ปราจีนบุรี-รถบัสคณะครูจากสุรินทร์ พลิกคว่ำบนเขาโทน เจ็บ 13 ราย

ปราจีนบุรี-รถบัสคณะครูจากสุรินทร์ พลิกคว่ำบนเขาโทน เจ็บ 13 ราย

ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญมานิตย์ สนับบุญ

          วันนี้ (29 มี.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ป้องกันอุบัติภัยท้องถิ่น จ.ปราจีนบุรี (ศปถ.จ.ปราจีนบุรี) ได้มีรายงานแจ้ง นายรณรงค์ นครจินดา ผวจ.ปราจีนบุรี ระบุว่า เวลา 0 7.40 น. เกิดอุบัติเหตุรถทัวร์ หมายเลขทะเบียน 30-0553 มีนายล้วน วิจิตรเป็นผู้ขับขับขี่ มาจากอำเภอวังน้ำเขียว มุ่งหน้าไปอำเภอกบินทร์บุรี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้เสียหลักเฉี่ยวชนรถบรรทุกไม้ หมายเลขทะเทียน 718-659 พระนครศรีอยุธยา มีนายอราวิล มากะฐิน เป็นผู้ขับขี่ เหตุเกิด บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 0304 ตอนควบคุม 0304 สี่แยกกบินทร์ – วังน้ำเขียวกม.209+514 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย รวม 3 ราย มูลนิธิสัจจะพุธธรรมนำผู้บาดเจ็บ สีแดง 1 ราย นำส่งส่งโรงพยาบาลนาดี มี สภ.วังขอนแดง อ.นาดี แขวงทางกบินทร์บุรี อำนวย ความสะดวก การจราจร
          ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ช่วงเช้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่กู้ภัย มูลนิธิสัจจะพุทธธรรมแห่งประเทศไทย (อ.กบินทร์บุรี ) ได้รับแจ้ง มีอุบัติเหตุรถบัสนำเที่ยวพลิกคว่ำ สถานที่เกิดเหตุช่วงบริเวณทางโค้งหน้าศาลปู่โทน บนถนนสายสุวินทวงศ์ (นครราชสีมา – กบินทร์บุรี) หรือ สาย 304 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานทีมกู้ชีพ รพ.นาดี ก่อนเดินทางไปช่วยเหลือ ในที่เกิดเหตุช่วงทางลงจากภูเขาหน้าศาลปู่โทน เป็นช่วงทางโค้งเกือบหักศอก มีความลาดชันสูงกว่า 45 องศา ทางลงจากภูเขาที่ผ่านระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับ อุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ซึ่งพึ่งจะเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพลิกคว่ำไฟไหม้เมื่อคืนวันที่ 27 มี.ค.นี้ ติดต่อมาถึงวันที่ 28 มี.ค. 67 รวมสามครั้งแล้ว ก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์ ในที่เกิดเหตุพบรถบัส หมายเลยทะเบียน 30 – 0553 สุรินทร์ ด้านหน้าเขียน อ.แม่สุพิชฌาย์ทัวร์ พลิกคว่ำอยู่ข้างทาง ผู้โดยสารกำลังช่วยกันขนของที่อยู่ภายในออกมารวมที่ด้านนอก ใกล้กันพบรถพ่วง 18 ล้อ ทะเบียน 71- 8659 พระนครศรีอยุธยา รถพ่วง บรรทุกไม้ ด้านท้ายได้รับความเสียหายเล็กน้อย
          จากการสอบถามเบื้องบต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ คณะครูจากโรงเรียนเทพอุดมวิทยา สังกัดสำนักงานการศึกษาเขตพื้นที่มัธยมศึกษา สุรินทร์ (สพม.สุรินทร์) อ.สังขละ จ.สุรินทร์ จำนวน 23 คน กำลังเดินทางจะมาศึกษาดูงานแพทย์แผนไทย รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร หลังเพิ่มปิดกล่องชอล์ค หรือ เพิ่งปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2566 หมาด ๆ และพากันเดินทาง ส่งครูผู้ข่วยที่ได้รับการบรรจุใหม่มารับราชการครู ที่ รร.ปราจีนกัลยาณี (ปกณ.)