เชียงใหม่-กองทัพภาคที่ 3 เปิดปฏิบัติการ สยบฝุ่นหมอกควันไฟป่า
ภาพ-ข่าว:นันธิกา กิจปาโล/สุดาภรณ์ อินต๊ะธรรม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
กองทัพภาคที่ 3 เปิดปฏิบัติการ KICK OFF ปฏิบัติการสยบฝุ่นหมอกควันไฟป่า รอยต่อ 3 จังหวัด หวังลดระดับปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ซ้ำซาก 5 อำเภอ และลดผลกระทบของปัญหาหมอกควันไร้พรมแดน
วันนี้ (10 มี.ค. 64) ที่ บริเวณศาลเจ้านางแก้ว ถนนเชียงใหม่-เชียงราย กม.ที่ 53 พลตรี ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เป็นประธานเปิดปฏิบัติการ KICK OFF สยบฝุ่นหมอกควันไฟป่า รอยต่อ 3 จังหวัดภาคเหนือ พร้อมลงนามความร่วมมือกับ 14 หน่วยงาน จาก 5 อำเภอ ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย และอำเภอเมืองปาน อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง เพื่อร่วมมือกันป้องกันและลดระดับปัญหาหมอกควันไฟป่า ซึ่งเป็นปัญหาซ้ำซากในอดีตที่เกิดขึ้นในเขตรอยต่อพื้นที่ 3 จังหวัด โดยมี นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนในทั้ง 3 จังหวัด ร่วมกิจกรรม
พลตรี ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันยังคงเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องแก้ไข และทุกภาคส่วนได้ร่วมกันบูรณาการแก้ไขปัญหามาโดยตลอด ซึ่งปัญหาสำคัญประการหนึ่ง คือ พื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัด จำนวน 19 รอย ต่อในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่หนึ่งที่เป็นผลจากการบูรณาการร่วมกัน จึงเกิดกิจกรรม Kick Off สยบฝุ่นหมอกควัน ไฟป่ารอยต่อ 3 จังหวัด ในวันนี้ขึ้น ซึ่งจะทำให้ปฏิบัติการเฝ้าระวัง ดับไฟป่า แนวเขตรอยต่อ 3 จังหวัด เกิดประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น และสามารถลดผลกระทบของปัญหาหมอกควันไร้พรมแดนได้
ทั้งนี้ สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือตอนบนเริ่มมีผลกระทบกับประชาชนใน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และจังหวัดตาก โดยภาพรวมภาคเหนือมีค่า PM 2.5 ระหว่าง 30 –202 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า PM 10 ระหว่าง 57–262 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่า AQI ระหว่าง 39 –312 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งจากการตรวจสอบสาเหตุพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานพบว่า สาเหตุส่วนใหญ่เกิดการจุดไฟหาของป่า การเผาเศษวัชพืช และการเผาเตรียมพื้นที่ทางการเกษตร โดยวันนี้เกิดจุดความร้อนในภาคเหนือ 17 จังหวัด จำนวน 1,447 จุด เกิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์จำนวน 1,066 จุด พื้นที่ป่าสงวนฯ จำนวน 356 จุด โดยพบจุดความร้อนสูงสุดที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 510 จุด จังหวัดตาก 311 จุด และ จังหวัดเชียงใหม่ 295 จุด