เชียงใหม่-พบผู้ติดเชื้อ 5 ราย พบเป็นสายพันธ์ุ Delta

เชียงใหม่-พบผู้ติดเชื้อ 5 ราย พบเป็นสายพันธ์ุ Delta

ภาพ-ข่าว:สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

       เชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อ 5 ราย พบเป็นสายพันธ์ุ Delta เพิ่ม 3 ราย ย้ำผู้ที่เดินทางเข้าเชียงใหม่ทุกคน ต้องลงทะเบียน CM-Chana พร้อมเตือนเอาผิดผู้ให้ที่พักโดยไม่แจ้ง
         วันนี้ (3 ก.ค. 64) จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่ม 5 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 4,185 ราย รักษาหายแล้ว 4,101 ราย รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 58 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลรัฐ 47 ราย และ โรงพยาบาลเอกชน 11 ราย แยกเป็นกลุ่มสีตามอาการ แยกเป็นผู้ป่วยสีเขียว 34 ราย สีเหลือง 17 ราย สีส้ม 6 ราย และสีแดง 1 ราย วันนี้ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 26 รายเท่าเดิม
          การตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มเสี่ยงสูงหรือผู้สัมผัส เมื่อวานนี้ (2 ก.ค. 64) ตรวจไปทั้งหมด 1,060 ราย พบติดเชื้อ 5 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.47 ส่วนปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อ ช่วงนี้จะพบผู้ที่สัมผัสเชื้อจากต่างจังหวัด แล้วเดินทางเข้ามาจังหวัดเชียงใหม่ทุกวัน รายใหม่วันนี้ 3 ใน 5 ราย ก็เช่นกัน สัมผัสโรคจากต่างจังหวัดแล้วเดินทางเข้ามาตรวจพบเชื้อในจังหวัด และอีก 2 รายเป็นผู้สัมผัสในชุมชนจากกิจกรรมที่ดำเนินการร่วมกัน ทั้งนี้จึงขอเน้นย้ำผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ ต้องเคร่งครัดในมาตรการจังหวัดเชียงใหม่ ลงทะเบียน CM Chana และกักตัวอย่างจริงจัง และการกักตัวที่บ้านท่านต้องแยกห่างจากคนในครอบครัวให้ชัดเจน ทั้งแยกห้องนอน ห้องน้ำ การรับประทานอาหาร และกิจกรรมที่ทำร่วมกัน จึงจะทำให้ญาติพี่น้องของท่านปลอดภัยจากโรคโควิด-19 หากไม่ปฏิบัติตาม ก็จะพบผู้สัมผัสจำนวนมาก และอาจระบาดขยายวงกว้างเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ๆ ได้  สำหรับคลัสเตอร์จังหวัดเชียงใหม่ เหลือเฝ้าระวัง 2 คลัสเตอร์ ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง 1 คลัสเตอร์ และ คลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด 1 คลัสเตอร์ แต่ทั้ง 2 คลัสเตอร์ ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่หลายวันมาแล้ว
            สำหรับการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ Delta เมื่อวานนี้ตรวจหาสายพันธุ์เชื้อ พบเป็นสายพันธ์ Delta เพิ่ม 2 ราย และมีการแพร่ระบาดในกลุ่มญาติใกล้ชิดอีก 1 ราย รวมเพิ่ม 3 ราย รวมทั้งหมดจากเดิมที่รายงานไปแล้ว 14 ราย แต่ยังเป็นการติดเชื้อที่แพร่กันในวงจำกัด ในกลุ่มเครือญาติ เนื่องจากผู้ติดเชื้อที่นำเข้ามามีการกักตัวและตรวจพบเร็ว และมีการควบคุมโรคอย่างรวดเร็ว สายพันธุ์ Delta อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดได้รวดเร็ว แต่การก่อให้เกิดความรุนแรงของโรคไม่ว่าสายพันธุ์ไหนก็ไม่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงขอฝากเตือนให้พี่น้องประชาชน ให้ปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หากปฏิบัติได้ดีเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อะไรก็จะไม่เกิดการระบาดเป็นวงกว้าง รวมทั้งต้องร่วมใจกันฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ให้มากๆ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางเข้ามาจากพื้นที่เสี่ยงต้องกักตัวและรักษาระยะห่างจากบุคคลใกล้ชิด
             สำหรับรายละเอียดของผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 ราย มีดังนี้ 1. รหัส CM 4264 ผู้ติดเชื้อชาย อายุ 46 ปี ภูมิลำเนาอำเภอสันทราย เริ่มมีอาการไข้ ไอ มีเสมหะ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 64 โดยเมื่อ 27 มิ.ย. ได้เดินทางไป กทม. เพื่อเยี่ยมแม่ที่ป่วย พักที่คอนโดบางโพ แขวงบางซื่อ 28 มิ.ย. พาแม่ไปตรวจที่ รพ.ยันฮี 30 มิ.ย. แม่มีอาการหายใจลำบาก พาไปตรวจที่ รพ. มงกุฎวัฒนะ ต่อมาพบว่าติดเชื้อ COVID-19 วันที่ 1 ก.ค. ขับรถส่วนตัวกลับเชียงใหม่ และไปรับการตรวจหาเชื้อที่ รพ. เอกชน นอนรอผลอยู่ในรถส่วนตัว ไม่ได้กลับบ้าน เมื่อจากผลว่าติดเชื้อ จึงเข้ารับการรักษาทันที รายนี้ไม่มีผู้สัมผัสในจังหวัด เนื่องจากเมื่อเข้ามาถึงเข้ามารับการตรวจทันที และกักตัวรอผลในรถส่วนตัว  2 รหัส CM 4265 ผู้ติดเชื้อชาย อายุ 58 ปี ภูมิลำเนาอำเภอดอยเต่า เริ่มมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น เมื่อ 29 มิ.ย. 64 โดยช่วง 25-28 มิ.ย. ได้ไปร่วมงานศพที่บ้านฉิมพลี หมู่ 4 ตำบลดอยเต่า สัมผัสกับญาติที่เดินทางมาร่วมงานศพจาก กทม. 8 ราย ทั้งหมดไม่ Scan CM-Chana และรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคในพื้นที่ โดยวันที่ 29 เดินทางไปหลายแห่งในอำเภอจอมทอง และดอยเต่า และไปตรวจที่ รพ. ดอยเต่า เนื่องจากจมูกไม่ได้กลิ่น โดยไม่ได้แจ้งความเสี่ยงให้กับเจ้าหน้าที่ จึงไม่ได้ตรวจหาเชื้อ วันที่ 30 มิ.ย. พักอยู่ที่บ้าน และทราบว่าผู้ที่มาจาก กทม. 1 รายพบว่าติดเชื้อ COVID-19 ที่ กทม. วันที่ 1 ก.ค. จึงเข้าไปตรวจหาเชื้อที่ รพ. ดอยเต่า วันที่ 2 ก.ค. พบผลเป็นบวก รักษาตัวที่ รพ. จอมทอง รายนี้มีผู้สัมผัสจำนวนมาก ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 4 ราย สัมผัสร่วมบ้าน 2 ราย ร่วมโต๊ะอาหารในงานศพ 2 ราย ทั้งหมดอยู่ระหว่างรอผลตรวจ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ คือ ผู้ร่วมงานศพไม่เกิน 150 ราย ตรวจแล้ว 15 ราย พรุ่งนี้นัดตรวจคัดกรองทั้งหมด และบุคลากรทางการแพทย์ รพ. ดอยเต่า 12 ราย ทั้งหมดที่ตรวจแล้วกำลังรอผลตรวจ
            3. รหัส CM 4266 เพศชาย อายุ 63 ปี ภูมิลำเนาสันกำแพง เริ่มมีอาการอ่อนเพลีย ครั่นเนื้อครั่นตัว เมื่อ 28 มิ.ย. โดยวันที่ 17 มิ.ย. เดินทางไป กทม. ด้วยรถยนต์ส่วนตัวพร้อมลูกสาว เข้าพัก และติดต่อหน่วยงานหลายแห่ง วันที่ 21 มิ.ย เดินทางกลับเชียงใหม่ และกักตัวที่บ้านจนกระทั่งวันที่ 2 อาการป่วยไม่ดีขึ้นจึงเข้ารับการตรวจที่ รพ. มหาราชนครเชียงใหม่ และทราบผลเป็นบวกในเวลาต่อมา เข้ารับการรักษาที่ รพ.มหาราชฯ รายนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพียง 1 ราย คือ บุตรสาว กำลังรอผลตรวจ ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำไม่มี เนื่อง จากมีการกักตัวที่บ้าน 4. รหัส CM 4267 เพศหญิง อายุ 21 อาชีพพนักงานบริษัท เริ่มมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ วันที่ 2 ก.