ศรีสะเกษ-คืบหน้า..นศ.พยาบาลร่ำไห้ กยศ.ไม่อนุมัติกู้เงินแถมโดนขู่ ส.ส.เขต 2 เตรียมพบ รมว.คลังเร่งช่วยเหลือ
ภาพ/ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ น.ส.ปัทมวรรณ พันธ์อุ่น อายุ 19 ปี น.ส.สุดารัตน์ ทัพธานี อายุ 19 ปี น.ส.สุนิตา ตอรอโป นักศึกษาคณะพยาบาลจาก จ.ปัตตานี น.ส.นูรียา มามะกูตง จาก จ.นราธิวาส น.ส.นูรยันนะฮ์ ยูโซ๊ะ จาก จ.นราธิวาส และนายอาหามะ ซาร์ จาก จ.ยะลาเบตง ซึ่งทุกคนเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนาศรีสะเกษ ได้นำคณะนักศึกษาพยาบาล จำนวน 20 คนเข้าไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ เนื่องจากว่า นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 จำนวน 42 คน ที่ได้ยื่นเรื่องขอกู้เงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ไปนานหลายเดือนแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้รับการอนุมัติจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) แต่อย่างใด ทำให้นักศึกษาทุกคนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักมาก เพราะว่า ไม่มีเงินค่าใช้จ่ายในการครองชีพและค่าใช้จ่ายเป็นค่าเล่าเรียน ล่าสุดบรรดานักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ได้พากันเดินเรี่ยไรเงินกันจากเพื่อนนักศึกษา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายก รมต.และ รมว.กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา ต่อมาได้ถูกบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้บริหารระดับสูงของกองทุน กยศ.โทรศัพท์มาข่มขู่ให้ไปถอนเรื่องร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศรีสะเกษ และที่กระทรวงการคลัง กรุงเทพฯ โดยหากว่า นักศึกษาไปถอนเรื่องร้องทุกข์จะอนุมัติเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาให้ทันทีเป็นการแลกเปลี่ยน ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณตลาดสดเทศบาลกันทรารมย์ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ น.ส.ปัทมวรรณ พันธ์อุ่น อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนาศรีสะเกษ ได้เดินทางมาเยี่ยม นางสายใจ พันธุ์อุ่น 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 7 บ้านสิม ต.ดูน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแม่ที่กำลังทำการปั้นข้าวจี่ขายอยู่ในตลาด โดยนางสายใจ จะนำเอาข้าวเหนียวมาปั้นนำเอาไปใส่ในเบ้าพลาสติคเพื่อให้ข้าวเป็นรูปวงกลม จากนั้นนำเอาข้าวเหนียวลงไปชุบในไข่ แล้วนำเอาข้าวเหนียวไปจี่บนตะแกรงที่ตั้งอยู่บนเตาไฟ เพื่อทำเป็นข้าวจี่ขายในราคาก้อนละ 10 บาท ซึ่งข้าวจี่เมื่อทำการจี่เสร็จแล้ว จะมีกลิ่นหอมชวนกินมาก นางสายใจจะนำเอาข้าวจี่มาวางบนใบตอง เพื่อขายให้กับประชาชนที่พากันมาหาซื้อข้าวปลาอาหารในช่วงเย็นของทุกวัน และนางสายใจจะทำแกงหอยมาขายด้วยในราคาถุงละ 30 บาท โดย น.ส.ปัทมวรรณ ซึ่งสวมชุดนักศึกษาพยาบาล จะช่วยแม่ทำงานทุกอย่างทั้งทำข้าวจี่ขายและตักแกงหอยใส่ถุงวางไว้ขาย
นางสายใจ พันธุ์อุ่น 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 7 บ้านสิม ต.ดูน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแม่ของ น.ส.ปัทมวรรณ นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนาศรีสะเกษ เล่าว่า ตนจะปั้นข้าวจี่ขายทุกวัน โดยจะนำเอาข้าวจี่มาขายที่ตลาดสดเทศบาลกันทรารมย์ในช่วงบ่ายทุกวัน ซึ่งสถานที่ขายข้าวจี่นั้น จะเช่าต่อจากเจ้าของที่ได้สิทธิเช่าแผงจากเทศบาล โดยช่วงเช้าเจ้าของแผงจะเปิดขายสินค้า ส่วนช่วงบ่ายตนจะมาเช่าแผงต่อเพื่อจี่ข้าวจี่ขายในราคาเดือนละ 2,200 บาท โดยจะแบ่งพื้นที่คนละครึ่งกับเพื่อนแม่ค้าด้วยกัน จะแบ่งจ่ายค่าเช่าคนละ 1,200 บาท จะมีรายได้จากการขายข้าวจี่วันละประมาณ 150 – 200 บาท ตนก็จะเก็บเงินเอาไว้ให้ น.ส.ปัทมวรรณ เรียนหนังสือ ซึ่งการที่ น.ส.ปัทมวรรณ สามารถสอบเข้าเรียนคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนาศรีสะเกษได้นั้น ตนดีใจมาก เพราะว่าต้องการให้ลูกสาวได้เรียนพยาบาล จบมาจะได้มีงานทำที่มั่นคงไปช่วยเหลือคนที่เจ็บไข้ได้ป่วยและจะได้ไม่ต้องลำบากเหมือนกับตน
