เพชรบุรี-นอภ.ชะอำ ปิดทอง “หลวงพ่อทัย” เกจิดังเมืองเพชรบุรีในงานปิดทองประจำปีวัดไทรย้อย

เพชรบุรี-นอภ.ชะอำ ปิดทอง “หลวงพ่อทัย” เกจิดังเมืองเพชรบุรีในงานปิดทองประจำปีวัดไทรย้อย

ภาพ/ข่าว:ศูนย์ข่าวจังหวัดเพชรบุรี

          เมื่อวันที่ 11 มี.ค.67 นายแก้ว คงวงศ์ นายอำเภอชะอำ จ.เพชรบุรี เดินทางไปกราบสักการะปิดทองรูปเหมือน “หลวงพ่อทัย” พระครูวชิรคุณารักษ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดไทรย้อย อ.ชะอำ ในงานปิดทองประจำปีรูปเหมือน “หลวงพ่อทัย-หลวงพ่อม่วง” วัดไทรย้อย มี พระครูอากรวัชรธรรม เจ้าอาวาสวัดไทรย้อย ประธานชุมชน และคณะกรรมการจัดงานให้การต้อนรับ พร้อมกันนี้เจ้าอาวาสวัดไทรย้อย ได้นำนายอำเภอชะอำเยี่ยมชมพระอุโบสถไม้สักเก่า สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 และลอดใต้พระอุโบสถรวม 3 รอบ เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย โดยทางวัดได้จัดงานปิดทองประจำปี ตั้งแต่วันที่ 9-11 มี.ค.67 รวม 3 วัน ภายในงานมีการออกร้านค้าและมหรสพทุกค่ำคืน โดยแต่ละคืนที่ผ่านมามีประชาชนจำนวนมากเที่ยวงานกันเป็นจำนวนมาก
          หลวงพ่อทัย เดิมชื่อ พริกไทย เกิดเมื่อ พ.ศ.2438 นามสกุลของท่านคือ หมื่นชำนาญป่า บ้านเดิมอยู่ บ้านทับใต้ ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่อำเภอหัวหิน (ห้วยมงคลในปัจจุบัน) หลวงพ่อเป็นพี่ชายของหลวงพ่อปลั่ง วัดห้วยมงคล เจ้าอาวาสองค์แรกผู้สร้างวัด ในวัยหนุ่มหลวงพ่อได้รับราชการเป็นตำรวจ เมื่อเข้าสู่อายุครบบวชก็ได้บวชกับหลวงพ่อนาค วัดหัวหิน สมัยก่อนบ้านเมืองยังไม่ใหญ่โต ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครองวัดในหัวหินมีแค่ในหัวหินที่เดียว เข้าใจว่าการรับราชการสมัยก่อนใครพออ่านออกเขียนได้ก็ให้รับราชการ เรื่องเบี้ยเลี้ยงเงินเดือนไม่ได้เป็นระบบเหมือนในสมัยนี้ จึงไม่ได้ทำให้เกิดความจูงใจมากนัก หลวงพ่อจึงบวชเรียนอยู่กับหลวงพ่อนาคที่วัดหัวหินอยู่นานหลายปี ในราวๆ พ.ศ.2400 หมู่บ้านบางควายเริ่มมีการตั้งถิ่นฐานกันอยู่บ้างอย่างเบาบาง ด้วยเป็นเส้นทางการค้าขายระหว่างเพชรบุรี-หัวหิน-ปราณฯ จุดที่ตั้งของบ้านบางควายมีน้ำจืด และเป็นช่องเขาที่ลงมาจากป่าทิศตะวันตกด้วยจึงเป็นจุดนัดพบสำคัญแห่งหนึ่งในเส้นทางสายนี้ จนราวๆ พ.ศ.2450 หมู่บ้านเริ่มมีความหนาแน่นขึ้น ชาวบ้านมักนิยมไปทำบุญกันแต่วัดที่ใกล้เคียงในเวลานั้นมีแค่วัดโตนดหลวงกับวัดหัวหิน พอถึงวันพระใหญ่ก็จะมีขบวนเกวียนชาวบ้านไปทำบุญกันที่วัดหัวหิน
          เมื่อนานวันเข้าชาวบ้านจึงได้อาราธนากับหลวงพ่อนาคว่าให้ส่งพระจากวัดหัวหินมาอยู่ที่หมู่บ้านบางควายบ้าง จะได้อนุเคราะห์ญาติโยมในการทำบุญ ในเบื้องต้นหลวงพ่อนาคได้ส่งหลวงพ่อเล็กกับพระอีก 3-4 รูปมาอยู่เป็นชุดแรก และในราวปี 2460 จึงส่งหลวงพ่อเล็กมาอยู่ที่วัดบางควายไม่นานก็มรณภาพ หลวงพ่อทัยจึงได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสแทน ในราวปี 2470 ก็ได้จัดงานผูกพัทสีมาอุโบสถหลังแรก เป็นอุโบสถไม้สักทั้งหลัง อยู่ติดทะเลบางควายมานานกว่า 80 ปีแล้ว ต่อมาปี 2504 ท่านได้สมณศักดิ์ที่พระครูวชิรคุณารักษ์ หลวงพ่อทัยปกครองวัดไทรย้อย เรื่อยมาตั้งแต่ ปี 2471 ถึงปี 2519 ก็มรณภาพ ด้วยโรคตับแข็ง เมื่อวันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2519 สิริอายุ 80 ปี ตำแหน่งสุดท้ายท่านเป็นพระอุปัชฌาย์และเจ้าคณะตำบลชะอำ          หลวงพ่อทัยเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งไม่เป็นลองใคร ไม่ว่าเรื่องปลัดขิก เสือมหาอำนาจ ตะกรุดหลวงพ่อทัย วัดไทรย้อย เป็นสุดยอดตะกรุดที่ขนาด หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ให้ศิษย์ทหารเรือไปกราบและหามาใช้ ท่านออกเหรียญรุ่นเดียว คือรุ่น 1 ปี 2504 ท่านดังปลัดขิกมากกว่าไหนๆ หลวงพ่ออี๋บอกกับทหารเรือสัตหีบว่า “นอกจากฉันแล้วก็มีแต่คุณพ่อทัยที่สู้ฉันได้” เคยมีลูกศิษย์ท่านประสบอุบัติเหตุอย่างหนักรถพังยับเยินตายยกคันแต่คนที่พกปลัดขิกไม่ได้รับอันตรายบาดเจ็บใดๆ และมีคนพื้นที่เล่าให้ฟังว่า ตชด.ค่ายนเรศวรโดดร่ม แล้วร่มไม่กางเอ่ยชื่อท่านแล้วขอให้ท่านช่วย ตกลงมาไม่เป็นอะไรเลย ซึ่งของขลังของหลวงพ่อทัยคนในพื้นที่จะหวงมาก.

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!