อุดรธานี- จับแล้ว พนักงานห้างฯดัง “ฉ้อโกง” โชห่วย สูญ 6.9 ล้าน

อุดรธานี- จับแล้ว พนักงานห้างฯดัง “ฉ้อโกง” โชห่วย สูญ 6.9 ล้าน

ภาพ-ข่าว:ทีมข่าวภูมิภาคจังหวัดอุดรธานี

ร้านโชห่วย ค้าส่งทั่วเมืองอุดรฯ ทยอยเข้าแจ้งความจับ พนักงานขายห้างสรรพสินค้าชื่อดังสาขาอุดรธานี แล้ว 9 ราย เสียหาย ยอดสูญ 6.9 ล้าน

           จากกรณี เจ้าของโชห่วย ค้าส่ง ร้อง ถูกตุ๋นร่วม 10 ล้าน !ห้างฯใหญ่ขาย ไม่มีใบเสร็จ เผย หน.แผนกฯ แอบขายหลังร้านถูกกว่าในห้างฯ กลุ่มร้านโชห่วย ผู้ค้าส่งร่วม 10 ราย รวมตัวกันแจ้งความเอาผิดห้างฯดัง หลังแจ้งความ เจอเรียกไปขู่ถึงในห้างฯ กลุ่มผู้ค้าโชห่วย ค้าปลีก – ส่งรายใหญ่ชื่อดังร่วม 10 รายรวมตัวกันร้องทุกข์ ถูกฉ้อโกงแต่ละรายกว่า 1 ล้านบาท ผจก.ห้างฯดัง เสนอให้เป็นลูกค้าวีไอพี ซื้อสินค้าหลังห้างฯได้ถูกกว่าซื้อในห้างฯ แต่ไม่มีใบเสร็จให้! ซื้อขายกันมายอดขายหลายร้อยล้าน จู่ๆ สินค้าไม่มีส่งให้ แถมยังเอาเงินโอนไปเข้าบัญชี ผจก.ห้างฯ สูญรวมกว่า 10 ล้านบาท ผู้เสียหายเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคู่กรณีเป็นห้างฯระดับบิ๊ก ยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ แอบขายหลังห้างฯ อ้างเพื่อทำยอดขาย แบบไม่มีใบเสร็จ แถมเจอขู่ “ให้ข้อมูลให้ดีนะ ระวังจะถูกฟ้องกลับ”
           ต่อมา เจ้าของร้านค้าส่งชื่อดังใน จ.อุดรธานี พร้อมด้วยเพื่อนๆร่วมกิจการค้าส่ง-ปลีก รายใหญ่ในอุดรธานี ร่วมสิบร้านค้า ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทร์กอง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกรณีร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ น.ส.ป.อายุ 44 ปี ขอสงวนชื่อนามสกุลจริง ตำแหน่งหัวหน้าแผนกขายส่งสินค้า ของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ชื่อดังระดับประเทศ สาขาอุดรธานี ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง” โดย น.ส.พี ได้รับความเสียหายจากการสั่งสินค้านอกระบบของห้างฯดังผ่าน น.ส.ป.ที่เป็นหัวหน้าแผนกขายส่งสินค้าในห้างฯ ได้โอนเงินสั่งซื้อสินค้าไปรวม 1,444,500 บาท เข้าบัญชี น.ส.ป.เป็นบัญชีธนาคาร แห่งหนึ่งสาขาตลาดอุดรเมืองทองเจริญศรี โดยโอนในยอดต่างๆตามรายการสินค้าหลายประเภท เช่น เครื่องดื่มชูกำลัง เกลือแร่ สุรา ซอส เป็นต้น โดย น.ส.ป.แจ้งว่าการขายระบบนี้ ลูกค้าต้องโอนเงินเข้าบัญชีของ น.ส.ป. แล้ว น.ส.ป.จะโอนไปให้เพื่อนอีกคน เพื่อให้สั่งซื้อสินค้าจากห้างฯ ส่วนลูกค้าฯที่สั่งซื้อ ต้องไปรอรับสินค้าที่ด้านหลังห้างฯ ที่บริเวณชั้นสองทางขึ้นด้านหลังในช่องส่งของ วีไอพี เมื่อรับสินค้าไปครบแล้วก็ออกจากห้างฯไปได้โดยไม่มีสิทธิ์ขอใบเสร็จรับเงินแต่อย่างใด โดยทาง น.ส.ป.อ้างว่า เป็นระบบขายหลังร้าน เพื่อเพิ่มยอดขายให้เฉพาะลูกค้าวีไอพี จนมีคนหลงเชื่อถูกหลอกให้โอนเงินไปหลายราย โดยก่อนหน้านี้มีการทยอยเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.เผ่า แสงกงพลี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ไว้แล้ว

