สุพรรณบุรี-พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย รพ.ศูนย์ฯเริ่มฉีดวัคซีนให้บุคลากรของ รพ.

ภาพ-ข่าว:มงคล สว่างศรี

          ที่โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี นพ.พงษ์นรินทร์ ชาติรังสรรค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี และมีการติดเชื้อในโรงพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ของโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช ก็ติดเชื้อด้วยเราจึงขอวัคซีนเป็นกรณีพิเศษเพิ่มจากปกติเดิมทางโรงพยาบาลจะได้รับการฉีดวัคซีนจำนวน 70 คนทางจังหวัดได้เพิ่มให้เป็น 385 คนทางกรมควบคุมโรค ได้ให้เพิ่มมาอีก 360 คนรวมเป็น 745 คน
         ในเร็วๆนี้เราจะได้เพิ่มอีกเพื่อเป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้เร็วที่สุดเพื่อจะฉีดให้ได้ 100 เปอร์เซนต์ให้ได้เจ้าหน้าที่จะได้ปลอดภัยซึ่งบุคลากรของโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช มีอยู่ประมาณ 2,001คนและเนื่องด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดทางเราจำเป็นต้องมีการเร่งฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่องโดยเมื่อวันที่ 8 เมษายน โดยมีนายแพทย์รัฐพล เวทสรณสุธี รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมผู้บริหารได้ร่วมกันฉีดวัคซีนโควิค 19 เข็มแรก เป็นการทดสอบระบบและวันที่ 9 เมษายนได้ทำการให้กับบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาล เพื่อเตรียมความพร้อมในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนและบุคลกรทางการแพทย์ อสม. ต่อไป
        สำหรับสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด19ที่สุพรรณบุรี ยังมีต่อเนื่องล่าสุดวันที่ 9 เมษายน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เปิดว่าพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกจำนวน 5 รายประกอบด้วย ชายไทยอายุ 37 ปีชาวอำเภอเมืองสุพรรณบุรี พนักงานประจำรถขยะเทศบาลตำบลท่าระหัด ชายไทยอายุ 37 ปีชาวตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี ชายไทยอายุ 30 ปีพนักงานประจำรถขยะเทศบาลตำบลท่าระหัด เด็กหญิงชาวไทยอายุ 12 ปีบ้านอยู่ ต.ท่าระหัด เด็กหญิงชาวไทยอายุ 13 ปีบ้านอยู่ ต.ท่าระหัด
        ทางด้านนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่าที่ได้ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ เห็นว่าสถานการณ์ในพื้นที่อำเภอเมืองสุพรรณบุรี นั้นเปลี่ยนไปเยอะมีการกระจายของโรคไปหลายจุดคณะกรรมการโรคติดต่อได้มีมติเฉพาะอำเภอเมืองให้มีความเข้มข้นมากขึ้นโดยห้ามนั่งดื่มสุราในร้านอาหารสถานบริการ และให้ปิดร้านไม่เกินสามทุ่ม กิจกรรมอื่นที่เสี่ยงต่อการติดโรคเช่นโต๊ะสนุกเกอร์ สปาร์ บ้านลม บ้านบอล โดยคำสั่งนี้จะมีผลในวันที่ 9 เมษายนส่วนพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดหรือจังหวัดพื้นที่สีแดงไม่ต้องกักตัว 14 วันแต่ขอให้แจ้งกับทางผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อสม.หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในพื้นที่ที่เดินทางเข้าไป เพื่อตรวจวัดไข้ ทำประวัติหากมีไข้สูงก็จะต้องมีการกักตัวดูอาการ และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะในอำเภอเมืองขอให้ใส่ใจในเรื่องมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันเราก็พยายามหากลุ่มเสี่ยงโดยการตรวจเชิงรุกที่ตลาดพอเพียงเชิญคนหลายๆกลุ่มมาตรวจว่ามีเชื้อหรือไม่โดยมีเป้าหมาย 3,000 รายถ้าตรวจแล้วไม่เจอคนติดเชื้อเพิ่มเติมเราก็วางใจได้ว่าเราสามารถควบคุมโรคได้เกือบหมดแล้วแต่ถ้าหากพบผู้ติดเชื้ออีกเจ้าหน้าที่ก็ต้องเร่งดำเนินการกันต่อไป