ประจวบคีรีขันธ์-ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยเหลือน้องข้าวหอมนักเรียน ป.5 บ้านถูกไฟไหม้วอดในเดือนเกิด

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ 

          วันที่ 21 พ.ย.66 ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ในฐานะรักษาการนายกเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วยรองนายกเหล่ากาชาดจังหวัด นำเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และคณะผู้ใจบุญ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจ และมอบสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องอุปโภค-บริโภค ที่จำเป็นในการดำรงชีวิตประจำวัน ให้กับ เด็กหญิงกมลวรรณ เทียนนาค อายุ 11 ปี หรือน้องข้าวหอม นักเรียน ชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านคั่นกระได และนางพรนภัส ชูจิตร อายุ 50 ปี หลังเกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้ไฟไหม้บ้านพักอาศัย และสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านได้รับความเสียหายทั้งหมด เหลือเพียงเสื้อผ้าที่สวมใส่คนละ 1 ชุดเท่านั้น เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 121/5 หมู่ 3 บ้านคั่นนกระได ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 09.30 น.ของวันที่ 20 พฤศจิกายน 66 ที่ผ่านมา โดยมี นางสาวเฉลิมขวัญ ถือความสัตย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคั่นกระได พร้อมคณะครู และผู้นำหมู่บ้าน นำครอบครัวผู้ประสบภัย ร่วมให้การต้อนรับ
          โดยได้มอบสิ่งของเครื่องใช้เครื่องอุปโภคบริโภค ถุงยังชีพ อาทิ ไข่ไก่ ข้าวสารอาหารแห้ง กระทะ พัดลม ที่นอน หมอน มุ้ง เสื้อผ้า รองเท้า ชุดนักเรียน และสิ่งของเครื่องใช้อื่นๆ รวมไปถึงทุนการศึกษา และเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆสำหรับร่วมก่อสร้างบ้านหลังใหม่ รวมยอดเงินประมาณ 84,600 บาท ประกอบด้วย 1.อบต.อ่าวน้อย มอบเงินสร้างบ้าน 53,600 บาท พร้อมเครื่องนอน และน้ำดื่ม 2.กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลอ่าวน้อย มอบถุงยังชีพ ทุนการศึกษา 1,000 บาท 3.สภาองค์กรชุมชนตำบลอ่าวน้อย มอบเงินสร้างบ้าน 5,000 บาท 4.พระครูนิคมประชาภิรักษ์ เจ้าคณะตำบลเขต 1 วัดนิคมประชาสรรค์ มอบเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท 5.ร้านจำรัสพลาสติก พร้อมร้านอ๊อดเจริญยนต์ มอบอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า กระทะ พัดลม เครื่องอุปโภค-บริโภค เสื้อผ้า รองเท้าพละ พร้อมเงินช่วยเหลือจำนวน 7,000 บาท 6.ร้านเบบี้ทอยส์มอบเสื้อผ้า รองเท้ากีฬา 7.ร้านเจริญภัณฑ์เซ็นทรัลในตลาดสดเทศบาลเมือง มอบชุดนักเรียน-รองเท้า และชุดลูกเสือเนตรนารี 8.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ปภ.) มอบเครื่องนุ่งห่มและน้ำดื่ม 9.เหล่ากาชาดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มอบถุงยังชีพข้าวสารอาหารแห้งและเงินช่วยเหลือจำนวน 3,000 บาท 10.บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดประจวบฯ มอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภคและเงินช่วยเหลือจำนวน 1,000 บาท 11.สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบฯ(พม.) มอบถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภคข้าวสารอาหารแห้งพร้อมเงินช่วยเหลือ 3,000 บาท 12.กอ.รมน.จังหวัดประจวบฯ มอบถุงยังชีพ และเงินปอบขวัญสร้างกำลังใจให้เด็กนักเรียนจำนวนหนึ่ง 13.ผู้บริหารคณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านบึง พร้อมด้วยกองทุนธารน้ำใจเพื่อน้องอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง 14.ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคั่นกระได รองผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมด้วยครอบครัวครูน้ำทิพย์ ศิริวรรณ ครอบครัวครูอารีรัตน์ จงดี ครอบครัวเด็กชายชัยวัฒน์ บัวผ่อง และ นายภัทรดนัย สมศรี กำนันตำบลแสงอรุณ อำเภอทับสะแก ร่วมมอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 6000 บาท พร้อมถุงยังชีพเครื่องอุปโภค-บริโภค 15.จิตอาสา 904 มอบน้ำดื่ม เครื่องอุปโภค-บริโภค
          ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า หลังจากที่บ้านของน้องข้าวหอม นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านคั่นกระได ถูกไฟไหม้เมื่อวานนี้ หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาช่วยกันดับไฟ และในวันนี้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ และเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ใหญ่ใจบุญได้ร่วมกันลงมาช่วยเหลือด้วยการมอบสิ่งของเครื่องใช้เครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ทุนการศึกษา และ เงินช่วยเหลือสำหรับก่อสร้างบ้านหลังใหม่รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 70,000 บาท โดยจะให้ อบต.อ่าวน้อย เป็นจุดรวมน้ำใจสิ่งของบริจาค และ รวบรวมเงินจากภาคส่วนต่างๆรวมถึงผู้ใจบุญ เพื่อมาสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับน้องข้าวหอม และครอบครัว ได้มีที่อยู่อาศัยต่อไป โอกาสนี้จึงขอขอบคุณทุกภาคส่วนรวมถึงผู้ใจบุญที่ได้หยิบยื่นน้ำใจเข้ามาช่วยเหลือให้กับครอบครัวนี้
          เด็กหญิงกมลวรรณ หรือน้องข้าวหอม อายุ 11 ปี เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า วันเกิดเหตุตนเองไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนและมาทราบข่าวว่าบ้านถูกไฟไหม้ช่วงพักเที่ยง พอรู้ว่าบ้านถูกไฟไหม้รู้สึกตกใจมาก สิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัว เสื้อผ้า รองเท้า ชุดนักเรียน หนังสือเรียน ที่อยู่ในบ้านถูกไฟเผาไหม้จนหมดเกลี้ยง เหลือเพียงชุดนักเรียนที่ใส่ติดตัวไว้เท่านั้น โดยในช่วงระยะนี้ได้ไปพักอาศัยอยู่กับบ้านของป้าไปก่อน ตนเองรู้สึกดีใจที่หน่วยงานต่างๆและผู้ใจบุญได้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งตนเองอยากให้ผู้ใจบุญช่วยเหลือเกี่ยวกับอุปกรณ์การเรียน และสิ่งของเครื่องใช้ที่สำคัญ ส่วนการเดินทางไปโรงเรียนแม่จะขับรถพาไปส่งไม่ได้ปั่นจักรยานไปโรงเรียนเอง แต่จะปั่นจักรยานออกกำลังกายช่วงหลังจากกลับมาจากโรงเรียนเท่านั้น แต่ตอนนี้รถจักรยานถูกไฟเผาไปหมดแล้ว
          ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการที่ได้พูดคุยสอบถามความรู้สึกของน้องข้าวหอม วัย 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 หลังจากบ้านถูกไฟไหม้ยังอยู่ในอาการที่ตื่นตระหนกตกใจ เนื่องจากชุดนักเรียนและสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัว รวมไปถึงเงินที่ใช้ในชีวิตประจำวันของครอบครัวถูกไฟเผาไปจนหมดเกลี้ยง อีกทั้งตัวน้องข้าวหอมเองใกล้จะมีอายุครบ 12 ปี ในเดือนนี้ซึ่งตรงกับวันที่ 26 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันครบรอบวันเกิด แต่กลับมาเกิดเหตุบ้านถูกไฟไหม้เสียก่อน คงจะไม่ได้มีการจัดงานวันเกิดแต่อย่างใด นอกจากนี้จากการสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม พบว่าทุกสิ่งที่อยู่ภายในบ้านถูกไฟเผาไหม้ทั้งหมด ยกเว้นภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระราชินีพระพันปีหลวง และสมเด็จพระเทพฯ ที่อยู่ในอัลบั้มหนังสือพระราชกรณียกิจ เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่งไม่ถูกไฟไหม้ ถูกไฟเผาเพียงขอบรอบนอกของหนังสือเท่านั้น