สตูล-ปศุสัตว์ยัน มั่นใจ”หมูปลอดเชื้อ โรคเพิร์ส”แม้อยู่ใกล้สงขลา ก็สามารถสกัดได้

ภาพ-ช่าว:ชิดชนก พุดทอง

              นายเทียนชัย บุญทวีสง นายสัตวแพทย์ ชำนาญการ จ.สตูล กล่าวว่า ตนเองได้รับมอบหมายจาก นายบุญส่ง รัตนพร ปศุสัตว์ จ.สตูล ในการเฝ้าระวัง เชื้อโรคเพิร์ส ในหมูที่ระบาดอยู่ในพื้นที่ สงขลา พัทลุง อยู่ในขณะนี้ ถึงแม้นว่า เราจะเป็นจังหวัดที่มีเขตรอยต่อ สตูล – รัตภูมิ จ.สงขลา ก็ตาม เราเชื่อว่าเราสามารถสกัดได้ อย่างแน่นอน เนื่องจากว่า เรามีฟาร์มหมู่ในพื้นที่ จ.สตูลไม่มากเหมือนจังหวัดอื่น โดยที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ มีเพียง 120 ฟาร์มทั้งจังหวัด และมีประชากรหมูอยู่ที่ 15,000 – 18,000 ตัว และในตอนนี้ น่าจะลดน้อยลงเนื่องจากเจ้าของฟาร์มได้ทยอยขายหมูไปบ้างแล้ว และบางฟาร์ม ก็ อาจจะไม่ลงหมูก่อนในช่วงนี้เพราะกลัวความเสียง ซึ่งราคาลูกหมู จะมีราคาตัวละ 2500 – 3000 บาท และราคาอาหารก็สูงขึ้น ซึ่งเมื่อเกษตรกร ทราบข่าวว่า ได้เกิดเชื้อเพิร์สในหมู่ ทำให้ทุกฟาร์มต้องระวังกันหมด เพราะหากเกิดตรวจพบว่า หมูมีเชื้อ 1 ตัว ก็จะถูกทำลายทิ้ง ทั้งฟาร์ม และ ฟาร์มที่อยู่ในพื้นที่ระยะห่าง ไม่เกิน 1 กิโลเมตรก็จะถูกทำลายไปด้วย ดังนั้น เจ้าของฟาร์ม เอง ก็จะช่วยกัน ในการเฝ้าระวัง ไม่ให้ฟาร์มของตนเองหรือหมูติดเชื้อ อย่างแน่นอน ซึ่งหากหมูติดเชื้อ นั้นก็คือ การขาดทุน อย่างแน่นอน และแต่ละฟาร์มที่เลี้ยงนั้น จำนวนที่เลี้ยง ไม่ต่ำกว่า 50 ตัว หากเกิดติดเชื้อ ขึ้นมานั้นคือการขาดทุนไม่ต่ำว่า 1 ล้านบาทแน่นอน จึงทำให้ ทุกคนต้องช่วยกันเฝ้าระวัง ไม่ให้นำหมูต่างพื้นที่ เข้ามาเลี้ง โดยเฉพาะจาก สงขลา พัทลุง ซึ่งมีการระบาดอยู่ในขณะนี้
          สัตวแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เราได้มีการประสานทุกฝ่ายในการตรวจสอบการนำเข้า ซากสัตว์ ทุกชนิด ที่นำเข้ามาในพื้นที่ จ.สตูล โดยเฉพาะหมู ที่ มีการนำเข้ามาจากสงขลา หากนำเข้ามา ยังด่าน กักกันสัตว์ ที่ อ.ทุ่งนุ้ย และ อ.ทุ่งหว้า ซึ่งทั้ง 2 เขต เป็นเขต รอยต่อ โดยเฉพาะ ที่ อ.ทุ่งนุ้ย นั้น เราจะอยู่ห่างจากสงขลาเพียง 1 กิโลเมตร และมีการระบาดหนักของเชื้อเพิร์สในหมูอยู่ในขณะนี้ หากนำเข้ามาผ่านช่องทางที่ถูกต้อง เราสามารถสกัดได้ แต่ปัญหาการนำพาเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติ ผ่านทางป่า ที่เราไม่สามารถเฝ้าระวังได้ อันนี้ อันตรายแน่นอน ซึ่งการตรวจจับอาจจะยากนิดนึง แต่เรา มีแผน ต่อไปคือ เราจะสุ่มตรวจตามแผงขายหมู่ ทุกแผง โดยเฉพาะ แผงเล็ก ๆ เราจะมีการส่งเจ้าหน้าที่ สุ่มตรวจ ตั้งแต่ใบอนุญาตขาย เพราะสิ้นส่วนทุกส่วนของหมูจะมีใบอนุญาตที่แตกต่างกันไป จนถึง สังเกตสีของ หมู่ที่ขาย ด้วยว่ามีการฆ่ามาเมื่อไหร่ เพราะ เจ้าหน้าที่สามารถสังเกตได้ว่า เนื้อหมูที่ฆ่า มาวันนี้ กับฆ่ามาหลายวันสีจะแตกต่างกัน และประเด็นเส้นสาย เมื่อมีการจับกุม ผู้ขายหมูก็จะมีการโทรตาม คนโน้น คนนี้ เข้ามาเคลีย โดยเฉพาะองค์การท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเรี่องนี้ ไม่ควรเป็นอย่างยิ่งดังนั้น คนที่ทำงานหน้าด่านจะหนักใจ มากในการทำงาน ตรงนี้ แต่เราโชคดีที่สตูล ยังไม่พบ เชื้อ ซึ่ง ตนเองมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง ว่าหากพบ เราไม่เอาไว้แน่