฝ่าย นางสาว จิราภา ขอบอกเลิก และคบหากับแฟนใหม่เป็นคนจีน นายโซนิ จึงเกิดความหึงหวงและเมื่อวันที่ 18 พ.ย.66 ได้เดินทางมาประเทศไทย เพื่อตกลงเรื่องปัญหาความรักระหว่างผู้ตาย ตลอดจนขอทรัพย์สิน เช่น สร้อยคอทองคำที่เคยให้ไว้คืนจาก นางสาว จิราภา
          เมื่อวันที่ 20 พ.ย.66 เวลาประมาณ 12.41 น. นายโซนิ ได้มาเช่าห้องหมายเลข 313 ของโรงแรมเซนทารา โนวา พัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมาพักเพียงคนเดียว ต่อมาวันเดียวกันเวลาประมาณ 19.11 น. นางสาว จิราภา เดินทางมาที่โรงแรม และไปยังห้องพักเลขที่ 313 ของผู้ต้องหา สักพักทั้งคู่วิ่งออกมาจากห้องพักและมีปากเสียงกันมีการฉุดกระชากกัน จากนั้นเข้าไปยังห้องพักอีกครั้ง แล้วเงียบไปจนกระทั่งเวลาประมาณ 19.57 น. ผู้ต้องหาได้ออกจากห้อง 313 เดินลงมายังลานจอดรถ แล้วขี่รถจักรยานยนต์ ออกจากโรงแรมไปเพียงคนเดียว ต่อมาเวลาประมาณ 23.50 น. พนักงานของโรงแรมได้ขึ้นไปตรวจสอบที่ห้อง 313 เนื่องจากมีญาติของผู้ตายแจ้งว่า ไม่สามารถติดต่อกับผู้ตายได้ เมื่อพนักงานของโรงแรมเข้าไปในห้องพบศพผู้ตาย นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นข้างเตียงนอนภายในห้อง 313 จึงโทรฯ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด มีเพียงผู้ต้องหาที่เข้าและออก ห้อง 313 เท่านั้น จากการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน น่าเชื่อว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ย.66 ระหว่างเวลาประมาณ 19.11 – 19.57 น. ขณะที่ผู้ต้องหาและผู้ตายอยู่ด้วยกัน ภายในห้อง 313 โรงแรมเซนทารา โนวา พัทยา ที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้ฆ่าผู้ตายด้วยการใช้เชือกผ้าสีเขียวเข้มรัดที่คอของผู้ตาย จนขาดอากาศหายใจเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย แล้วหลบหนีไป ภายหลังจากก่อเหตุแล้ว ทางญาติของผู้ตายสามารถติดต่อพูดคุยกับผู้ต้องหาผ่านทางโทรศัพท์ได้ (มีคลิป) ทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปอยู่ที่สะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง สังเกตุผู้ต้องหามีอาการคล้ายคนเมาสุราและรับว่าตนได้ก่อเหตุฆ่าผู้ตายในคดีนี้จริง และบอกว่าจะฆ่าตัวตายโดยการกระโดดลงน้ำ เพื่อให้ตนเองตายตามผู้ตายไป จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะกง เดินทางไปตรวจสอบที่สะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง (พื้นที่รับผิดชอบ สภ.บางปะกง) พบผู้ต้องหายืนอยู่ที่ริมสะพานดังกล่าว เมื่อผู้ต้องหาเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้กระโดดลงจากสะพานลงไปในแม่น้ำบางปะกง ซึ่งสะพานมีความสูงจากแม่น้ำประมาณ 20 เมตร จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยฯ ทำการช่วยเหลือ ตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ๊กซ์ สีดำน้ำตาล ทะเบียน 4กฆ -1092 ชลบุรี ซึ่งเป็นยานพาหนะคันเดียวกับที่ผู้ต้องหาใช้หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ จึงเชื่อได้ว่าชายที่กระโดดลงน้ำดังกล่าว คือผู้ต้องหาที่ได้ก่อเหตุในดคีนี้จริง
          ต่อมาวันนี้ (21 พ.ย.66) เวลา 07.50 น. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยบางปะกงว่า พบศพลักษณะคล้ายชาวอินเดีย จากการตรวจสอบพบว่ามีรูปพรรณสันฐานคล้ายกับชาวอินเดีย ที่กระโดดสะพานตามที่รับแจ้ง ซึ่งการแต่งกายตรงกับผู้ก่อเหตุฆาตกรรมในพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา ซึ่ง สภ.บางปะกง จะได้ดำเนินการสอบสวนชันสูตรพลิกศพ และประสานข้อมูลทางการสอบสวนมายัง สภ.เมืองพัทยา ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป