ประจวบคีรีขันธ์-ลูกสาวร่ำไห้ใจแทบขาด! หลังพบแม่กลายเป็นศพถูกฆ่าอำพรางหมกลำห้วยกลางไร่สับปะรดหมู่บ้านข้างเคียง

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

          วันที่ 23 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเพิ่มเติม กรณีบุคคลสูญหายออกจากบ้านบริเวณหมู่บ้านทุ่งเคล็ด หมู่ 6 ตำบลเกาะหลัก โดยพบว่าผู้สูญหาย ชื่อนางนิตย์ รุ่งสว่าง อายุ 52 ปี หรือป้าเล็ก อยู่บ้านเลขที่ 69/1 หมู่ 6 บ้านทุ่งเคล็ด ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. ของวันที่ 21 เมษายน 2567 ป้าเล็ก ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คู่ใจไปซื้อเบียร์กระป๋อง ที่บริเวณร้านค้าในหมู่บ้านโดยกล้องวงจรปิดของร้านค้าสามารถจับภาพไว้ได้ จากนั้นป้าเล็กได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากร้านค้าแล้วมุ่งหน้ามาที่หมู่บ้านหนองแก หมู่ 8 ตำบลเกาะหลัก ซึ่งเป็นหมู่บ้านข้างเคียงที่อยู่ติดกัน โดยภาพกล้องวงจรปิดของบ้านที่อยู่ริมถนนสามารถจับภาพไว้ได้ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.41.40 วินาที ของคืนวันที่ 21 เม.ย.วันเดียวกัน ต่อมาพบว่ารถจักรยานยนต์ได้ถูกจอดทิ้งไว้ที่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำปะปาของหมู่บ้านหนองแก หมู่ 8 ตำบลเกาะหลัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้โดรนบินค้นหามุมสูง ร่วมกับโดรนของกู้ภัยรวม 3 รำ บริเวณพื้นที่เหนือผิวน้ำในอ่าง และไร่สับปะรดโดยรอบอ่างเก็บน้ำ โดยค้นหาร่วมกับชาวบ้านที่เดินเท้าค้นหา ร่วมกับทีมชุดประดาน้ำของเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบ หน่วยกู้ชีพ อบต.ห้วยทราย ตั้งแต่ช่วงเมื่อคืนของวันที่ 22 มิถุนายน 67 จนถึงวันนี้ 23 เม.ย.67
          คืบหน้าล่าสุดวันนี้เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ในระหว่างการค้นหาทั้งทางน้ำ และ ทางอากาศ รวมถึงการเดินเท้าค้นหาของชาวบ้านในหมู่บ้านและ ญาติผู้สูญหาย ล่าสุด พล.ต.ต.จำลอง งามเนตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.ศักดิ์ดา จำปาทอง รองผู้กำกับสืบสวน และ ร.ต.อ.หญิง รัตนาภรณ์ ทองจีน รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบฯ เจ้าของคดี ได้ระดมทีมนำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่ชุดตรวจพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) และแพทย์เวรโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบชันสูตรที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบ นางนิตย์ รุ่งสว่าง หรือป้าเล็ก ผู้สูญหาย วัย 52 ปี กลายเป็นศพถูกฆ่าหมกลำห้วยกลางไร่สับปะรดภายในพื้นที่หมู่บ้านหนองแก หมู่ 8 ตำบลเกาะหลัก ห่างจากจุดที่พบรถจักรยานยนต์ถูกจอดทิ้งไว้ ประมาณ 300 เมตร โดยสภาพศพนอนคว่ำหน้า ไม่ได้สวมใส่เสื้อสีแดงที่ใส่ในวันหายตัวไป ใส่เพียงเสื้อยกทรงสีดำเพียงชิ้นเดียว และกางเกงสีดำขาสั้นเท่านั้น แล้วถูกหมกอำพรางศพด้วยต้นกกในลำห้วย เมื่อเจ้าหน้าที่ยกศพขึ้นมาชันสูตร พบว่าที่มือด้านขวายังมีแหวนทองสวมใส่อยู่ 2 วง แต่โทรศัพท์มือถือหายไป จากการชันสูตรพลิกศพพบบริเวณลำตัวมีบาดแผลถลอกที่บริเวณชายโครงขวา ข้อศอกขวา และใบหน้า ลักษณะเหมือนมีการต่อสู้กันแล้ว ถูกฉุดกระชากลากถู มีแผลฟกช้ำที่บริเวณเบ้าตาขวา และที่บริเวณปลายคางด้านขวามีรูขนาดเล็กแนวเดียวกันตรงกับบาดแผลรูขนาดเล็กที่บริเวณหน้าผากซ้าย ลักษณะคล้ายรูกระสุนปืนลูกกรด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์เวรยังไม่ยืนยันสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งจะต้องส่งศพชันสูตรที่โรงพยาบาลนิติเวชอีกครั้ง เพื่อยืนยันผลสาเหตุการเสียชีวิต แต่เบื้องต้นเกิดจากการถูกฆาตกรรม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ระดมทีมชุดสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
          น้องจา อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นบุตรสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนเองอาศัยอยู่ต่างจังหวัดคนละบ้านกับมารดา แต่จะโทรคุยและวีดีโอคอลคุยกับแม่ทุกวัน โดยเมื่อเย็นวันที่ 21 เม.ย.ก็ยังโทรคุยกับแม่อยู่ตามปกติ แต่มาช่วงเช้าวันที่ 22 เม.ย.เวลาประมาณ 10.00 น.ได้ส่งภาพหลานให้แม่ดูทางไลน์แม่ก็ไม่อ่าน จนสายบ่ายแม่ก็ยังไม่อ่าน Line โทรหาก็ไม่ติด จนมาทราบจากญาติว่าแม่หายตัวไปออกจากบ้านหลังจากไปซื้อของที่ร้านค้า และไม่ได้กลับเข้าบ้านอีกเลย ตนจึงได้ขับรถด่วนกลับมาหาที่จุดเกิดเหตุก็พบว่ารถจักรยานยนต์ของแม่ถูกจอดทิ้งไว้ที่ริมอ่างเก็บน้ำ โดยมีถุงกระเป๋าแขวนอยู่กับรถจักรยานยนต์โดยภายในมีเงินอยู่ประมาณ 3,400 บาท ซึ่งโดยปกติแล้วแม่เป็นคนกลัวผีจะไม่กล้าไปสถานที่เปลี่ยวๆเพียงลำพัง ตนจึงมั่นใจว่าอาจมีคนพาตัวแม่ไปที่อื่น ซึ่งไม่ได้จมน้ำอย่างแน่นอน