สมุทรปราการ-คลัสเตอร์ใหม่แคมป์พักคนงานพบผู้ติดเชื้อ 129 ราย ยันไม่ล็อกดาวน์

ภาพ-ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์

         เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ที่ 5 พฤษภาคม 2564 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สมุทรปราการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้เป็นประธานการแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของจังหวัดสมุทรปราการ ครั้งที่ 20 ซึ่งในวันนี้พบมีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่จำนวน 226 ราย เป็นผู้ป่วยในจังหวัดสมุทรปราการจำนวน 193 ราย แยกเป็นอำเภอเมืองสมุทรปราการ 136 ราย อำเภอพระประแดง 30 ราย อำเภอพระสมุทรเจดีย์ 15 ราย อำเภอบางพลี 11 ราย อำเภอบางเสาธง 1 ราย รับมารักษาต่อในสมุทรปราการจำนวน 33 ราย
        นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้เปิดเผยว่า ในส่วนคลัสเตอร์พนักงานของบริษัทแห่งหนึ่งในย่านอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ที่พบพนักงานติดเชื้อโควิดจำนวน 151 คนเมื่อวานนี้ตามข่าวที่นำเสนอออกไปว่ามีการลุกลามเข้าไปในชุมชนรอบข้างโรงงานนั้น ในเรื่องนี้จริง ๆ แล้วมีผู้สัมผัสโดยรอบมันก็เป็นไปตามการสอบสวนโรค เพราะพนักงานทั้งหมด 293 ราย รวมทั้งญาติของแรงงานชาวไทยหรือแรงงานต่างด้าว ก็อยู่ในที่พักเดียวกัน อยู่ภายในบริเวณโรงงานทั้งหมด แต่ก็อาจจะมีปฎิสัมพันธ์ออกมาซื้อข้าวของด้านอก ก็เลยมีการลงไปสอบสวนโรคเป็นแอคถีบเคสไฟน์ดิ่ง ค้นหาตัวผู้ป่วยเนื่องจากมันเกิดเคสแล้วก็เลยต้องเข้าไปดูในชุมชน ซึ่งขณะนี้ทำไปแล้ว 90 กว่ารายก็อาจจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมจำนวน 9 ราย ก็อย่างที่เรียนไปแล้วว่าอันนี้เป็นวิธีการโดยปกติของทางสาธารณสุขโดยคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อก็ต้องลงไปควบคุมหลังจากที่มีผู้ติดเชื้อและสอบสวนโรคว่ามีโอกาสที่จะสัมผัสกับใครบ้างก็จะมีระดับของความเสี่ยงแตกต่างกันไปทั้งเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำก็เข้าไปแอคถีบเคสไฟน์ดิ่งตรวจหาเชื้อในชุมชนโดยรอบที่เกี่ยวข้อง
          ส่วนคลัสเตอร์ใหม่ในแคมป์คนงานในพื้นที่อำเภอเมือง ซึ่งก็เหมือนกันกับที่อำเภอพระสมุทรเจดีย์ ก็คนงานในบริษัท ไลท์ ทาแนล ในเขตอำเภอเมืองสมุทรปราการ เป็นโรงงานที่ประกอบกิจการที่ผลิตท่อซีเมนขนาดใหญ่มีพนักงานทั้งหมด 295 ราย ซึ่งได้กระจายจัดที่พักให้คนงานใน 3 แห่ง ทั้งแคมป์หลังวัดหนามแดง และแคมป์ที่แพรกษา นอกแคมป์อีกบางส่วน ใน 295 คน ก็พบผู้ติดเชื้อเป็นคนไทย 95 ราย เป็นแรงงานต่างด้าว 34 ราย รวมเป็น 129 คน ซึ่งพนักงานที่เป็นชาวไทยก็ได้ส่งไปรักษาตามสิทธิ์ประกันสังคม สิทธิ์ประกันทั่วหน้า ส่วนแรงงานต่างชาติก็ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลต่าง ๆ ตามที่ได้ทำประกันสังคมเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 โรงพยาบาลเมืองสมุทรปราการ โรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ ซึ่งทั้งหมดทางโรงพยาบาลได้มารับตัวไปรักษาทั้งหมดแล้ว
           ส่วนในกลุ่มรถเมล์เขียวสาย 365 ที่วิ่งระหว่างปากน้ำ – บางประกง ที่ประกาศหยุดให้บริการเนื่องจากมีพนักงานติดเชื้อโควิด 19 ซึ่งในเรื่องนี้มันก็จะกระทบคนที่ใช้รถใช้ถนน ฉะนั้นต้องไปดูพนักงานขับรถที่ว่าติดเชื้อนั้นว่าได้ไปตรวจโรคโควิด 19 ที่ใด และเข้ารับการรักษาที่ใด มันต้องมีต้นทาง ถ้าเกิดเราทราบและเห็นเอกสารทางสาธารณสุขก็จะเข้าไปควบคุมโรค โดยการไปดูและสอบสวนโรคว่าเขาจะไปทำให้คนไหนมีความเสี่ยงสูงความเสี่ยงต่ำมากน้อยแค่ไหน ในส่วนที่ว่าสมุทรปราการจะมีแนวโน้มที่จะล็อกดาวน์หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีเรื่องของล็อกดาวน์ ปกติที่ผ่านมาก็พิจารณาจากแนวทางของ ศปภ.ใหญ่ในการที่จะให้ ล็อกพื้นที่ และเราอยู่ในกลุ่มที่มีการความควบคุมพื้นที่สูงสุด ในกลุ่มสีแดงเข้มและจังหวัดที่อยู่ติดกับเราก็สีแดงเข้มเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี และอีกหลายจังหวัดที่ติดอยู่กับจังหวัดเรา การล็อกดาวน์ก็ไม่เกิดประโยชน์ โดยเฉพาะจะกระทบต่อเศรษฐ์กิจโดยรวม ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะประกาศล็อกดาวน์แต่อย่างใด
           นอกเหนือจากนี้จังหวัดสมุทรปราการ จะมีการรณรงค์ด้วยความเข้มข้นด้วยการฉีดวัคซีนให้กับคนในพื้นที่ เราคาดหมายว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนได้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไประยะเวลา 6 เดือน ให้ได้ร้อยละเจ็ดสิบ ประมาณ 9 แสนคนเศษ เพราะการที่เราได้ฉีดวัคซีนก็จะเป็นการลดพื้นที่ความเสี่ยง ลดจำนวนบุคคลที่เสี่ยงลงไป ก็น่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นและมีโอกาสที่กลับคืนเข้าสู่สภาวะปกติโดยไว้ ก็อยากจะฝากถึงประชาชนในการปฏิบัติตัวในสถานการณ์ขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยและการสนทนาครั้งใดก็ต้องขอความร่วมมือและเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนต้องดูแลตัวเองในการสวมหน้ากากอนามัย เป็นสิ่งสำคัญการล้างมือบ่อย ๆ การเว้นระยะห่างการใช้แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นมาตรการของทางส่วนกลางได้กำหนด จะช่วยให้ท่านได้ห่างไกลจากโรคโควิด 19 อย่างแน่นอนก็ต้องขอความร่วมมือจากทุกคน อันนี้เป็นสาระสำคัญในยามนี้