          ล่าสุด วันที่ 24 พ.ค.64 พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้หารือร่วมกับ พ.ต.ต.บรรจง พาโคตรสว.สส.ฯ พร้อมประชุมทีมสอบสวนสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับพนักงานห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
          พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก.ฯเปิดเผยว่า ผู้เสียหายตอนนี้ เข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 9 ราย มียอดโอนเงินรวมแล้วประมาณ 6.9 ล้านบาท เมื่อสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถแจ้งข้อกล่าวหาให้กับ นางสาว ป.นามสมติ อายุ 45 ปี อยู่หมู่ที่ 11 ต.หนองหัวคู อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ตำแหน่ง ตำแหน่ง หัวหน้าแผนกขายส่งสินค้า บริษัท แห่งหนึ่งจำกัด(มหาชน) สาขาอุดรธานี (ห้างฯอุดรธานี ) เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์และการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน ฉ้อโกงทรัพย์ อันเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341
          พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทร์กอง กล่าวอีกว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2564 นายประพัทธ์ สุรชวาลา ผู้เสียหาย กับพวก รวม 9 คนได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนางสาว ป. ” ผู้จัดการแผนกขายส่งสินค้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง สาขาอุดรธานี ว่าได้กระทำการหลอกลวงผู้เสียหาย ให้สั่งซื้อสินค้ากับห้างฯ สาขาอุดรธานี กับนางสาวบุญอ้อม ฯ ซึ่งเป็นผู้จัดการแผนกสินค้าขายส่ง มีหน้าที่ดูแลการขาสินค้าในแผนกขายส่งให้กับลูกค้า โดยอ้างว่าการซื้อสินค้ากับทางห้างฯ สาขาอุดรธานี หากซื้อผ่านผู้ต้องหาซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกขายส่งสินค้า จะสามารถลดราคาสินค้าให้กับลูกค้าได้ในราคาที่ถูกกว่าทางห้างฯ จำหน่าย และหากมีการชำระเงินค่าสินค้าเป็นเงินสด หรือโดยการโอนเงินค่าสินค้าเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาตลาดเมืองทองเจริญศรี ของผู้ต้องหา ก็จะมีส่วนลดราคาสินค้าอีกส่วนหนึ่ง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ สั่งซื้อสินค้ากับผู้ต้องหา โดยการชำระเป็นเงินสด และโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา เมื่อผู้ต้องหาได้รับเงินแล้ว ปรากฏว่าไม่สามารถจัดซื้อสินค้าหรือจัดส่งสินค้าให้กับผู้เสียหายได้ เมื่อสอบถามก็จะได้รับการบ่ายเบี่ยง มาโดยตลอด ผู้เสียหายจึงได้ทราบว่าผู้ต้องหาได้หลอกลวงเอาเงินจากผู้สียหาย โดยไม่ได้ดำเนินการซื้อสินค้าให้กับผู้เสียหายแต่อย่างใด
         พ.ต.ท.ธานินทร์ ฯ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นความผิดในคดีอาญา สามารถเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ ส่วนทางห้างฯจะมีความผิดทางแพ่ง ผู้เสียหายสามารถเรียกร้องความเสียหายคืนได้เนื่องจากเป็นการซื้อขายผ่านพนักงานของห้างฯ และเหตุเกิดภายในห้างฯ แต่ห้างฯ ยังปฏิเสธการเกี่ยวข้องฯ กับการซื้อขายหลังร้านแม้จะมีการซื้อขายกันในห้างฯกับพนักงานของห้างฯ

          จากนั้นได้เรียกให้นางสาว ป. ผู้ต้องหามาพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา การกระทำความผิดฐาน ฉ้อโกง อันเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ระวางโทษ จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พ.ต.ท.ธานินทร์ ฯ กล่าว

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!