ประจวบคีรีขันธ์-รมว.กลาโหม เปิดโครงการมวยไทยและศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวในค่ายทหาร ชู Soft Power ของไทย
ภาพ/ข่าว:กูลเสวก เสวกวรรณกร
ช่วงค่ำวันที่ 26 ม.ค.67 ที่สนามเวทีมวยชั่วคราว กองบัญชาการศูนย์การกำลังสำรอง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดโครงการมวยไทยและศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวในค่ายทหาร มี นางสาวสุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ นายปัญญา หาญลำยวง คณะกรรมการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ นายศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พล.ต.นิรินธน์ ปุณโณทก ผู้บัญชาการศูนย์การกำลังสำรอง หัวหน้าส่วนราชการใน จ.ประจวบฯ และประชาชนจำนวนมากร่วมกิจกรรม โดยมีการแสดงศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย การแสดงกระบี่กระบอง การฉายวิดีทัศน์ เทรนนิ่ง คอร์ส โดยสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ การแสดงแฟชั่น โชว์ มวยไทย ซอฟต์พาวเวอร์ และการแสดงรำไหว้ครูมวยไทย โดย ร้อยโทสมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว นักมวยชื่อดัง จากนั้นมีการจัดการแข่งขันมวยไทยสมัครเล่น รุ่นเด็ก 1 คู่ รุ่นเยาวชน 1 คู่ การแข่งขันมวยไทยสมัครเล่น 1 คู่ และการแข่งขันมวยไทยอาชีพ 10 คู่ ท่ามกลางบรรยากาศผู้ชมที่มาร่วมงานที่ตะโกนส่งเสียงเชียร์กันอย่างคึกคักสนุกสนาน ขณะที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา มีการจัดอบรมมวยไทยให้แก่กำลังพล
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า มวยไทยเป็นพลังหลักของยุทธศาสตร์การสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชาติในบทบาทของ Soft Power ที่โดดเด่นที่สุดในขบวนการศิลปวัฒนธรรม โครงการนี้จึงมีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และเป็นแรงผลักดันในการดำเนินงานมาตรการของภาครัฐไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมาย นอกจากนี้โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี เทิดไท้องค์ราชัน สืบสาน รักษา และต่อยอดตามพระราชปณิธานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งโครงการดังกล่าวจัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างกองทัพบก โดยศูนย์การกำลังสำรองกับสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์และสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ ในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรกำลังพลของกองทัพบกเข้าสู่กระบวนการผู้ฝึกสอนมวยไทย และสร้างนักกีฬามวยไทยเพื่อส่งกำลังพลที่ได้รับการรับรองความรู้ความสามารถไปทำหน้าที่ฝึกสอนในต่างประเทศ รวมทั้งเข้าสู่เวทีการแข่งขันระดับนานาชาติซึ่งโครงการนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการผลักดันมวยไทยเข้าสู่กีฬาทหารทั้งระดับภายในประเทศและระดับกีฬาทหารโลก หรือเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ที่กำหนดให้ชนิดกีฬาที่จะได้รับการบรรจุแข่งขันเข้าสู่โอลิมปิก เกมส์ ต้องผ่านการแข่งขัน CISM มาก่อนจึงเท่ากับว่ากองทัพไทยมีส่วนร่วมในการผลักดันมวยไทยเข้าสู่โอลิมปิกเกมส์.