นครสวรรค์-ปัญหาทุ่งแว่นบาน ชาวบ้านคาใจประมง

ภาพ-ข่าว:ชาติชาย เกียรติพิริยะ

       ปัญหาทุ่งแว่นบาน..!! ชาวบ้านคาใจ ประมงเอาอะไรคิด แล้วติดอะไรจึงไม่ให้ อบจ. แจ้งค่าซ่อม 39 ล้านเทศบาลทับกฤชไหวหรือ เงินที่เก็บไปแล้วอยู่ไหน
          สืบเนื่องจากกรณีที่ทาง อบจ.นครสวรรค์ ทำเรื่องขอใช้พื้นที่บึงบอระเพ็ด ที่บ้านทุ่งแว่น ตำบลทับกฤช อำเภอชุมแสง เพื่อทำโครงการตามศาสตร์พระราชา เศรษฐกิจพอเพียง โคกหนองนาโมเดล ศูนย์เรียนรู้ด้านการเกษตร ประมง ปศุสัตว์ ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และพัฒนาป่าไม้
          ขณะนี้กำลังเกิดความสับสนในเรื่องการยินยอมของหน่วยราชการที่ดูแลอยู่คือ ประมง โดยทางประมงยินยอมให้เทศบาลตำบลทับกฤชเข้าไปบริหารจัดการ มีการเก็บเงินจากชาวบ้าน แต่เวลาผ่านมาอย่างยาวนานหลายปี ไม่มีความคืบหน้าในการพัฒนา และเกิดปัญหาฟ้องร้องกันระหว่างเทศบาลทับกฤชกับชาวบ้าน โดยไม่มีส่วนราชการใดเข้าไปดูแลแก้ไข ต่อมาทางประมงซึ่งมีอำนาจในการพิจารณาว่าจะให้หน่วยงานใดเข้าไปบริหารจัดการ ก็ไม่พิจารณา ก่อนที่จะส่งเรื่องไปยังกรมธนารักษ์ ทราบจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า ทางเทศบาลทับกฤชมีการทำบันทึก รวมถึงการเรียกเก็บเงินจากชาวบ้านตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์คือ ต้องไม่กระทำการเชิงพานิชย์ ชาวบ้านจึงมีข้อสงสัยในวิธีการ ขั้นตอนการพิจารณา รวมไปถึงการดำเนินการของประมง หลายประการ คือ
           1.กระบวนการในการพิจารณาของประมงในการยินยอมให้ใช้พื้นที่ ที่ทางประมงใช้กับเทศบาลทับกฤช และใช้กับ อบจ.นครสวรรค์ ใช้ระเบียบ วิธีการเดียวกันหรือไม่ แล้วคิดอย่างไรจึงยินยอมให้เทศบาลทับกฤชใช้พื้นที่ และได้พิจารณาเรื่องศักยภาพของหน่วยงานหรือไม่ พิจารณาอย่างไร 2.ระยะเวลาที่ทางเทศบาลทับกฤชยื่นเรื่องขอใช้พื้นที่ น่าจะเกิดขึ้นก่อนปี 2557 หรือในปี 2557 เพราะเห็นมีใบเสร็จเรียกเก็บเงินชาวบ้านในปี 2557 ทำไมจึงยังไม่เสร็จสิ้นตามกระบวนการ เรื่องอยู่ที่ใคร อยู่ที่ประมงหรืออยู่ที่ธนารักษ์ ถ้าอยู่ที่ประมง ทำไมประมงไม่ยื่นเรื่องไปตามขั้นตอน ถ้าอยู่ที่ธนารักษ์ ทำไมธนารักษ์จึงยังไม่อนุมัติ 3.เรื่องของอำนาจการพิจารณาขอใช้พื้นที่ ในเบื้องต้น ถือว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของประมง ทำไมประมงไม่พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ทำไมจะต้องขอให้ทางจังหวัดตั้งคณะกรรมการเข้าไปศึกษาและพิจารณา 4.ในกรณีการเรียกเก็บเงินที่เทศบาลทับกฤชดำเนินการไปแล้วนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ ประมงก็ทราบเรื่อง แต่ด้วยเหตุใดจึงไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องการเก็บเงิน มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรหรือไม่ 5.ในส่วนของการซ่อมแซมที่ทางประมงว่าต้องใช้งบประมาณมากถึง 39 ล้านบาท ชาวบ้านสงสัยว่า ทำไมค่าซ่อมเยอะมาก แล้วเทศบาลมีงบประมาณมากพอที่จะมาซ่อมไหม แล้วหลายปีที่ผ่านมาทำไมไม่มีใครเข้าไปดูแลบริหารจัดการ 6.อบจ.เข้าไปตรวจสอบดูสภาพจริงในพื้นที่ พร้อมจัดโครงการ บุคลากร งบประมาณรองรับการพัฒนาที่ชัดเจน ทำไมจึงยืนยันจะยินยอมให้เทศบาลทับกฤชเข้าไป ซึ่งในที่ประชุมของจังหวัด ผู้ว่าราชการก็แจ้งว่าควรยินยอมให้ อบจ.เข้าพัฒนา เพราะมีโครงการ มีบุคลากร มีงบประมาณชัดเจน อบจ.มีศักยภาพมากพอ
          จากข้อมูลความเป็นจริงที่ชาวบ้านให้ดูหลักฐาน และจากการเข้าศึกษาสภาพปัจจุบันในพื้นที่ ทาง อบจ.จัดคณะเข้าไปเก็บข้อมูล ทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ทั้งหมด ชาวบ้านเข้าใจและยินยอมให้ความร่วมมือกับ อบจ. ขณะที่เทศบาลทับกฤชมีเรื่องฟ้องร้องเป็นคดีความกับชาวบ้าน น่าจะเป็นเครื่องวัดประกอบการพิจารณาของประมงได้ ชาวบ้านยังคงมีข้อกังขา ข้อสงสัยที่คาใจอยู่ว่า เพราะอะไรจึงไม่ยินยอมให้ อบจ.เข้าพัฒนา มีเบื้องหลังอะไรหรือไม่ หรือมีความสัมพันธ์อะไรที่ลึกซึ้งระหว่างเทศบาลกับประมงหรือไม่ แล้วเงินที่ทางเทศบาลเก็บไป เงินนั้นอยู่ที่ไหน หรือไปอยู่กับใคร