อุบลราชธานี-“ทำบุญวันมาฆะบูชา” ประธานกลุ่มไม้ดอกไม้ประดับทุ่งพระศรี ถวายดอกไม้ 140 กิโลกรัม วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว

ภาพ/ข่าว:ทีมข่าวจังหวัดอุบลราชธานี

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณแม่ละออง สายเคน ประธานกลุ่มไม้ดอกไม้ประดับทุ่งพระศรี บ้านตาติด ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมทำบุญวันมาฆะบูชา เพ็ญเดือน 3 (วันเสาร์ที่ 24 ก.พ. 2567) ถวายดอกไม้ กลุ่มเบญจมาศ 140 กิโลกรัม วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว (วัดภูพร้าว) ตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 140 กิโลกรัม
          คุณแม่ละออง สายเคน ได้เล่าถึงที่มาของการถวายดอกไม้แด่วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว ( หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าวัดภูพร้าว ) ว่า เนื่องจากท่านเจ้าอาวาส สืบรู้ว่ามีไม้ดอกไม้ประดับสวยงาม ราคาประหยัดจากสวนโดยตรง เมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา จึงเดินทางมากับคณะญาติโยมมาซื้อดอกไม้ไปใช้ประกอบพิธีเนื่องในงานสำคัญของพุทธศาสนา และทางแม่ละออง สายเคนและพ่อจันทจร สายเคนพร้อมครอบครัวญาติพี่น้องเป็นพุทธศาสนิกชนผู้เลื่อมใสพุทธศาสนาที่นับถืออยู่แล้ว ได้ถวายดอกไม้ร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธาที่ทำได้ นับจากปีนั้นเป็นต้นมาจนถึงปีปัจจุบัน(2567) ทางครอบครัว คุณพ่อจันทจร คุณแม่ละออง สายเคน พร้อมครอบครัวและญาติพี่น้อง ได้ร่วมถวายดอกไม้ทำบุญที่วัดสิรินธรวราราม มาโดยตลอด โดยทำเป็นมัดและนำไปส่งให้วัดในทุกเทศกาล ทั้งวันมาฆะบูชา(เพ็ญเดือน 3) วันวิสาขบูชา(เพ็ญเดือน 6) วันอาสาฬหบูชา(เพ็ญเดือน 8) และตามที่ทางวัดบอกบุญมาถึง
          นายเทวา สายเคน หลานชายของ คุณพ่อจันทจร และ คุณแม่ละออง สายเคน กล่าวเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวว่า วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกกันติดปากว่า วัดภูพร้าว(ชื่อเดิม) และบ้างก็เรียกวัดเรืองแสง ซึ่งเดิมที สถานที่ตั้งวัดแห่งนี้ จะเต็มไปด้วยป่า มีหน้าผาสูง ไม่มีแหล่งน้ำ จึงไม่มีชาวบ้านอยู่อาศัย จนกระทั่งประมาณ ปีพ.ศ.2495 พระอาจารย์บุญมาก ฐิติปัญโญ เดินทางมาจากประเทศลาว มาปักกลดที่ภูพร้าว(สถานที่ตั้งวัดในปัจจุบัน) และได้สร้างวัดขึ้น ชื่อวัดภูพร้าว ในปี พ.ศ.2516 พระอาจารย์บุญมาก ได้เดินทางกลับไปยังวัดที่เมืองจำปาสัก สปป.ลาว ทำให้วัดภูพร้าว ถูกปล่อยร้าง ต่อมาในปี พ.ศ.2535 อำเภอสิรินธรแยกตัวออกจากอำเภอพิบูลมังสาหาร จึงได้เปลี่ยนชื่อวัดมาเป็นวัดสิรินธรวราราม ตามชื่ออำเภอ และ ต่อมา พระครูกมลภาวนากร เจ้าอาวาสและผู้บูรณะพัฒนาวัดภูหล่น ตำบลสงยาง อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี ได้เข้ามาบูรณะวัดภูพร้าว จนได้รับอนุญาตให้ตั้งวัด ชื่อวัดสิรินธรวรารามภูพร้าว เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2545 บนเนื้อที่วัด จำนวน 15 ไร่ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.2547 โดยมี พระครูปัญญาวโบล เป็นเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน
          ที่วัดแห่งนี้ จะมีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมความงดงามของพระอุโบสถและชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามรอบวัด โดยเฉพาะที่ด้านหลังของอุโบสถมีจิตรกรรมต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ต้นกัลปพฤกษ์ จะทอแสงเรืองรองเรืองแสงออกมาสะดุดตาผู้พบเห็นอย่างสวยงามยิ่งนัก