เชียงใหม่-พบการระบาดในสถานที่ทำงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ภาพ/ข่าว:ศูนย์ข่าวจังหวัดเชียงใหม่

            จังหวัดเชียงใหม่พบการระบาดในกลุ่มองค์กร หรือสถานที่ทำงานเพิ่มขึ้น 5 หน่วยงาน ย้ำประชาชนให้ร่วมมือกันลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ภายใต้แคมเปญ “สัปดาห์ คนเชียงใหม่ รักกัน แยกกันสักพัก เพื่อลด COVID-19” ตั้งแต่วันที่ 21-27 กุมภาพันธ์ นี้

             สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ วันนี้ (18 ก.พ. 65) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 281 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อจากต่างจังหวัดเพียง 11 ราย ได้แก่ กรุงเทพฯ 7 ราย ลำปาง 2 ราย น่านและต่างประเทศอย่างละ 1 ราย ส่วนที่เหลืออีก 270 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด โดยขณะนี้มีกลุ่มคลัสเตอร์ที่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอยู่ 3 กลุ่ม ได้แก่ คลัสเตอร์กลุ่มองค์กร หรือสถานที่ทำงาน พบเพิ่ม 5 หน่วยงาน ได้แก่ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ตรวจ RT-PCR พบเพิ่ม 4 ราย ยอดรวม 40 ราย ,สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ตรวจ RT-PCR พบใหม่ 3 ราย ยอดรวม 3 ราย ,ชุมชนหมู่ 6 ตำบลโหล่งขอด อำเภอพร้าว ตรวจ ATK พบเพิ่ม 45 ราย ยอดรวม 47 ราย ,โกดังเกษตรใหม่ หมู่ 4 ตำบลกองแขก อำเภอแม่แจ่ม ตรวจ ATK พบใหม่ 19 ราย ยอดรวม 19 ราย และบ้านแม่ตูม หมู่ 4 ตำบลปางหินฝน อำเภอแม่แจ่ม ตรวจ ATK พบใหม่ 10 ราย ยอดรวม 10 ราย คลัสเตอร์กลุ่มโรงเรียนและสถานศึกษา พบ 3 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนต้นกล้า อาคาร A ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย ตรวจ RT-PCR พบเพิ่ม 1 ราย ยอดรวม 22 ราย ,โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม ตรวจ ATK พบเพิ่ม 1 ราย ยอดรวม 9 ราย และโรงเรียนบ้านหัวดอย หมู่ 13 ตำบลกองแขก อำเภอแม่แจ่ม ตรวจ ATK พบใหม่ 2 ราย ยอดรวม 2 ราย

               คลัสเตอร์กลุ่มร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ พบเพิ่มที่ ร้านท่าช้าง ตรวจ RT-PCR พบใหม่ 2 ราย ยอดรวม 4 ราย ,ร้านฮอมบาร์ ตรวจ RT-PCR พบเพิ่ม 3 ราย ยอดรวม 6 รายและร้าน Living Machine ตรวจ RT-PCR พบเพิ่ม 1 ราย ยอดรวม 2 ราย นอกจากนี้ ยังมีการระบาดจากการสัมผัสในครอบครัวเพิ่มอีก 20 ราย จาก 17 ครอบครัว ส่วนผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า พบเพิ่ม 102 ราย และมีผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค เชื่อมโยงคลัสเตอร์อีก 119 ราย เมื่อมีการจำแนกตามกลุ่มอายุของผู้ติดเชื้อ พบว่า กลุ่มอายุ 15-25 ปี ในจังหวัดเชียงใหม่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 25-35 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงานตอนต้น ล้วนเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว รวมกลุ่ม ปาร์ตี้สังสรรค์กัน ส่วนกลุ่มอายุ 0-15 ปี ที่ส่วนใหญ่อยู่ในวัยเรียน มีเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และเริ่มพบในกลุ่มช่วงอายุอื่น ๆ มากขึ้น แสดงให้เห็นถึงการติดเชื้อจากการสัมผัสในครอบครัวมากขึ้น ดังนั้น จึงขอความร่วมมือให้สถานประกอบการต่าง ๆ เคร่งครัดในการดำเนินงานตามมาตรการความปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID Free Setting) ทั้งด้านผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ และด้านสิ่งแวดล้อมพร้อมปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดและเข้ารับการฉีดวัคซีนตามกำหนด พร้อมเชิญชวนชาวเชียงใหม่ทุกคน ทุกอำเภอ ร่วมมือกันลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 21-27 กุมภาพันธ์ นี้ ภายใต้แคมเปญ “สัปดาห์ คนเชียงใหม่ รักกัน แยกกันสักพัก เพื่อลด COVID-19”

                ด้านข้อมูลผู้เสียชีวิต 2 รายวันนี้ รายแรกเป็นชายไทย อายุ 78 ปี มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ และโรคหลอดเลือดสมอง ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 วันที่ 2 กุมภาพันธ์ เริ่มมีไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ และวันที่ 8 กุมภาพันธ์ มีอาการเหนื่อยมากขึ้น จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสันกำแพง ตรวจ ATK ผลเป็นบวก จึงได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ตรวจ RT-PCR ยันยันว่าติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron และวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ระบบหายใจล้มเหลว เสียชีวิตลง อีกรายเป็นชายไทย อายุ 68 ปี มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ และไขมันในเลือดสูง ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ทราบว่าคนในครอบครัวติดเชื้อโควิด-19 จึงทำการ ตรวจ RT-PCR ผลยันยันว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงดาว วันที่ 8 กุมภาพันธ์ รู้สึกเหนื่อยมากขึ้น และมีอาการชักเกร็ง จึงได้ส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ผลวิเคราะห์สายพันธุ์ พบว่าเป็น Omicron วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ระบบหายใจล้มเหลว เสียชีวิตลง