นางสายใจ พันธุ์อุ่น อายุ 53 ปี แม่ของนักศึกษาพยาบาล เล่าต่อไปว่า ในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ ตนได้ไปกู้เงินนอกระบบมาจำนวน 60,000 บาท เพื่อนำเอาไปเป็นค่าเทอมให้กับ น.ส.ปัทมวรรณ ลูกสาวของตน จากนั้น ได้กู้เงินมาอีก จำนวน 40,000 บาท รวมเป็นเงินกู้มาจำนวน 100,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 10 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้กับลูกสาว เช่นค่าชุดนักศึกษา ค่าอุปกรณ์การเรียนต่าง ๆ เป็นต้น โดยขณะนี้ตนเป็นหนี้เงินกู้นอกระบบพร้อมดอกเบี้ยที่กู้เงินมาให้ลูกเรียนพยาบาล จำนวน 100,000 บาท ซึ่งตนไม่ทราบว่า ในภาคเรียนที่ 2 ตนไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ใดมาเป็นค่าเทอมให้ลูก แหล่งเงินกู้เดิมเขาคงจะไม่ยอมให้กู้อีกเพราะว่าหนี้เก่ายังไม่ได้ใช้หนี้ ตนก็มีความหวังสุดท้ายเพียงว่า จะให้น.ส.ปัทมวรรณ ลูกสาวของตนกู้เงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เพื่อนำเอาเงินมาเป็นค่าเทอมและค่าใช้จ่ายประจำวันของลูก ซึ่งหากว่า ทางกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ไม่อนุมัติให้ น.ส.ปัทมวรรณ ลูกสาวของตนได้กู้เงิน กยศ. ตนก็คงจะไม่มีเงินส่งเสียให้ลูกสาวของตนเรียนพยาบาลต่อไป และจะต้องให้ น.ส.ปัทมวรรณหยุดเรียนพยาบาล ตนขอกราบวิงวอน ท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีขวัญใจชาวไทย และ รมว.กระทรวงการคลัง โปรดให้ความช่วยเหลือลูกสาวของตนด้วย โดยขอให้ทาง กยศ.อนุมัติให้ลูกสาวของตนกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาได้ด้วย เพื่อที่ น.ส.ปัทมวรรณ ลูกสาวของตนจะได้เรียนพยาบาลต่อไปจนสำเร็จการศึกษาไปพลเมืองดีของประเทศชาติสืบต่อไป
ทางด้าน นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 2 พรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้ตนประชุมอยู่กรุงเทพและได้รับทราบเรื่องความเดือดร้อนของ น.ส.ปัทมวรรณ พันธุ์อุ่น นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนาศรีสะเกษ ที่กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)ยังไม่อนุมัติให้กู้เงินทั้งที่ น.ส.ปัทมวรรณกับพวกได้ยื่นเรื่องขอกู้เงินไปนานกว่า 8 เดือนแล้ว และเพิ่งยื่นกู้เงินเป็นครั้งแรกไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อีกทั้งโดนผู้หญิงที่อ้างว่าเป็นผู้บริหารระดับสูงของ กยศ.โทรมาข่มขู่ให้ไปถอนเรื่องร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษและที่กระทรวงการคลัง กรุงเทพฯนั้น เรื่องนี้ตนได้สั่งการให้ทีมงานเลขานุการเข้าไปพบกับครอบครัวของ น.ส.ปัทมวรรณ ที่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 7 บ้านสิม ต.ดูน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และทีมงานได้รายงานข้อมูลมาให้ตนได้รับทราบแล้ว เรื่องนี้ตนจะเข้าไปพูดคุยกับ รมว.กระทรวงการคลังดูว่าจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือเด็กนักศึกษาพยาบาลได้อย่างไร โดยในวันที่ 6 หรือวันที่ 7 ธ.ค.2566 นี้จะมีการประชุมพรรคเพื่อไทย อยู่ที่เขาใหญ่ ตนจะได้พบกับ รมว.กระทรวงการคลัง แต่ว่าอย่างไรก็ตามเพื่อให้การช่วยเหลือแก้ไขเรื่องนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ในวันจันทร์ที่ 4 ธ.ค.2566 ตนจะโทรศัพท์หา รมว.กระทรวงการคลัง เพื่อขอให้เร่งรัดในการพิจารณาช่วยเหลือนักศึกษาพยาบาลโดยด่วนที่สุดต่อไป