สังกัดสำนักงานการศึกษาเขตพื้นที่มัธยมศึกษาเขต 7 (ปราจีนบุรี,นครนายก ,สระแก้ว) อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อม ๆ กัน โดยได้พากันออกเดินทางมาตั้งแต่เช้ามืด 1 ในของคณะครู ผู้ที่เดินทางมากับรถบัส เล่านาทีระทึกว่า ช่วงเกิดอุบัติเหตุนั้นทุกคนตื่นหมดแล้ว ได้ยินเสียงคนขับตะโกนบอกว่า เบรกไหม้! เบรกไม่อยู่ ให้หาที่จับยึดไว้ จากนั้นรถก็เสียการทรงตัว แล้วพลิกตะแคงก่อนที่จะไถลไปชนกับรถพ่วง บรรทุกไม้ข้างหน้า โชคดีที่เป็นรถขนาดน้ำหนักบรรทุกหนัก สามารถชะลอความแรงของรถเบรกแตกในช่วงระหว่างลงจากภูเขาได้เป็นอย่างดี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 13 คน มีสองรายที่เจ็บมากแต่ไม่ถึงสาหัส
          ขณะที่นายอนาวิน มากะฐิน คนขับรถบรรทุกไม้ เล่าว่า ตนเองเดินทางมาจากกาญจน์ฯ กำลังจะไป จ.ระยอง เห็นเค้ามาเร็วแล้วไม่รู้จะทำอย่างไร ทำตัวไม่ถูกสุดท้ายก็เลยมาชนท้ายรถที่ตนขับ ส่วนนายล้วน วิจิตร คนขับรถบัส บอกว่า เส้นทางถนนสายสุวินทวงศ์ (นครราชสีมา – กบินทร์บุรี) หรือ ถนนสาย 304 ที่ผ่านบนภูเขา ระหว่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับ อุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ต.บุพราหมณ์ อ. นาดี จ.ปราจีนบุรีนี้ ตนเองมาประจำ จึงรู้ว่าช่วงไหนมีโค้ง – ลาดชันอันตราย วันนี้กำลังจะไปส่งคณะครูฯจากอิสานมาที่ อ.เมืองปราจีนบุรี มาถึงจุดเกิดเหตุ รู้ว่าเบรกไหม้เอาไม่อยู่ จึงตัดสินใจเอาข้างรถเบียดกับรถบรรทุกไม้ก่อน ที่จะพลิกคว่ำ ต่อมาเวลา 09.30 น. นายพงษ์สิทธิ์ เนื่องจำนงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และ นายธรรมรัฏฐ์ งามแสง นายอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ได้เดินทางมาเยี่ยมคณะครูผู้ประสบเหตุและให้กำลังใจที่โรงพยาบาลนาดี
          ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรีรายงานเพิ่มเติม สำหรับถนนสุวินทวงศ์ (นครราชสีมา – กบินทร์บุรี) หรือ ถนนสาย 304 ที่ผ่านบนภูเขา ระหว่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับ อุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ต.บุพราหมณ์ อ. นาดี จ.ปราจีนบุรีจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มุ่งหน้าลงสู่ภาคกลาง และภาคตะวันออก นี้ เป็นถนนสายเสี่ยงอันตราย ที่มักเกิดอุบัติรุนแรงทุก ๆ ปี ตามประกาศแจ้งเตือนของกรมทางหลวง ช่วงผ่านบนภูเขา ระหว่างอุทยานแห่งชาติทับลาน กับ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลก ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จากเดิมก่อนหน้าที่ถนนแคบ รถวิ่งสวนทางกัน มีความลาดชันสูง มีหลายทางโค้งเป็นระยะทางไกลมากเกินกว่า 12 กม.เศษ คณะรัฐมนตรีได้มีมติขยายผิวการจราจรเป็น 4 ช่องการจราจร ให้การคมนาคมสะดวก – ปลอดภัย พร้อม มีการก่อสร้างอุโมงค์ลอดผ่านระหว่างอุทยานฯเป็นแห่งแรกของไทย ให้สัตว์ป่าเดินข้ามฝั่งไป-มา ด้านบน และ บางช่วงสร้างสะพานยกระดับให้สูงให้สัตว์ป่าเดินลอดผ่านในผืนป่าดงพญาเย็น งบประมาณหลายหมื่นล้านบาท แต่ภายหลังการก่อสร้างอุบัติเหตุต่าง ๆ ยังเกิดรุนแรงทุก ๆ ปี ไม่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะ การเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกขนาดใหญ่ หรือ รถโดสาร มักเบรกแตกช่วงลงจากภูเขา

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!