เชียงใหม่-สั่งสถานศึกษาห้ามเรียน On site ตรวจเข้มผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงทุกเส้นทางคมนาคม
ภาพ-ข่าว:นันธิกา กิจปาโล/ศราวุธ เจิมจันทร์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ มีมติยกระดับมาตรการจัดการเรียนการสอน สั่งทุกสถานศึกษาห้ามเรียน On site และไม่อนุญาตให้นักเรียนและครูผู้ดูแลเด็กหอพักนอน เดินทางกลับภูมิลำเนา พร้อมตรวจเข้มผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงทุกเส้นทางคมนาคม Swab ทุกคน ที่ไม่มีหลักฐานการฉีดวัคซีนตามกำหนด
วันนี้ (11 ก.ค. 64) ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกคำสั่งที่ 71/2564 เรื่องมาตรการจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2564 นั้น จากการสอบสวนโรคพบว่ามีการติดเชื้อในจังหวัดเชียงใหม่ที่ไม่สามารถระบุแหล่งของโรคได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง และอาจกระจายเข้าสู่สถานศึกษาได้ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้มีมติ ปรับมาตรการการใช้อาคารเรียนหรือสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในสถานศึกษา โดยออกคำสั่งที่ 72/2564 กำหนดให้โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกประเภท และสถานศึกษาที่จัดให้มีที่พักสำหรับนักเรียนเป็นปกติธุระ (โรงเรียนประจำ) งดการใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา เพื่อจัดการเรียนการสอนในรูปแบบปกติ (On site) โดยพิจารณาจัดการเรียนการสอนในรูปแบบอื่นแทน สำหรับการสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากและมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้ง่ายทำให้เสี่ยงต่อการแพร่โรคให้ถือปฏิบัติเช่นเดียวกัน และไม่อนุญาตให้นักเรียนและครูผู้ดูแลเด็กหอพักนอน เดินทางกลับภูมิลำเนา พร้อมขอให้ผู้บริหารสถานศึกษาทุกแห่ง ดำเนินมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work Form Home) ให้เต็มความสามารถที่จะทำได้ เพื่อลดการเดินทางของบุคลากรในสังกัด ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 13 – 31 กรกฎาคม 2564
สำหรับมาตรการรองรับผู้เดินทางเข้ามาด้วยรถประจำทางสายเหนือ จากจังหวัดอุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ (หล่มสัก) กำแพงเพชร (คลองลาน) และอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ภายหลังบริษัทขนส่งได้ประกาศงดการเดินรถในเส้นทางรถสายเหนือ ทำให้มีผู้โดยสารส่วนหนึ่งเดินทางมาต่อรถในจังหวัดดังกล่าวเพื่อเดินทางเข้ามาจังหวัดเชียงใหม่ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้มอบหมายให้ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ และเทศบาลนครเชียงใหม่ ดำเนินการให้รถโดยสารที่มาจากอุตรดิตถ์ทุกคัน เข้ามาจอดในช่องทางของรถที่มาจากกรุงเทพฯ แล้วให้คงมาตรการต่าง ๆ เช่นเดียวกับรถที่มาจากกรุงเทพฯ และถ้าไม่มีหลักฐานการฉีดวัคซีนก็ให้ทำการตรวจหาเชื้อ (Swab) ทุกคน
ส่วนมาตรการสำหรับรถขนส่งสินค้า และรถยนต์โดยสารประจำทางไป-กลับพื้นที่เสี่ยง คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีมติให้บริษัทขนส่งสินค้า และบริษัทรถโดยสารประจำทาง จัดทำ Organization Quarantine ไว้สำหรับกักตัวพนักงานขับรถ หรือพนักงานประจำรถที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนครบตามกำหนด โดยไม่อนุญาตให้กลับเข้าบ้าน ในกรณีที่ไปขนส่งสินค้าในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หากกักตัวไม่ครบ 14 วัน เมื่อกลับมาต้องเริ่มต้นในการกักตัวใหม่ทุกครั้ง และตรวจหาเชื้อในวันแรก และในวันที่ 4 ทุกครั้งที่กลับเข้ามาในจังหวัด
สำหรับมาตรการตรวจคัดกรอง (Swab) ผู้ที่เดินทางมาจาก 10 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการตรวจคัดกรองที่สนามบินเชียงใหม่ สถานีขนส่งอาเขต และสถานีรถไฟ และในวันนี้ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้มีมติเพิ่มเติม ให้มีการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางมาโดยรถยนต์สำหรับกลุ่มที่มาจากจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยจะกำหนดสถานที่ตรวจคัดกรอง (Swab) ไว้ที่สถานีขนส่งอาเขตแห่งที่ 2 ทั้งนี้ผู้ที่เดินทางมาโดยรถยนต์ เมื่อมาถึงด่านตรวจคัดกรองที่อำเภอสารภีแล้ว เจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบการลงทะเบียนระบบ CM-CHANA และหากพบว่ายังไม่มีการฉีดวัคซีนหรือฉีดวัคซีนแล้วแต่ยังไม่ครบโดส เจ้าหน้าที่จะออกเอกสารและให้รถแต่ละคันเดินทางไปตรวจคัดกรอง (Swab) ที่ สถานีขนส่งอาเขต แห่งที่ 2 หากมีการหลบหนีไม่ไปตรวจคัดกรองก็จะมีการสกัดจับและมีความผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อเป็นการติดตามและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