ค. 64 เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจาก กทม. พร้อมกับเพื่อน และผู้ติดเชื้อรหัส CM 4251 เมื่อทราบผลตรวจของ CM 4251 เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. จึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อ ผลเป็นลบ จึงเข้ารับการกักกันที่สถานกักกันของรัฐพร้อมกับเพื่อนอีก 1 ราย ระหว่างกักตัวเริ่มมีอาการ ทีมตรวจคัดกรอง สสจ. เชียงใหม่จึงตรวจหาเชื้อให้อีกครั้ง ผลการตรวจครั้งที่ 2 พบเชื้อ เข้ารักษาตัวที่ รพ. นครพิงค์ ไม่มีผู้สัมผัสเพิ่ม เนื่องจากตรวจพบขณะกักตัวใน Local Quarantine
            5. รหัส CM 4268 เพศชาย อายุ 43 ปี ภูมิลำเนาอำเภอหางดง เริ่มมีอาการไข้ เจ็บคอ เมื่อ 29 มิ.ย. ผู้ติดเชื้อรายนี้เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของ CM 4238 อาจารย์สอนดนตรี ร่วมกิจกรรมเล่นรถบังคับวิทยุ ที่ลานชั้น 2 ตลาดศิริวัฒนา พอทราบว่าเพื่อนติดเชื้อ เข้ารับการตรวจหาเชื้อเมื่อ 27 มิ.ย. ผลเป็นลบ ระหว่างกักตัวที่บ้านเริ่มมีอาการ วันที่ 30 มิ.ย. ไปตรวจที่คลินิกโชตนา ได้ยามารับประทาน อาการดีขึ้น วันที่ 2 ก.ค. เข้ามารับการตรวจอีกครั้ง พบผลบวก กำลังเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล อยู่ระหว่างสอบสวนหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำเพิ่มเติม
            สำหรับผู้เดินทางเข้ามาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด และได้ดำเนินการลงทะเบียน CM Chana สะสม 22,939 ราย ติดตามตัวได้ 19,063 ราย คิดเป็นร้อยละ 83.10 โดยอำเภอเมืองเชียงใหม่ติดตามตัวได้น้อยที่สุด เพียงร้อยละ 71.33 ส่วนผู้ที่ไม่ลงทะเบียน CM Chana ที่ทีมโควิดหมู่บ้านติดตามได้เพิ่มมากขึ้นถึง 108 ราย พบผู้กระทำผิดนี้มากในอำเภอแม่แตง ฝาง สันทราย และแม่อาย แสดงว่ายังมีผู้ที่ทีมโควิดหมู่บ้านยังหาตัวไม่พบอีกจำนวนมาก ดังนั้น ขอให้เจ้าบ้าน ผู้ให้ที่พักอาศัย โรงแรม คอนโด หอพักต่างๆ ต้องแจ้งผู้ที่เข้าพักให้ปฏิบัติตามคำสั่ง คณะกรรมการโรคติดต่อฯ และท่านต้องแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าพนักนักงานในพื้นที่ทันที ถ้าไม่ปฏิบัติจะถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย
             สำหรับการฉีดวัคซีนจังหวัดเชียงใหม่ ในสถานการณ์เช่นนี้ ประชาชนทุกคนต้องรีบตัดสินใจเข้ามาร่วมเป็นก๋ำแปงเวียง ปกป้องโรคโควิด-19 ให้คนเชียงใหม่กัน โดยร้อยละ 70 ของประชากรจังหวัดเชียงใหม่ที่ต้องรับการฉีดวัคซีน ประมาณ 1.2 ล้านคน ขณะนี้มีผู้ประสงค์ฉีดแล้ว 851,598 คน คิดเป็นร้อยละ 71 คงค้างอีกร้อยละ 29 จึงจะไปถึงเป้าหมายในการเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ที่ป้องกันโรคโควิด-19 ได้ โดยขณะนี้มีผู้ที่ได้รับการฉีดไปแล้ว 144,195 คน คิดเป็นร้อยละ 12 จึงขอเชิญชวนพี่ทุกท่านที่ยังลังเล หรือไม่ประสงค์ฉีด ให้รีบจองคิวฉีดผ่านระบบ “ก๋ำแปงเวียง” ที่เดียวเท่านั้น มาร่วมกันเป็นฉีดวัคซีน เพื่อเชียงใหม่จะได้เดินหน้าต่อไป

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!