ลพบุรี-เศร้าวันครอบครัวลงสระหาปลาตาข่ายพันขาดับ..สุนัขเฝ้าไม่ห่าง
ภาพ-ข่าว:กฤษณ์ สนใจ
เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 14 เม.ย. 2564 พ.ต.ท.สันต์ภพ พลเรือง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.พัฒนานิคม ลพบุรี ได้รับแจ้งมีคนจมน้ำเสียชีวิตที่ท้ายบ้านหมู่ที่ 4 ต.ดีลัง ขณะนี้ศพยังจมอยู่ก้นสระน้ำ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.พัฒนานิคม นคร99 อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และประดาน้ำเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นสระน้ำกว้าง ยาวประมาณ 1 ไร่เศษ พบมีชาวบ้านมุงดูอยู่จำนวนหนึ่ง โดยมีเสียงร้องให้ของญาติดังระงม ซึ่งพี่สาวคนโตที่รุดมาดูเป็นคนแรกร้องให้ไปด้วย ชี้ไปในสระเชื่อน้องชายอยู่ในนี้แน่นอน และที่ริมสระน้ำมีสุนัขเพศผู้สีดำชื่อปกป้องอายุประมาณ 2 ปีเศษ และเพศเมียสีน้ำตาลชื่อแพนเค้กอายุไล่เลี่ยกัน เดินวนเวียนไปมารอบสระไม่ยอมไปไหน สุนัขทั้ง 2 ตัว เห่าและมองไปในน้ำตลอดเวลา ซึ่งเชื่อได้ว่าปกป้องและแพนเค้ก รักเจ้าของมาก คงเฝ้าดูอยู่ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่ประดาน้ำมาถึง ได้ลงงมประมาณ 10 นาที ก็พบร่างนายวิชา เชื้อมั่น อายุ 61 ปี จมอยู่ก้นสระที่ลึกประมาณ 8-10 เมตร โดยมีตาข่ายพันขาอยู่ทั้งสองข้าง เจ้าหน้าที่ได้แกะตาข่ายออกจากขา นำร่างขึ้นมาบนฝั่ง โดยผู้ตายสวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงขาสั้นสีดำ ตัวขาวซีด ซึ่งจากการชันสูตรพลิกศพคาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 15-16 ชั่วโมง
จากการสอบสวนญาติ และนางสมยศ เชื้อมั่น อายุ 58 ปี ภรรยาผู้ตาย ซึ่งฟื้นจากการเป็นลม กล่าวด้วยเสียงสะอึกสะอื้นปริ่มจะขาดใจ เล่าว่า เมื่อวานสามีมาขอเงิน 100 บาทเพื่อจะไปซื้อตาข่ายมาลงในสระของแม่ เพื่อหาปลาไปต้มแกงกินในวันครอบครัว โดยมีเสียงคัดค้านจากภรรยาและญาติว่าวันนี้ไม่ต้องไปหา พักผ่อนวันสงกรานต์เถอะ มีของกินอยู่แล้ว แต่สามีไม่ฟัง จนเวลาประมาณ 16.45 น. ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านมาที่สระของแม่ ประมาณ 200 เมตร โดยมีปกป้องและแพนเค้ก สุนัข 2 ตัว วิ่งตามมาด้วยตลอด ที่นายวิชาออกมาสวน และสระน้ำแห่งนี้ เนื่องจากสุนัขทั้งสองตัวนี้มีความผูกพันและรักและหวงนายวิชามาก
จนเวลาล่วงเลยข้ามคืน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ที่นายวิชาจะมานอนพักเล่นที่กระท่อมปลายสวน รุ่งเช้าก็กลับ จนเวลาล่วงเลยไปจนถึงเวลา 10.20 น. นายวิชาก็ยังไม่กลับ ญาติจึงได้มาดูที่สระเห็นเพียงรถจักรยานยนต์ รองเท้า โดยมีปกป้องและแพนเค้กเห่า และพยายามจะเดินลงไปในสระน้ำ ที่เห็นนายวิชาเจ้านายครั้งสุดท้าย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีถังแกลลอนสองใบลอยอยู่ห่างกัน จากปกติถังแกลลอนจะมัดติดกันเพื่อใช้ในการพยุงตัวในน้ำขณะลงตาข่ายหาปลา ซึ่งคิดว่าคงเกิดเหตุการณ์ไม่ดีแน่ จึงโทรแจ้งตำรวจ ประสานประดาน้ำจนพบศพก้นสระดังกล่าว ทั้งนี้คาดว่าขณะที่นายวิชากำลังลงตาข่าย ถังแกลลอนที่มัดติดกันเกิดหลุดออกจากกัน จนทำให้ต้องหาที่พยุงตัว ประกอบกับน้ำที่ลึกพยายามตะเกียก ตะกายโชคร้าย ขาไปพันกับตาข่ายสลัดไม่หลุดตาข่ายดึงจมน้ำ โดยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเอง และเรียกใครมาช่วยได้ก่อนจมน้ำดับสลดดังกล่าว ซึ่งทางสารวัตรเวรสอบสวนได้นำร่างผู้ตายส่ง รพ.พัฒนานิคม ก่อนส่งต่อไปยัง สถาบันนิติเวช ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพฯ เพื่อพิสูจน์สาเหตุที่แท้จริงต่อไป