ประจวบคีรีขันธ์-ซัดกันนัว! หนุ่มตังเกตีเนียนจะขอลงเรือไปทำงานถูกปฏิเสธท้าดวลตัวต่อตัวบาดเจ็บทั้งคู่

ประจวบคีรีขันธ์-ซัดกันนัว! หนุ่มตังเกตีเนียนจะขอลงเรือไปทำงานถูกปฏิเสธท้าดวลตัวต่อตัวบาดเจ็บทั้งคู่

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ 

          เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 7 ธ.ค.66 ร.ต.อ.ศุภลักษณ์ หวานวาจา รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 เกิดเหตุ 200 ทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธมีดฟันคอมีบาดแผลฉกรรจ์ ในพื้นที่หมู่บ้านชาวประมงอ่าวน้อย พื้นที่เขตรับผิดชอบของ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นพร้อมด้วย ร.ต.อ.สอาด กล่ำคนตรง รองสารวัตรปราบปราม ด.ต.จักรพงษ์ อินทนพ ผบ.หมู่ ป.สภ.เมือง ด.ต.วีรยุทธ ตั่นสกุล ผบ.หมู่ป.สภ.เมืองประจวบฯ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ**
          เมื่อไปถึงพบว่าจุดที่เกิดเหตุเป็นบริเวณพื้นที่ท่าเทียบเรือสะพานปลาที่ 1 ริมทะเลอ่าวน้อย ภายในหมู่บ้านชาวประมงอ่าวน้อย หมู่ 2 ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบพบว่าเป็นลูกเรือประมงของโชคลาภเจริญผล 9 ได้ทะเลาะวิวาทต่อสู้กันกับหนุ่มตังเกนอกพื้นที่ ซึ่งเดินทางมาจากที่อื่นจะมาหางานทำแต่ถูกเจ้าของเรือปฏิเสธ จึงเกิดอาการ ไม่พอใจคุ้มคลั่งอาละวาดท้าดวลต่อสู้กันระหว่างลูกเรือตังเกจนได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย ทราบชื่อผู้บาดเจ็บ คือ นายวีรยุทธ์ รัตนพงษ์ อายุ 34 ปี สวมเสื้อยืดอาสารักษาดินแดน(อส.)คอกลม ลายพรางสีเขียวขี้ม้า ถูกอาวุธมีดฟันมีบาดแผลฉกรรจ์ที่บริเวณลำคอ นิ้วโป้งมือขวา และแขนซ้ายมีเลือดไหลออกจำนวนมาก และนายวรวรรธน์ ทิพย์พยอม อายุ 50 ปี ไม่สวมใส่เสื้อเป็นลูกเรือประมงโชคลาภเจริญผล 9 ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลแตกที่บริเวณเหนือคิ้วซ้ายยาวประมาณ 5 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบฯเข้าปฐมพยาบาลเบื้องต้น นำตัวส่งรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาลประจวบฯ
          ส่วนสาเหตุจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้น นายวรวรรธน์ ลูกเรือประมงโชคลาภเจริญผล 9 ให้การว่า ก่อนหน้าจะเกิดเหตุนายวีรยุทธ์คู่กรณีได้เดินลงมาในเรือ เพื่อจะมาขอทำงานแต่เนื่องจากลูกเรือลำนี้เต็มแล้ว และนายจ้าง เจ้าของเรือยังไม่เปิดรับจึงได้ปฏิเสธไป แต่นายวีระยุทธ์ไม่พอใจ และดื้อยืนยันจะทำงานไม่ยอมขึ้นจากเรือจึงได้มีปากเสียงทะเลาะกัน จากนั้นนายวีระยุทธ์จึงใช้เหล็กท่อนกลมที่สามารถเลื่อนสไลด์ได้มาตีที่ศีรษะของตน ตนจึงได้ใช้อาวุธมีดที่ทำไว้ติดตัวมาต่อสู้กัน หลังจากนั้นจึงมีการท้าดวลกันตัวต่อตัวกันบนสะพานปลาอีกรอบจนนายวีระยุทธ์วิ่งหลบหนีไป และตนเองได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะ**
          นายมนัส แก้วทับทิม อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นไต่เรือ ให้การว่านายวีรยุทธผู้ก่อเหตุ ก่อนหน้านี้อยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร และได้นั่งรถโดยสารมาที่ประจวบฯ เพื่อจะมาขอทำงานเป็นลูกเรือลำที่ตนดูแล แต่ตนได้ปฏิเสธไปเนื่องจากเจ้าของเรือไม่ยอมรับ ต่อมานายวีรยุทธ์ได้ลงไปในเรือแล้วก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับลูกเรือของตน มีการทำร้ายร่างกายกันจนได้รับบาดเจ็บ ลูกเรือของตนจึงได้ต่อสู้เพื่อป้องกันตัว ซึ่งหลังจากนี้ตนจะแจ้งความผู้ก่อเหตุในข้อหาบุกรุก เนื่องจากภายในเรือเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล
         ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงจากทั้งสองฝ่ายอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!