เชียงใหม่-พบเพิ่มอีก 2 คลัสเตอร์ เตรียมยกระดับเพิ่มการตรวจคัดกรอง
ภาพ-ข่าว:สุดาภรณ์ อินต๊ะธรรม / พยุงศักดิ์ เทพแก้ว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
วันนี้ (17 ก.ค. 64) ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมแถลงสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ประจำวัน
ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 52 ราย ลดลงจากเมื่อวาน แต่ยังคงมีความสำคัญสูง เพราะมีความสัมพันธ์กับคลัสเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม และคลัสเตอร์ใหม่ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมระลอกตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 เป็น 4,678 ราย รักษาหายแล้ว 4,181 ราย ยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภท จำนวน 466 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลสนาม 224 ราย โรงพยาบาลรัฐ 142 ราย โรงพยาบาลเอกชน 99 ราย และโรงพยาบาลต่างจังหวัด 1 ราย วันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมของจังหวัดเชียงใหม่ยังอยู่ที่ 27 ราย ขณะที่กลุ่มผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่นั้น แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 350 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 90 ราย อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 23 ราย และผู้ป่วยอาการหนัก (สีแดง) 3 ราย การตรวจหาเชื้อ COVID-19 ในกลุ่มเสี่ยงสูงหรือผู้สัมผัส เมื่อวานนี้ (16 ก.ค. 64) ตรวจไปทั้งหมด 2,233 ราย พบติดเชื้อ 52 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.33 ด้านปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อพบจากการสัมผัสในชุมชนเพิ่มมากขึ้นจาก 3 คลัสเตอร์ใหญ่ๆ เป็นการติดต่อที่รวดเร็วมาก และติดต่อกันในชุมชน โดยขณะนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กำลังส่งตรวจสายพันธุ์ว่าเป็นสายพันธุ์ใด
สำหรับผู้ติดเชื้อในจังหวัด วันนี้มี 38 ราย มาจากคลัสเตอร์ใหม่ 2 คลัสเตอร์ คือคลัสเตอร์โรงเรียนศรีจอมทอง เพิ่ม 9 ราย คลัสเตอร์คนเก็บลำไย ตำบลแม่สอย อำเภอจอมทอง เพิ่ม 15 ราย ส่วนคลัสเตอร์ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม เพิ่ม 5 ราย และคลัสเตอร์ไซต์งานก่อสร้างแยกศาลเด็ก พบเพิ่ม 2 ราย ด้านคลัสเตอร์ใหม่ โรงเรียนศรีจอมทอง พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 9 ราย รวมเป็น 11 ราย เป็นคลัสเตอร์ที่คุณครูกลับไปเยี่ยมบ้านที่ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม แล้วรับเชื้อกลับมาแพร่ต่อภรรยาที่เป็นครูโรงเรียนศรีจอมทอง และแพร่กระจายต่อไปยังนักเรียนและผู้สัมผัสใกล้ชิด คลัสเตอร์ใหม่อีก 1 คลัสเตอร์ คือ คลัสเตอร์รับจ้างเก็บลำไย ตำบลแม่สอย อำเภอจอมทอง ยังไม่พบว่า 2 คลัสเตอร์ใหม่นี้มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ โดยเมื่อวานนี้พบผู้ติดเชื้อที่มารับจ้างเก็บลำไย เดินทางกลับบ้านที่อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน แล้วกลับมา และทีมโควิดชุมชนสังเกตเห็นว่า มีผู้มีอาการคล้ายไข้หวัดหลายคน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเทศบาลนำคนงานขึ้นรถพาไป Swab ที่อำเภอจอมทอง ผลพบเชื้อ จากการติดตามตรวจกลุ่มเสี่ยงสูงวันนี้พบติดเชื้อเพิ่มอีก 15 คน รวมทั้งหมด 18 คนโดยมีการติดเชื้อในกลุ่มนักเรียนโรงเรียนบ้านโรงวัว และที่สำคัญขณะที่มีอาการและรอผลตรวจ ผู้ติดเชื้อบางรายยังไปเก็บลำไยที่ อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูนด้วย
ส่วนคลัสเตอร์เดิม คือ คลัสเตอร์ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 5 ราย รวม 17 ราย ขณะนี้โรงพยาบาลสนามบ้านกองแหะ มีผู้พักรักษา 28 ราย เป็นนักเรียนชาย 23 คน ครู 4 คน และผู้ปกครอง 1 คนช่วยดูแล ส่วนผู้ใหญ่รายอื่นๆและเด็กที่มีอาการกลุ่มสีเหลืองขึ้นไป ได้นำมารักษาในโรงพยาบาลในอำเภอเมืองและโรงพยาบาลสนามแล้ว คลัสเตอร์ไซต์งานก่อสร้างแยกศาลเด็ก วันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2 ราย จากการตรวจคัดกรองรองที่สอง ก่อนกักตัวครบ 14 วัน ส่วนผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ วันนี้พบทั้งหมด 14 ราย มาจากกรุงเทพมหานคร 9 ราย สมุทรสาคร 3 ราย และปทุมธานี 2 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้มีภูมิลำเนาในจังหวัดเชียงใหม่ แล้วเดินทางมาขอรับการรักษาในจังหวัด ผู้สัมผัสจะมีน้อย สืบเนื่องจากมีการพบการระบาดในจังหวัดอื่นๆ นอกเหนือจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัดมากขึ้น ในวันพรุ่งนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ จะทำการพิจารณาเพิ่มมาตรการต่อจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก หากเดินทางจากจังหวัดเสี่ยงเหล่านั้น จะต้องกักตัวและตรวจหาเชื้อ ทั้งนี้เพื่อความปอดภัยของพี่น้องประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่
ดร.ทรงยศ ได้แจ้งเตือนประชาชนในการรับข้อมูลข่าวสารว่า อย่าตื่นตระหนกจนเกินไป โดยเฉพาะข่าวที่เป็นเท็จและส่งต่อกันในสื่อโซเซียล ที่ไม่มีแหล่งที่มาและข้อมูลที่ชัดเจน โดยขอให้ติดตามข้อเท็จจริงจากศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค COVID-19 จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมย้ำให้ทุกคนรักษามาตรการการป้องกันโรคส่วนบุคคลให้เคร่งครัด